Page 79 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 79

ความรูด้ ้านการเมอื งการปกครอง 4-69
       7. 	การเสนอการแกไ้ ขรฐั ธรรมนญู ประชาชนผมู้ สี ทิ ธลิ งคะแนนเลอื กตง้ั จำ� นวนหา้ หมนื่ คน มสี ทิ ธิ
เขา้ ชื่อกันเพื่อเสนอให้แกไ้ ขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ตามมาตรา 291
       8. 	การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และการรวมกลมุ่ ทางการเมอื ง ประชาชนยอ่ มมีสิทธทิ ่ีจะ
แสดงออกทางการเมืองด้วยการคัดค้านและประท้วงนโยบายบางอย่างตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ท่ีส�ำคัญจะ
ต้องชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซ่ึงมีบัญญัติไว้ในมาตรา 63 นอกเหนือจากน้ันในมาตรา 64 ยัง
บัญญัติให้ประชาชนมีสิทธิรวมกลุ่มเป็นชมรม สมาคม ซ่ึงจะมีส่วนเสริมให้มีส่วนร่วมทางการเมือง คือ
การเมอื งภาคพลเมอื ง
       9. 	การคมุ้ ครองรฐั ธรรมนญู เพอื่ รกั ษาอำ� นาจอธปิ ไตยของตน รฐั ธรรมนญู มาตรา 68 และมาตรา
69 ได้บัญญัติไว้ให้เป็นสิทธิของประชาชนท่ีจะต่อต้านความพยายามท่ีจะล้มล้างรัฐธรรมนูญซ่ึงเป็นกติกา
สูงสุดของการเมืองการปกครอง ในส่วนนเี้ หน็ ไดช้ ดั ว่าประชาชนซ่ึงเป็นเจา้ ของอำ� นาจอธปิ ไตยย่อมมสี ิทธิ
หวงแหนท่ีจะป้องกันอ�ำนาจอธิปไตยของตน เพ่ือให้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยด�ำเนินต่อไป
อย่างต่อเนอ่ื ง
       ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ภายใต้สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้
กระแสโลก 5 แนวโน้ม คือ การปกครองแบบประชาธิปไตย การเคารพสิทธิมนุษยชน การค้าเสรี การ
รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม และการเคารพสทิ ธิทรพั ย์สินทางปัญญา ไดม้ ีสว่ นอยา่ งยงิ่ ที่นำ� ไปสูก่ ารเปล่ยี นแปลง
ระบอบการปกครองแบบประชาธปิ ไตยทเ่ี ปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งอยา่ งแขง็ ขนั ในรปู
แบบของการเมอื งภาคพลเมอื ง และรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยปี 2540 และปี 2550 กไ็ ดต้ ระหนกั
ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงได้บัญญัติไว้สอดคล้องกับความเป็นจริงกับสถานการณ์ทางการเมืองท้ังภายใน
ประเทศและระหวา่ งประเทศ

รูปแบบของการเมืองภาคพลเมือง

       1. 	 การออกเสยี งประชามติ (Referendum)  การออกเสยี งประชามตเิ ปน็ รปู แบบหนงึ่ ของการเมอื ง
ภาคพลเมอื งทใ่ี หป้ ระชาชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง โดยเปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนลงคะแนนออกเสยี ง
ในกจิ กรรมหรอื ประเดน็ ตา่ งๆ วา่ เหน็ ดว้ ยหรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ยเพอ่ื เปน็ แนวทางในการตดั สนิ ใจของรฐั ในกจิ กรรม
หรือประเด็นน้ัน การออกเสียงประชามติได้มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.  2492 เป็นคร้ังแรกและ
รัฐธรรมนูญฉบับต่อมาก็มีการบัญญัติไว้เช่นกัน ส่วนการออกเสียงประชามติครั้งแรกของประเทศไทยโดย
กำ� หนดใหร้ ฐั โดยสำ� นกั งานคณะกรรมการการเลอื กตงั้   จดั ใหม้ กี ารออกเสยี งประชามตริ า่ งรฐั ธรรมนญู พ.ศ.
2550 

       2. 	ประชาพิจารณ์  (Public  hearing) ประชาพิจารณ์เป็นรูปแบบการด�ำเนินการโดยราชการ
หรือรัฐที่ให้ประชาชนมาร่วมแสดงความคิดเห็น  อาจจะมาจากความประสงค์ของราชการ หรือการท่ี
ประชาชนเคลอื่ นไหวเพอื่ ใชเ้ ปน็ พนื้ ทใ่ี นการไดโ้ อกาสเขา้ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ทเี่ ปน็ ขอ้ ขดั แยง้
ดังน้ัน  ประชาพิจารณ์จึงเป็นรูปแบบท่ีรัฐน�ำมาด�ำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนท่ี
มีความคดิ เหน็ แตกต่างกนั   และ/หรือรับประโยชน์ตา่ งกันจากโครงการพัฒนาของรัฐและเป็นกระบวนการ
ท่บี ริหารจัดการโดยราชการหรอื รัฐ 
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84