Page 50 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 50

4-40 ความรทู้ างสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรับนักนิเทศศาสตร์
ได้ในรอบที่สองอาจจะหันไปสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกต้ังในรอบท่ีสองคนใดคนหนึ่ง และเป็นปัจจัยส�ำคัญ
ในการช้ขี าดชยั ชนะของผู้สมคั รรบั เลอื กตัง้ ผูน้ ัน้ ได้

            นอกจากท่ีกล่าวมานี้ รัฐอาจจะก�ำหนดให้การเลือกตั้งรอบท่ีสองเป็นการแข่งขันระหว่าง
ผู้สมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 2 คนก็ได้ เช่น ก�ำหนดว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดท่ีได้คะแนนเสียงรอบแรก
เกนิ กวา่ ร้อยละ 50 ของจ�ำนวนผู้มาใช้สทิ ธิเลอื กตัง้ ยอ่ มมีสทิ ธสิ มัครรบั เลือกต้งั ในการเลอื กตั้งรอบทส่ี อง
ได้ ในกรณีน้ีการเลือกตั้งในรอบที่สอง ย่อมใช้ระบบเสียงข้างมากสัมพัทธ์ ผู้ท่ีได้คะแนนมากที่สุดในการ
เลอื กต้ังรอบทสี่ องถอื ว่าเปน็ ผูช้ นะการเลอื กตัง้

            การเลอื กตงั้ ในระบบเสยี งขา้ งมาก มผี ลเปน็ การสรา้ งความเปน็ ตวั แทนหรอื ผแู้ ทนของทอ้ งถนิ่
ยิง่ กวา่ ความเป็นผู้แทนในระดับประเทศ ในการรณรงคห์ าเสียงเลือกต้งั ผูส้ มคั รรบั เลอื กต้ังย่อมมงุ่ หาเสียง
กบั คนในพนื้ ทที่ ต่ี นลงสมคั รเปน็ สำ� คญั โดยเหตดุ งั กลา่ วผสู้ มคั รรบั เลอื กตง้ั ในระบบนจ้ี ะมงุ่ พจิ ารณาผลประโยชน์
ในระดับท้องถนิ่ เปน็ หลกั ยิง่ กวา่ ผลประโยชน์ในระดบั ประเทศ ผูไ้ ด้รบั เลือกตั้งย่อมผูกพันกับคนในพ้นื ทีย่ งิ่
กว่าผูกพันกับพรรคการเมืองท่ีส่งตนลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกต้ังในระบบเสียงข้างมากมีผลท�ำให้
วัตถุประสงค์ในการหล่อหลอมเจตจ�ำนงและความเห็นทางการเมืองของประชาชนในเขตเลือกต้ังนั้นส�ำเร็จ
ลงดยี ่ิงกว่าการเลือกตง้ั ในระบบสดั สว่ นที่จะกลา่ วถงึ ต่อไป

            2) 	การเลือกต้ังระบบสัดส่วน (proportional electoral system) โดยหลกั การแลว้ ในการ
เลือกต้ังระบบสัดส่วน พรรคการเมืองต้องท�ำบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเรียงตามล�ำดับเสนอแก่
ประชาชนผ้มู สี ทิ ธิเลอื กตงั้ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนพจิ ารณาลงคะแนนเสยี งเลอื กพรรคการเมอื งนน้ั เมือ่ มกี ารลง
คะแนนเสยี งเลอื กตงั้ แลว้ จะมกี ารคำ� นวณจำ� นวนทน่ี งั่ ของสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทพี่ รรคการเมอื งแตล่ ะ
พรรคจะไดร้ บั ทง้ั นี้ ตามสดั สว่ นของคะแนนเสยี งทปี่ ระชาชนออกเสยี งลงคะแนนใหแ้ กพ่ รรคการเมอื งนนั้ ๆ
โดยกระบวนการนี้ สภาผแู้ ทนราษฎรจงึ เปน็ เสมอื น “กระจก” สะทอ้ นภาพของกลมุ่ ผลประโยชนต์ า่ งๆ ใน
สงั คม ในการจดั การเลอื กตงั้ ระบบสดั สว่ นนร้ี ฐั อาจกำ� หนดใหพ้ รรคการเมอื งทำ� บญั ชรี ายชอื่ เพยี งบญั ชเี ดยี ว
ทง้ั น้ี โดยใชป้ ระเทศเปน็ เขตเลอื กตงั้ หรอื อาจก�ำหนดใหม้ เี ขตการเลอื กตงั้ หลายเขต และใหพ้ รรคการเมอื ง
ท�ำบญั ชีรายช่ือผสู้ มัครรบั เลือกตง้ั ตามจ�ำนวนเขตเลือกตงั้ ทกี่ ำ� หนดกไ็ ด้

            การเลือกต้งั ในระบบสดั สว่ นน้ีอาจมผี ลน�ำไปส่กู ารมีพรรคการเมอื งหลายพรรคในสภา และ
อาจสง่ ผลกระทบตอ่ การจดั ตงั้ รฐั บาลหรอื เสถยี รภาพของรฐั บาลได้ แมก้ ระนน้ั กต็ ามมผี เู้ หน็ วา่ การเลอื กตง้ั
ในระบบสัดส่วนนี้ถือเป็นการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยโดยแท้จริง ท้ังน้ีเพราะนอกจากคะแนนเสียง
ทุกคะแนนที่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งออกเสียงให้แก่พรรคการเมืองจะได้รับการน�ำมาค�ำนวณแล้ว สภาผู้แทน
ราษฎรยังสะท้อนภาพความคิดทางการเมืองของประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกต้ังอย่างตรงต่อความจริงท่ีสุด
อีกด้วย หากพจิ ารณาในแงว่ ตั ถุประสงคข์ องการเลอื กตง้ั แล้ว การเลือกตัง้ ในระบบสัดส่วนจะยงั ไมม่ ผี ลตอ่
การหล่อหลอมเจตจ�ำนงและความเห็นทางการเมืองของประชาชน แต่จะสร้างความหลากหลายทางความ
คิดของเจตจ�ำนงทางการเมอื ง อนั เนือ่ งมาจากการท่ีจะมีพรรคการเมืองหลายพรรคไดร้ ับการเลอื กตัง้ การ
หลอ่ หลอมเจตจำ� นงทางการเมอื งจะปรากฏไดก้ ต็ อ่ เมอ่ื มกี ารรวมกลมุ่ พรรคการเมอื งทม่ี แี นวนโยบายคลา้ ยกนั
ในสภาผแู้ ทนราษฎรเพ่ือเป็นฝ่ายคา้ นหรือเพื่อจดั ตงั้ รฐั บาล
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55