Page 76 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 76

4-66 ความรทู้ างสงั คมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีส�ำ หรับนักนิเทศศาสตร์
ภาคสงั คม กลมุ่ สมชั ชาคนจน ฯลฯ ไปจนถงึ กลมุ่ องคก์ รทม่ี จี ดุ มงุ่ หมายพฒั นาการเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย
แต่ก็ยงั อยู่ในสภาวะกระจดั กระจาย ตา่ งคนตา่ งท�ำ

       อบุ ัติการณ์ “วิกฤตการเงนิ เอเชีย” อันสบื เนอ่ื งจากการลอยตัวคา่ เงนิ บาทเมอ่ื ต้นเดือนกรกฎาคม
พ.ศ. 2540 และการปดิ กจิ การบรษิ ทั เงนิ ทนุ หลกั ทรพั ย์ 56 แหง่ ในเวลาตอ่ มา ไดท้ ำ� ลายฐานโครงสรา้ งกลมุ่
ทนุ ไทยครงั้ ใหญแ่ บบไมม่ ีใครคาดคดิ มากอ่ น โดยกล่มุ ทนุ ดง้ั เดิมหดเล็กลงทนั ตา พรอ้ มๆ กบั การพองตวั
เพียงช่วั ข้ามคืนของกลมุ่ ทุนใหม่ทอ่ี ิงตดิ อยู่กับกระแสทุนโลก

       ดว้ ยกศุ โลบาย “พลกิ วกิ ฤตเปน็ โอกาส” ของกลมุ่ ทนุ ใหม่ พวกเขาไดฉ้ วยจงั หวะทก่ี ลมุ่ ทนุ ดง้ั เดมิ
ยงั ไมไ่ ดฟ้ น้ื ตวั บวกกบั ภาพลกั ษณท์ ด่ี ใี นสายตาคนกรงุ และการทำ� งานเชงิ จดั ตง้ั ในหมปู่ ระชาชนทยี่ ากจน
ในชนบทหา่ งไกล กลุ่มทุนใหม่นำ� โดย พ.ต.ท.ทักษณิ ชนิ วตั ร ก็เข้ากมุ อำ� นาจทางการเมืองใน พ.ศ. 2544
พรรคไทยรกั ไทยสามารถครองเสยี งขา้ งมากในสภาผแู้ ทนราษฎร พรอ้ มกบั กวาดตอ้ นพรรคการเมอื งขนาด
กลางและเล็กจ�ำนวนหนึ่งเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย จัดตั้งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกต้ังที่มี
เสถียรภาพสงู สุด สามารถบรหิ ารประเทศจนครบวาระ 4 ปี และได้รบั ชยั ชนะอยา่ งถลม่ ทลายในการเลือก
ต้ังใหญ่และจัดต้ังเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอีกครั้งในปี พ.ศ. 2548 และมีแนวโน้มที่จะครองอ�ำนาจยืดเย้ือ
ตอ่ ไปอีกหลายสมัย

       กระนนั้ แนวการบรหิ ารอำ� นาจแบบถอื เอาผลประโยชนก์ ลมุ่ ตนเปน็ ทตี่ งั้ ไดส้ รา้ งความไมพ่ อใจให้
แก่กลุ่มทุนดั้งเดิมและประชาชนท่ัวไปเป็นอย่างมาก อีกทั้งสวนทางอย่างชัดเจนต่อแนวโน้มพัฒนาการ
ทางการเมอื งของประเทศตา่ งๆ ในยา่ นเอเชยี แปซฟิ กิ ทเ่ี นน้ ความโปรง่ ใส เปน็ ธรรมาภบิ าล ไดน้ ำ� ไปสกู่ าร
วพิ ากษว์ จิ ารณถ์ งึ ความไมช่ อบมาพากลในการใชอ้ ำ� นาจบรหิ ารประเทศ และการจดั สรรทรพั ยากรในสงั คม
ของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะพฤติกรรมที่น�ำไปสู่การเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
ของ พ.ต.ท.ทกั ษณิ ชนิ วัตรและคณะ ในหลายๆ กรณี

       การไม่รับฟังข้อทักท้วงและตอบโต้ด้วยมาตรการแข็งกร้าว ได้กระตุ้นให้เกิดกระแสคล่ืนต่อต้าน
นำ� โดยพันธมติ รประชาชนเพอ่ื ประชาธปิ ไตย กระทั่งพัฒนาเป็นขบวนการขับไลโ่ ค่นลม้ ระดับชาติ และนำ�
ไปสกู่ ารรฐั ประหารยึดอำ� นาจของคณะ “คมช.” เมื่อวันท่ี 19 กนั ยายน พ.ศ. 2549 ในท่ีสดุ

       ในช่วงการบริหารประเทศของกลุ่มทุนใหม่ที่มีพรรคไทยรักไทยเป็นตัวแทน การเคลื่อนไหวของ
ขบวนการการเมืองภาคพลเมืองถูกดึงไปพ่วงเข้ากับอ�ำนาจกลุ่มทุนใหม่ ประสานสอดไปกับการด�ำเนิน
นโยบายของรัฐบาล ไม่อยใู่ นฐานะท่ีจะตอ่ รองกับภาครฐั บาลได้

       การเกดิ ขน้ึ ของพนั ธมติ รประชาชนเพอ่ื ประชาธปิ ไตย เปน็ ผลจากการรวมตวั กนั เขา้ ของกลมุ่ องคก์ ร
ทตี่ อ่ ตา้ นการผกู ขาดอำ� นาจ และการใชอ้ ำ� นาจแบบฉอ้ ฉลของกลมุ่ ทนุ ใหมท่ เี่ ปน็ แกนนำ� ในพรรคไทยรกั ไทย
โดยตรง สามารถระดมมวลชนเข้าร่วมการเคลื่อนไหวได้อย่างกว้างขวางในระยะเวลาอันส้ัน นับเป็น
ปรากฏการณ์ใหม่ของขบวนการการเมืองภาคพลเมือง โดยเฉพาะจุดเด่นที่เน้นการเปิดโปงโฉมหน้าท่ีแท้
จริงของ “ระบอบทักษิณ” สามารถสร้างความต่ืนตัวระดับชาติ มีสถานภาพเป็นขบวนการการเมืองภาค
พลเมืองระดับชาติขน้ึ
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81