Page 17 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 17

ความร​ ู้พ​ ื้นฐ​ าน​เกี่ยวก​ ับ​บทเ​รียน​และ​สื่อ​การส​ อน​ภาษา​อังกฤษ 1-7

เรื่อง​ที่ 1.1.2	 ประเภท​ของบ​ ท​เรียนภ​ าษา​องั กฤษ
​	 และก​ ารน�ำ ไ​ ป​ใช​้ประโยชนใ์​นก​ าร​เรียนก​ ารส​ อน

       ในอ​ ดีต บทเ​รียน​ภาษาอ​ ังกฤษ​มัก​จะป​ รากฏอ​ ยู่ใ​นร​ ูป​แบบ​ของห​ นังสือ หรือต​ ำ�ราเ​รียน​เป็นส​ ่วนใ​หญ่
แต่​ใน​ปัจจุบัน ด้วย​ความ​ก้าวหน้า​ของ​เทคโนโลยี ทำ�ให้​บท​เรียน​ภาษา​อังกฤษ​ไม่​ได้​ถูก​จำ�กัด​อยู่​แต่​การ​เรียน​
ใน​หนังสือ​หรือ​แบบ​เรียน​ใน​ห้องเรียน​เท่านั้น บท​เรียน​ภาษา​ได้​รับ​การ​พัฒนา​เพื่อ​นำ�​มา​ใช้​ใน​การ​เรียน​การ​
สอนภ​ าษา มี​ทั้ง​ที่ป​ รากฏใ​น​รูปแ​ บบ​ของห​ นังสือ​เรียน สื่ออ​ ิเล็กทรอนิกส์ และส​ ื่ออ​ อนไลน์ เป็นต้น มี​รูปแ​ บบท​ ี​่
หลาก​หลาย เพื่อ​ทำ�ให้​บทเ​รียน​นั้น ๆ น่า​สนใจ​สำ�หรับ​ผู้เ​รียน เปิด​โอกาส​ให้​ผู้เ​รียน​สามารถ​เลือก​รูป​แบบ​ของ​
บท​เรียน​ที่​ตรง​ตาม​ความ​ต้องการ​มาก​ขึ้น บท​เรียน​มี​หลาย​ประเภท แต่​ต่าง​ก็​มี​การ​ออกแบบ​เพื่อ​ก่อ​ให้​เกิด​
ประโยชน์ส​ ำ�หรับ​ผู้​เรียน ทำ�ให้ก​ าร​เรียนก​ าร​สอน​มี​ประสิทธิภาพ ตรง​ตาม​เป้า​หมายแ​ ละ​วัตถุประสงค์ใ​น​การ​
เรียน​รู้ข​ อง​บท​เรียน​นั้น

ประเภท​ของ​บท​เรียน​ภาษาอ​ ังกฤษ

       เนื้อหา​ของ​บท​เรียน​ภาษา​อังกฤษใ​น​ปัจจุบัน ปรากฏใ​น​หลาย​รูป​แบบ เพื่อ​จูงใจใ​ห้​ผู้​เรียน​เกิด​ความ​
ต้องการท​ ี่​จะ​เรียน​รู้​ภาษาอ​ ังกฤษม​ ากย​ ิ่งข​ ึ้น โดย​แบ่งเ​ป็นป​ ระเภทห​ ลัก ๆ ดังนี้

       1. 	 บท​เรียน​ใน​หนังสือ และ​ตำ�รา​เรียน (textbook) หนังสือ​เรียน​เปรียบ​เสมือน​ตัว​กำ�หนด​เนื้อหา
กิจกรรม เป็น​แหล่ง​ข้อมูล​ที่​ดี​เยี่ยม​ใน​การ​ให้​ข้อมูล มี​การ​สรุป​หลัก​การ ตลอด​จน​กำ�หนด​จุด​มุ่ง​หมาย​ให้​ครู
ผ​ ู้ส​ อนแ​ ละผ​ ู้เ​รียนใ​ช้เ​ป็นแ​ นวทาง​การเ​รียนร​ ู้แ​ ต่ละเ​รื่องท​ ี่ห​ ลักสูตรก​ ำ�หนด​ไว้ ดังจ​ ะเ​ห็นไ​ด้จ​ ากง​ านว​ ิจัยท​ ี่ม​ ีก​ าร​
วิเคราะห์​หนังสือ​เรียน เพื่อ​ให้​สอดคล้อง​กับ​หลักสูตร (สุ​มิต​รา อัง​วัฒน​กุล. 2540) นำ�​เสนอ​เนื้อหา​ที่​สำ�คัญ
สามารถก​ �ำ หนดแ​ นวทางใ​นก​ ารเ​รยี นก​ ารส​ อนไ​ดโ​้ ดยใ​ชห​้ นงั สอื เ​รยี นเ​ปน็ แ​ นวทาง เปน็ ส​ ิง่ ท​ ผี​่ สู​้ อนใ​ชค​้ วบคกู​่ นั ไ​ป​
กับก​ ารเ​รียนก​ ารส​ อนภ​ าษาอ​ ังกฤษใ​นช​ ั้นเ​รียนเ​ป็นส​ ่วนใ​หญ่ การอ​ อกแบบต​ ำ�ราเ​รียน กิจกรรม และเ​นื้อหาค​ วร​
มีค​ วามส​ อดคล้องก​ ัน ควร​มี​รูป​แบบ​และ​การนำ�​เสนอเ​นื้อหาท​ ี่ด​ ี มี​ความ​เหมาะส​ มแ​ ละล​ งตัว​กับ​กาลส​ มัย​และ
ผ​ ูเ้​รียน หนังสือเ​รียนเ​ปรียบเ​สมือนผ​ ูช้​ ่วยข​ องค​ รู เพราะผ​ ูแ้​ ต่งห​ นังสือเ​รียนเ​ป็นผ​ ูเ้​ชี่ยวชาญแ​ ละม​ ปี​ ระสบการณ์
อีกท​ ั้งม​ ีก​ ารผ​ ่านก​ ารต​ รวจส​ อบม​ าตรฐานจ​ ากก​ ระทรวงศ​ ึกษาธิการ ทำ�ให้เ​ป็นท​ ี่น​ ่าเ​ชื่อถ​ ือว่าภ​ าษาใ​นบ​ ทเ​รียนม​ ​ี
ความถ​ ูกต​ ้อง แน่นอน​มากกว่าท​ ี่ค​ รู​จะเ​ขียนเ​อง

       หนังสือ​เรียนภ​ าษาอ​ ังกฤษใ​น​ปัจจุบัน แบ่งเ​ป็นป​ ระเภท​หลัก ๆ ได้ 2 ประเภท​คือ หนังสือ​เรียนแ​ บบ​
ดั้งเดิม​และ​หนังสือ​เรียน​แบบ​เน้น​การ​สื่อสาร ทั้ง 2 ประเภท มี​แนวทาง​การ​เขียน​ที่​แตก​ต่าง​กัน​อย่าง​ชัดเจน
กล่าว​คือ แบบ​ดั้งเดิม​เน้น​การนำ�​เสนอ​โครงสร้าง​หรือ​ไวยากรณ์​มากกว่า​การ​ใช้​ภาษา มี​รูป​แบบ​กิจกรรม​
หรือ​แบบ​ฝึกหัด​ที่​เน้น​การ​ฝึก​ซํ้า ๆ เพื่อ​ความ​ถูก​ต้อง (accuracy) มากกว่า​ต้องการ​สื่อสาร​เพื่อ​ความ​คล่อง
(fluency) ฉะนั้นผ​ ู้เ​รียนท​ ี่เ​รียนโ​ดยใ​ช้ห​ นังสือเ​รียนแ​ บบด​ ั้งเดิม มักจ​ ะม​ ีค​ วามส​ ามารถท​ างการส​ ื่อสารท​ ี่ต​ ํ่าก​ ว่า​
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22