Page 54 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 54
4-44 ความรู้ทางสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรับนักนเิ ทศศาสตร์
เรื่องท่ี 4.2.1
การเมืองการปกครองไทยยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์
สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ (absolute monarchy) คอื ระบอบการปกครองทมี่ กี ษตั รยิ เ์ ปน็ ผปู้ กครอง
และ มสี ิทธิขาดในการบรหิ ารประเทศ ในระบอบการปกครองนี้ กษตั ริย์กค็ อื กฎหมาย กล่าวคอื ทีม่ าของ
กฎหมายท้ังปวงอยู่ที่กษัตริย์ ค�ำส่ัง ความต้องการต่างๆ ล้วนมีผลเป็นกฎหมาย กษัตริย์มีอ�ำนาจในการ
ปกครองแผ่นดินและพลเมืองโดยอิสระ โดยไม่มีกฎหมายหรือองค์กรตามกฎหมายใดๆ จะห้ามปรามได้
แม้องค์กรทางศาสนาอาจทัดทานกษัตริย์จากการกระท�ำบางอย่างและกษัตริย์จะถูกคาดหวังว่าจะปฏิบัติ
ตามธรรมเนียม แต่ในระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์ไมม่ ีรฐั ธรรมนูญหรือ กฎหมายใดๆ ทจ่ี ะอยู่เหนือกวา่
คำ� ชข้ี าดกษตั รยิ ต์ ามทฤษฎพี ลเมอื งระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยม์ อบความไวว้ างใจทง้ั หมดใหก้ บั พระเจา้
แผน่ ดนิ ท่ีดพี รอ้ มทางสายเลอื ดและไดร้ ับการเลย้ี งดฝู กึ ฝนมาอย่างดีต้งั แต่เกดิ
การเมืองการปกครองของไทยต้ังแต่สมัยสุโขทัยจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่
หวั รชั กาลที่ 7 เปน็ การปกครองแบบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยท์ พี่ ระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ผทู้ ม่ี อี ำ� นาจสงู สดุ ในการ
บรหิ ารประเทศแตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว เพยี งแตม่ กี ารปรบั เปลย่ี นใหเ้ กดิ ความเหมาะสมในแตล่ ะยคุ สมยั เพราะเมอ่ื
สภาพแวดล้อมและเวลาเปลยี่ นไประบบที่เคยมีประสทิ ธภิ าพกก็ ลายเป็นระบบที่ขาดประสทิ ธิภาพ นำ� ไปสู่
ความซำ้� ซอ้ นและเกดิ ความลา่ ชา้ ในการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ดา้ นตา่ งๆ เชน่ ภาษอี ากร การควบคมุ กำ� ลงั คน
การศาล การศกึ ษา เปน็ ต้น
1. การเมืองการปกครองสมัยสุโขทัย
วิธีการปกครองในสมัยสุโขทัยน้ันนับถือพระเจ้าแผ่นดินอย่างบิดาของประชาชนท้ังปวง วิธีการ
ปกครองนำ� ลกั ษณะการปกครองสกลุ มาเปน็ คติ เชน่ แนวคดิ บดิ าปกครองครวั เรอื น หลายครวั เรอื นรวมกนั
เป็นบ้าน อยูใ่ นปกครองของพ่อบ้าน ผ้อู ยใู่ นปกครองเรียกว่า ลูกบา้ น หลายบา้ นรวมกนั เป็นเมือง ถา้ เปน็
เมอื งขน้ึ อยใู่ นความปกครองของพอ่ เมอื ง ถา้ เปน็ ประเทศราชเจา้ เมอื งเปน็ ขนุ หลายเมอื งรวมกนั เปน็ ประเทศ
อยู่ในความปกครองของพ่อขุน แม้ว่าระบอบการปกครองของสุโขทัยจะเป็นแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
เพราะอำ� นาจสงู สุดเดด็ ขาดไมว่ า่ จะในด้านนิตบิ ัญญัติ บริหาร และตลุ าการ รวมอยทู่ ีพ่ อ่ ขนุ เพยี งพระองค์
เดียว และพ่อขุนไม่จ�ำเป็นต้องรับผิดชอบต่อประชาชน แต่ด้วยการจ�ำลองลักษณะครองครัวมาใช้ในการ
ปกครองท�ำให้ลักษณะการใช้อ�ำนาจของพ่อขุนเกือบทุกพระองค์เปน็ ไปในลกั ษณะทางใหค้ วามเมตตาและ
เสรภี าพแกร่ าษฎรตามสมควร
พ่อขุนแห่งกรุงสุโขทัยทรงปกครองประชาชนในลักษณะ บิดาปกครองบุตร คือ ถือพระองค์เป็น
พ่อของราษฎร มหี นา้ ท่ใี ห้ความคุ้มครองป้องกนั ภัย และส่งเสริมความสขุ ใหร้ าษฎร ราษฎรในฐานะบตุ รก็
มีหน้าท่ีให้ความเคารพเชื่อฟังพ่อขุน ปรากฏว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อขุนกับประชาชนในลักษณะการ
ปกครองแบบบดิ าปกครองบตุ รมคี วามใกลช้ ดิ กนั พอสมควร จะเหน็ ไดจ้ ากการทรี่ าษฎรในสมยั สโุ ขทยั มสี ทิ ธิ