Page 55 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 55

ความรูด้ ้านการเมอื งการปกครอง 4-45
ถวายฎกี า หรอื รอ้ งทกุ ขโ์ ดยตรงตอ่ พอ่ ขนุ โดยในสมยั พอ่ ขนุ รามคำ� แหงมหาราชมกี ระดงิ่ แขวนไวท้ ปี่ ระตวู งั
ถ้าใครตอ้ งการถวายฎีกาก็ไปสั่นกระดิง่ พระองค์ก็จะทรงชำ� ระความให้ ส่วนการจัดการปกครองอาณาจักร
สโุ ขทัยมกี รุงสุโขทยั เปน็ ราชธานีหรอื เมอื งหลวงเป็นศูนย์กลางการปกครอง อำ� นาจการวินิจฉัยส่งั การอย่ทู ี่
เมืองหลวง ซึ่งเป็นพ้ืนที่ท�ำการของรัฐบาล และที่ประทับของพระมหากษัตริย์ การปกครองหัวเมืองหรือ
การปกครองส่วนภมู ภิ าคในสมยั สโุ ขทยั แบ่งหัวเมอื งออกเป็น 3 ประเภท คอื

       1.1 	หัวเมืองช้ันใน ได้แก่ เมืองหน้าด่าน หรือเมืองลูกหลวง จัดเป็นเมืองในวงเขตราชธานีล้อม
รอบราชธานีทง้ั 4 ดา้ น ได้แก่ ศรสี ัชนาลยั (สวรรคโลก) สองแคว (พิษณโุ ลก) สระหลวง (พิจติ ร) และ
กำ� แพงเพชร การปกครองหวั เมืองช้ันในข้นึ กบั สุโขทยั โดยตรง

       1.2 	หัวเมืองชั้นนอก ได้แก่ เมืองท้าวพระยามหานครท่ีมีผู้ปกครองดูแลโดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับ
สโุ ขทยั ในรปู ลักษณะการสวามิภกั ดิ์ ในฐานะเปน็ เมอื งข้ึน หัวเมืองชน้ั นอก ไดแ้ ก่ แพรก (สรรคบุร)ี อู่ทอง
(สุพรรณบุร)ี ราชบุรี ตะนาวศรี แพร่ หล่มสัก เพชรบูรณ์ และศรีเทพ

       1.3 	เมอื งประเทศราช ไดแ้ ก่ เมอื งทเี่ ปน็ ชาวตา่ งภาษา มกี ษตั รยิ ป์ กครองแตข่ น้ึ กบั สโุ ขทยั ในฐานะ
ประเทศราช ไดแ้ ก่ นครศรธี รรมราช ยะโฮร์ ทวาย เมาะตะมะ หงสาวดี นา่ น เซา่ เวยี งจนั ทน์ และเวยี งกา

       ลกั ษณะเดน่ ของการปกครองสมยั สโุ ขทยั เปน็ การปกครองระบอบสมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ ทม่ี ลี กั ษณะ
ปกครองแบบบิดาปกครองบตุ ร มีพระมหากษตั รยิ ์ (พ่อขุน) เป็นประมขุ โดยใหส้ ทิ ธิเสรภี าพแก่ประชาชน
และมคี วามใกลช้ ดิ กบั ประชาชนมาก กอ่ ใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดใี นชาติ เพราะความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผปู้ กครอง
กบั ประชาชนตงั้ อยบู่ นพนื้ ฐานของความเทา่ เทยี มกัน แต่มหี น้าทต่ี ่างกันเทา่ นนั้

       ในสมัยพ่อขุนรามค�ำแหง เม่ือ พ.ศ. 1826 ได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยข้ึน โดยใช้อักษรมอญและ
อักษรขอมเปน็ ตวั อย่าง รวมทัง้ อักษรไทยเกา่ แก่บางอยา่ งข้นึ ทำ� ให้ชาติไทยมีอักษรไทยใช้เป็นวัฒนธรรม
ของตนเองจากศิลาจารกึ ของพอ่ ขนุ รามคำ� แหงทำ� ใหท้ ราบวา่ ไทยเรามีระบบกฎหมายมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
ทั้งกฎหมายมรดก กฎหมายภาษี กฎหมายคา้ ขาย กฎหมายเกย่ี วกบั ทรพั ยส์ นิ

       สมยั สโุ ขทยั นอกจากจะมสี มั พนั ธอ์ นั ดกี บั รฐั ไทยอสิ ระทางเหนอื กไ็ ดม้ กี ารคา้ ขายตดิ ตอ่ กบั ตา่ งประเทศ
เชน่ จนี มอญ มลายู ลงั กา ตลอดจนอนิ เดยี เรมิ่ มชี าวตา่ งประเทศเขา้ มาคา้ ขาย และมาตงั้ ประกอบกจิ การ
ตา่ งๆ เชน่ พวกจนี เขา้ มาตง้ั ทำ� เครอื่ งสงั คโลก เปน็ ตน้ มกี ารสนบั สนนุ การคา้ โดยไมเ่ กบ็ ภาษี จงั กอบ หรอื
ศลุ กากรเพ่อื ต้องการให้พอ่ คา้ มีความสนใจทำ� การคา้

       นอกจากนพี้ อ่ ขนุ รามคำ� แหงทรงศรทั ธาในหลกั ปฏบิ ตั ทิ เ่ี ครง่ ครดั ของพระภกิ ษใุ นพระศาสนานกิ าย
หินยานท่ีมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในประเทศลังกา พระองค์จึงทรงอัญเชิญพระภิกษุสงฆ์ลัทธิลังกาวงศ์มา
ประจ�ำที่กรุงสุโขทัยท�ำหน้าที่เผยแพร่พระศาสนาลัทธิใหม่ ในระยะเวลาอันสั้นพระพุทธศาสนาลิทธิลังกา
วงศก์ ม็ คี วามเจรญิ ในสุโขทัย ประชาชนพากนั ยอมรบั นับถือและววิ ฒั นาการมาเป็นศาสนาประจ�ำชาตไิ ทย
ในทสี่ ุด

       การน�ำพระศาสนาเข้ามา และพอ่ ขุนรามค�ำแหงไดท้ รงแสดงให้ประชาชนเหน็ ถงึ ความเคารพของ
พระองค์ที่มีต่อพระภิกษุและหลักธรรม ท�ำให้ศาสนากลายเป็นเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจ ก่อให้เกิดศีลธรรม
จรรยา และระเบียบวินัยแก่ประชาชน ท�ำให้มีความสามัคคีปรองดองเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน เกิดความ
สงบเรยี บรอ้ ยในบา้ นเมอื ง เพราะทงั้ พอ่ ขนุ และประชาชนมหี ลกั ยดึ และปฏบิ ตั ใิ นทางธรรม พระมหาธรรม-
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60