Page 70 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 70
4-60 ความรทู้ างสังคมศาสตร์และเทคโนโลยีส�ำ หรบั นกั นิเทศศาสตร์
เร่ืองที่ 4.3.1
ความหมายและความส�ำคัญของการเมืองภาคพลเมือง
การเมืองภาคพลเมือง เป็นการเมืองหรือสถานการณ์ที่ประชาชนได้รับสิทธิและเสรีภาพเข้ามามี
สว่ นรว่ มในกระบวนการทางนโยบาย มกี ารกระจายอำ� นาจใหป้ ระชาชนสามารถกำ� หนดวถิ ชี วี ติ ของตนเอง
โดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ นื่ ภายใตก้ รอบของกฎหมาย โดยกจิ กรรมใดทางนโยบายทอี่ าจเกดิ ผลกระทบตอ่
ประชาชน ประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมต้ังแต่เร่ิมแรก และประชาชนสามารถด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ
ทางการเมอื งไดด้ ้วยตนเอง
ตง้ั แต่รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2540 เป็นตน้ มาได้มีเจตนารมณส์ ำ� คญั ใน
การเปล่ยี นแนวทางการเมืองของนกั การเมอื งเปน็ การเมืองของพลเมือง โดยสง่ เสรมิ สิทธิและเสรภี าพของ
ประชาชน ประชาชนมสี ว่ นรว่ มในการเมอื งการปกครอง เปน็ การเมอื งภาคพลเมอื งทคี่ วบคไู่ ปกบั การเมอื ง
ของนกั การเมอื ง การสง่ เสริมการเมืองภาคพลเมืองใหม้ ีประสิทธผิ ล ตอ้ งมีการสนับสนุน การติดตามและ
ตรวจสอบกระบวนการปฏริ ปู การเมอื ง การเกดิ องคก์ รประชาชน การรณรงคใ์ หป้ ระชาชนเรยี นรปู้ ระชาธปิ ไตย
การสรา้ งสำ� นกึ พลเมอื งเพอื่ เสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมประชาธปิ ไตย การใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบ
การเลอื กตง้ั และการตรวจสอบการใชอ้ ำ� นาจรฐั ทง้ั นี้ ตอ้ งมกี ารสนบั สนนุ ทเี่ ปน็ รปู ธรรม เชน่ กฎหมายทสี่ ง่ เสรมิ
และสนบั สนนุ การมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งของประชาชนหรอื การเมอื งภาคพลเมอื งเพอื่ ใหป้ ระชาชนสามารถ
ท�ำกจิ กรรมการเมอื งภาคพลเมอื งไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ เขม้ แข็ง ต่อเนอื่ ง เปน็ อิสระ มตี น้ ทนุ ต�ำ่ และไม่เปน็ ภาระ
แกต่ นเองมากเกนิ จำ� เปน็
1. ความหมายการเมืองภาคพลเมือง
คำ� วา่ “การเมอื งภาคพลเมอื ง” เปน็ คำ� ทม่ี กี ารพดู กนั บอ่ ยครง้ั ตง้ั แต่ รฐั ธรรมนญู ปี 2540 เปน็ ตน้ มา
ท้ังๆ ในความเป็นจริงภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย นอกเหนือจากประชาชนมีสิทธิลง
คะแนนเสยี งเลอื กตงั้ แลว้ ยอ่ มมสี ทิ ธแิ สดงความคดิ เหน็ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ ชมุ นมุ โดยสงบปราศจากอาวธุ หรอื
คดั คา้ นนโยบายบางอยา่ ง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การต่อต้านนโยบายของรัฐบาลท่จี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย
ต่อสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของตนซ่ึงมีมาตลอด แต่ก็ไม่ได้มีการเน้นมากนัก เพราะในความคิด
ดง้ั เดมิ นน้ั เชอ่ื วา่ การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ เปน็ หนา้ ทขี่ องรฐั บาลและนกั การเมอื งทไี่ ดร้ บั ความไวว้ างใจจาก
การเลือกต้ังของประชาชน จนอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หน่ึงซ่ึงล่วงลับไปแล้วได้กล่าวว่า หลังจากลงคะแนน
เสยี งเลือกตง้ั แล้ว ประชาชนควรยตุ ิความเคลื่อนไหวทางการเมอื ง ขอให้เป็นหนา้ ทีข่ องสมาชิกสภาผแู้ ทน
ราษฎรและรัฐบาล ซ่ึงค�ำพูดดังกล่าวน้ีเป็นความเข้าใจผิด เพราะหลังจากใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง
ผู้แทนราษฎร และมกี ารแตง่ ตั้งรฐั บาลแล้ว ประชาชนมีสิทธิทจี่ ะตรวจสอบการท�ำงานของรฐั บาล สามารถ
แสดงออกทงั้ ในการวพิ ากษว์ จิ ารณก์ ารทำ� งานของรฐั บาล การประทว้ งดว้ ยการเดนิ ขบวน ฯลฯ จนกวา่ รฐั บาล
จะสน้ิ สดุ ลง ทง้ั น้ี เนอ่ื งจากวา่ ทง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรและฝา่ ยบรหิ ารคอื ผซู้ ง่ึ ไดร้ บั อาณตั จิ ากประชาชน