Page 72 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 72

4-62 ความรู้ทางสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรับนกั นเิ ทศศาสตร์
หนา้ ทถ่ี ว่ งดลุ กำ� กบั หรอื ตรวจสอบการดำ� เนนิ งานของภาครฐั ใหเ้ กดิ ความชอบธรรมได้ รวมทงั้ ยงั สง่ เสรมิ
บทบาทของภาคพลเมอื งใหม้ สี ่วนร่วมพฒั นาสังคม พฒั นาประเทศ เพ่ือการดำ� รงชวี ิตทม่ี คี ณุ ภาพมากข้นึ
แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามการเคลอื่ นไหวทางการเมอื งของภาคพลเมอื งเพอื่ เรยี กรอ้ งสทิ ธดิ งั กลา่ วนนั้ ตอ้ งไมใ่ ชว่ ธิ กี าร
แสดงออกที่ท�ำความเดือดร้อนให้กับบุคคลอ่ืนหรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น การแสดงออกควรอยู่ภายใต้
กรอบของกฎหมายและมกี ารเคลอื่ นไหวอยา่ งมจี ติ สำ� นกึ ทางการเมอื ง เพอ่ื ใหป้ ระเทศชาตพิ ฒั นาตอ่ ไปตาม
ระบอบประชาธิปไตย การสร้างประชาธปิ ไตยแบบการเมอื งสว่ นร่วม (Participatory democracy) และ
ประชาธปิ ไตยทางตรงเพือ่ กำ� กบั กำ� หนดทิศทางตรวจสอบการใช้อ�ำนาจของรัฐเป็นสงิ่ จำ� เป็น

       การเคลื่อนไหวภาคประชาสังคม (civil society movement) หรือภาคพลเมืองดังกล่าวมีองค์
ประกอบส�ำคัญคือ พลเมืองที่กระตือรือร้น (active citizen) มุ่งปกป้องคุ้มครองสิทธิและมุ่งประโยชน์
สาธารณะเป็นพลงั สำ� คญั นยั โดยทัว่ ไปของ “พลเมือง” กำ� หนดไว้ 2 ระดบั คอื

       1. 	ระดบั ของการเปน็ พลเมอื งตามสภาพทางกฎหมายและการเมอื ง ซง่ึ เปน็ ความหมายพน้ื ฐานท่ี
วา่ พลเมอื งคอื ฐานะสมาชกิ ของรฐั และชมุ ชน มสี ทิ ธแิ ละความรบั ผดิ ชอบตามทก่ี �ำหนดในกฎหมาย เชน่ การ
เคารพกฎหมาย การออกเสียงเลอื กตง้ั การช�ำระภาษี และการเปน็ ทหาร

       2. 	ระดบั ของการมสี ว่ นรว่ มในกจิ การสาธารณะ ซงึ่ หมายถงึ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกตอ่ กจิ การสาธารณะ
ที่มุ่งให้ชีวิตสาธารณะหรือชีวิตส่วนรวมดีขึ้น มีการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์
ตอ่ สภาพสว่ นรวมและการเมอื ง มสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาคณุ ภาพทางการเมอื งและชวี ติ สาธารณะซง่ึ สามารถ
ปฏบิ ตั ไิ ดต้ งั้ แต่ การออกเสยี งเลอื กตง้ั การวพิ ากษว์ จิ ารณ์ การกำ� หนดนโยบายหรอื กฎหมาย การเคลอื่ นไหว
ทางการเมอื ง การยนื หยดั ทางการเมอื งในประเดน็ ตา่ งๆ หรอื การแสดงพลงั ในการผลกั ดนั ทศิ ทางการเมอื ง

       การเมอื งภาคพลเมอื งในทนี่ จี้ งึ เปน็ การรวมตวั ของพลเมอื งทเ่ี ปน็ เจา้ ของอำ� นาจการปกครองตนเอง
(self-government) มีความเชื่อมัน่ ในการกำ� หนดอนาคตประเทศชาติ (self-determination) มอี ำ� นาจ
ในการถว่ งดุลการใช้อำ� นาจของตัวแทนท่ีไดร้ ับการเลือกเข้าไปโดยชอบธรรม

       พลังทางการเมอื งภาคพลเมอื งจงึ ต้องประกอบดว้ ยพลเมอื งทมี่ อี ำ� นาจ 3 ประการ
       1. 	อ�ำนาจโดยความรู้ หมายถงึ ความรแู้ ละเขา้ ใจเรอื่ งการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย
รฐั ธรรมนญู โครงสรา้ งรฐั อำ� นาจของรฐั องคก์ รและสถาบนั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง สทิ ธเิ สรภี าพ ชอ่ งทางการใชอ้ ำ� นาจ
ของตน หน้าทขี่ องตน ทอ้ งถิ่น ชุมชน และ สงั คมโลก
       2. 	อ�ำนาจในการปฏิบัติ หมายถงึ การมีทักษะทางการเมืองทีไ่ ม่ใช่เพียงการเลอื กต้ัง แตร่ วมถงึ
ทกั ษะการรวมกลมุ่ แสดงความคดิ เหน็ และอภปิ รายอยา่ งมเี หตผุ ล การมสี ว่ นรว่ มคดิ วเิ คราะห์ ไตรต่ รองและ
ใคร่ครวญ การค้นหา การใช้ข้อมลู ข้อเทจ็ จริงและการเคลือ่ นไหวทางการเมอื ง
       3. 	อ�ำนาจของความคิดและทัศนคติของพลเมือง หมายถึงการมที ัศนคติและแนวโนม้ ของความ
คดิ ตามวถิ ีประชาธิปไตยซึง่ จะแสดงออกทางพฤติกรรมทีเ่ ปน็ ไปตามวถิ ีประชาธิปไตย เช่น การยอมรบั วา่
ความขดั แยง้ เปน็ เรอื่ งธรรมชาติ การแสดงความคดิ เหน็ การเคารพสทิ ธขิ องผอู้ น่ื การเคารพความแตกตา่ ง
และความเหน็ ตา่ งของบคุ คล มีความรบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ีพลเมอื งของตน
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77