Page 71 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 71

ความร้ดู ้านการเมืองการปกครอง 4-61
ให้ท�ำหน้าท่ีแทนตน ถ้าผู้กระท�ำหน้าที่กระท�ำสิ่งท่ีไม่ถูกต้องหรือประชาชนไม่เห็นด้วย ก็ย่อมธ�ำรงไว้ซ่ึง
สทิ ธอิ นั ชอบธรรมทจี่ ะแสดงออกทางการเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย และนคี่ อื สว่ นสำ� คญั ทสี่ ดุ ของการเมอื ง
ภาคพลเมอื ง มนี กั วชิ าการหลายทา่ นใหค้ วามหมายการเมอื งภาคพลเมอื งดงั น้ี

       นายแพทย์ประเวศ วะสี ให้ความหมายว่า การเมืองภาคพลเมืองหมายถึงพลเมืองมีส่วนร่วม
ในการก�ำหนดนโยบายสาธารณะ การวางแผนและขับเคล่ือนการพัฒนา และการตรวจสอบการใช้อ�ำนาจ
รัฐทกุ ระดบั

       เสกสรร ประเสรฐิ กลุ ไดใ้ หน้ ยิ าม การเมอื งภาคพลเมอื งวา่ หมายถงึ การเคลอื่ นไหวอยา่ งมจี ติ สำ� นกึ
ทางการเมืองของกลุ่มประชาชนเพื่อลดฐานการครอบง�ำของรัฐ รวมท้ังเพ่ือโอนอ�ำนาจบางส่วนมาให้
ประชาชนเพอื่ ใช้ดูแลชวี ติ ของตนเองโดยตรง

       สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวไว้ในเอกสารประกอบการประชุมสถาบันพระปกเกล้า (2545) ว่า
การเมอื งภาคพลเมอื งหมายความถงึ การเมอื งทปี่ ระชาชนสว่ นตา่ งๆ มสี ว่ นรว่ มในทกุ ระดบั ทง้ั ในระดบั ทอ้ งถนิ่
ระดบั ชาตแิ ละระดบั นานาชาติ เปน็ การเมืองท่ีประชาชนนอกสภาฯ มบี ทบาทและเข้าใจถึงอำ� นาจโดยตรง
ในการจดั สรรทรพั ยากรสาธารณะตา่ งๆ และการเขา้ ถงึ อำ� นาจในการกำ� หนดนโยบายสาธารณะโดยไมต่ อ้ ง
ผา่ นการเมอื งประชาธปิ ไตยแบบตวั แทน ซง่ึ หมายถงึ ตอ้ งสรา้ งประชาธปิ ไตยแบบมสี ว่ นรว่ มและประชาธปิ ไตย
ทางตรงใหเ้ กดิ ขนึ้ เพอ่ื กำ� กบั และกำ� หนดทศิ ทางการเคลอ่ื นไหวของประชาชน มากกวา่ ฝากความหวงั และ
พง่ึ พาระบบประชาธปิ ไตยแบบตัวแทนเพยี งอยา่ งเดียว

       นฤมล ทับจุมพล อธิบายว่า การเมืองภาคพลเมืองคือการท่ีประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้ามามี
สว่ นรว่ มในกระบวนการทางการเมืองในระดบั ตา่ งๆ ได้อย่างเสมอภาคและเทา่ เทยี มกนั

2. 	 ความส�ำคัญของการเมืองภาคพลเมือง

       การเกิดขึ้นและขยายตัวของการเคล่ือนไหวทางการเมืองภาคพลเมืองเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึน
ในทกุ ประเทศและพบเหน็ ไดโ้ ดยทว่ั โลก ถงึ แมว้ า่ การเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งภาคพลเมอื งจะปรากฏขน้ึ ใน
ระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างมากมาย รวมทั้งมีประเด็นในการ
เคลอ่ื นไหวเรยี กรอ้ งทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไปเปน็ อยา่ งมากกต็ าม แตภ่ ายใตค้ วามแตกตา่ งและความหลากหลาย
เหล่าน้ี กลับพบวา่ มลี กั ษณะร่วมกันที่ส�ำคญั ประการหนง่ึ คือ การเคลือ่ นไหวทางการเมอื งเหลา่ น้ลี ว้ นแลว้
แต่เป็นการเคล่ือนไหวเรียกร้องของประชาชนคนธรรมดาท่ีต้องการเรียกร้องสิทธิของตนในฐานะท่ีเป็น
ประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการเรียกร้องในเรื่องท่ีอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิข้ันพ้ืนฐานต่างๆ
ของประชาชนในด้านของสิทธิมนุษยชน รวมตลอดถึงสิทธิที่จะไม่เชื่อฟังรัฐ ในกรณีที่การกระท�ำตาม
แนวทางของรฐั จะนำ� มาซงึ่ ความเสียหายกระทบกระเทือนต่อผลประโยชนส์ ่วนรวมทส่ี ำ� คญั ของประเทศ

       การเคลอื่ นไหวดงั กลา่ ว เปน็ การใชอ้ ทิ ธพิ ลของประชาชนตอ่ สงั คมการเมอื ง และประชาชนเหลา่ น้ี
พึงกระท�ำก็คือ การแสดงให้เห็นถึงการขยายขอบข่ายทางการเมืองของภาคพลเมืองให้กว้างไกลออกไป
มากกว่าท่ีเป็นอยู่ ซ่ึงจะน�ำไปสู่การยกระดับบทบาทการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนที่เข้มแข็ง
และในทางทฤษฎีบทบาทของการเคล่ือนไหวทางการเมืองภาคพลเมืองเป็นส่วนหน่ึงของประชาสังคม
(civil society) เปน็ พลงั อิสระทอี่ ยนู่ อกระบบราชการปลอดจากการครอบงำ� โดยภาครัฐ ซงึ่ จะสามารถท�ำ
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76