Page 31 - ศิลปะกับสังคมไทย
P. 31
ดนตรีกับสงั คมไทย 9-21
- ผางฮาด เปน็ เครอ่ื งตที ำ� ดว้ ยโลหะผสมไมม่ ปี มุ่ นนู ตรงกลาง ใชต้ ปี ระกอบรำ� ฟอ้ นของทาง
ภาคเหนือ เชน่ ฟอ้ นภูไท ฟอ้ นกลองตมุ้
- กลองแอว เปน็ กลองทขี่ ึงด้วยหนงั ด้านเดยี วใบใหญ่มาก เวลาตจี ะมคี นหาม 2 คน โดย
ทว่ั ไปมหี ลายขนาด ทงั้ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเลก็ ไมก่ ำ� หนดความยาวแนน่ อน จะทำ� ขนึ้ ใชเ้ อง
ตามแตท่ ี่จะหนุ่ ไมไ้ ด้ยาวและใหญ่แคไ่ หน กลองแอวนนี้ ยิ มมีไว้ท่วี ัดใชต้ ีเปน็ สัญญาณ ตใี นขบวนแหต่ ่างๆ
และยังนิยมนำ� มาตีประกวดเสยี งด้วย
- ตะโล๊ดโป๊ด เครื่องตีท่ีขึงด้วยหนัง 2 ด้าน กลองพ้ืนบ้านภาคเหนืออีกชนิดหน่ึงเรียกว่า
ตะโลด๊ โปด๊ ซึง่ จะนิยมตีคู่กันกับกลองแอวในขบวนแห่ และใชต้ ีประกอบการฟ้อน กลองตะโล๊ดโปด๊ จะผกู
แขวนห้อยไปกับกลองแอวท่ีมีคนหามจะตีเป็นจังหวะหลักเพื่อให้ฉาบหรือเคร่ืองดนตรีอื่นตีสอดประสาน
ตามท�ำนองเพลง
- กลองทงิ่ บอ้ ม เปน็ กลองพน้ื เมอื งของภาคเหนอื ทขี่ งึ หนงั หนา้ เดยี วคลา้ ยกลองยาวมคี วาม
ยาวประมาณ 80 เซนติเมตร ใช้ตีในวงกลองท่งิ บอ้ ม ในขบวนแหแ่ ละฟอ้ นดาบ ไมน่ ยิ มนำ� ผ้าสมี าประดับ
หุ้มกลอง
- กลองปูจา เป็นกลองพื้นเมืองของภาคเหนือ เรียกว่า “กลองปูจา” หรือ “กลองบูชา”
เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 85 เซนติเมตร กลองปจู าน้มี ขี นาดใหญม่ ากขึงดว้ ยหนังสองหน้า คนสามารถ
เขา้ ไปนง่ั ในกลองได้ นยิ มมไี วต้ ามวดั ตา่ งๆ ทางภาคเหนอื ใชต้ บี อกงานตา่ งๆ ใหช้ าวบา้ นทราบวา่ จะมงี าน
ทว่ี ดั เมอื่ ไดย้ นิ เสยี งกลองชาวบา้ นกจ็ ะมาพรอ้ มกนั ทว่ี ดั กลองบชู าจะมเี ปน็ ชดุ โดยมกี ลองเลก็ ๆ อกี 3 ใบ
มาตีประกอบ เรียกกลองใบเล็กว่า กลองลูกตุบ ซ่ึงจะขึงด้วยหนังหน้าเดียวการวางกลองลูกตุบจะวางไว้
ข้างๆ กลองปูจาตามแต่ความถนดั ของผู้ตี ไมท้ ีใ่ ช้ตีมี 2 อนั ท�ำจากไม้เนอ้ื แข็ง
- กลองสะบดั ชยั กลองสะบดั ชยั ขงึ ดว้ ยหนงั 2 หนา้ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางหนา้ กลองประมาณ
60 เซนตเิ มตร กลองสะบดั ชยั ใชใ้ นการออกศกึ สงครามและใชป้ ระกอบพธิ ตี า่ งๆ รวมทง้ั ตบี อกสญั ญาณและ
ใชใ้ นการประกอบการแสดงตา่ งๆ การตกี ลองมศี ลิ ปะการตที สี่ วยงาม มที า่ ทางตา่ งๆ ไมต้ ี 2 อนั มภี ปู่ ระดบั
มักตีอวดฝีมือต้อนรบั แขกเมือง ใช้ในขบวนแหแ่ ละงานเลีย้ งขันโตก
- กลองมองเซิง กลองพืน้ เมืองภาคเหนอื อกี ชนดิ หนึ่งขึงดว้ ยหนัง 2 หน้า หนา้ กลองด้าน
ใหญ่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 40 เซนติเมตร หน้ากลองด้านเล็กมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 35
เซนตเิ มตร กลองมองเซงิ จะใชต้ ปี ระกอบกบั การตฆี อ้ งโดยจะเนน้ เสยี งฆอ้ งเปน็ หลกั ใชใ้ นการฟอ้ น การแห่
และยังมเี คร่ืองดนตรีอืน่ ๆ ท่ใี ช้ประกอบการแสดง เช่น ฉิง่ ฉาบ เป็นตน้ กลองมองเซิงใบเลก็ จะเรียกกนั
วา่ กลองมองลาว มีลักษณะเหมอื นกันแต่มใี บเลก็ กวา่ นยิ มใชใ้ นขบวนแห่เพราะไมห่ นัก
- กลองเตง่ ทง่ิ เปน็ กลองพน้ื เมอื งภาคเหนอื ทข่ี งึ ดว้ ยหนงั 2 หนา้ มขี าตงั้ คลา้ ยตะโพนมอญ
ใบใหญ่ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางหนา้ ใหญป่ ระมาณ 42 เซนตเิ มตร หนา้ เลก็ ประมาณ 35 เซนตเิ มตร ใชต้ ปี ระกอบ
การแสดง พิธกี รรม มหี นา้ ทับเฉพาะตวั ในวงพาทย์ฆ้องหรือวงปพี่ าทย์ล้านนา
- กลองโป่งโป้ง เป็นกลองพ้ืนเมืองภาคเหนือที่ขึงด้วยหนัง 2 หน้า มีขาตั้ง มีลักษณะ
คลา้ ยตะโพนไทยใช้ตคี กู่ ันไปกับกลองเต่งทิ่ง ในพิธีกรรม ในการประกอบการแสดง ฯลฯ ในวงพาทย์ฆอ้ ง