Page 84 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 84

4-74 ความรทู้ างสังคมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยสี �ำ หรบั นกั นเิ ทศศาสตร์
       แฮรีส จ.ี มอนตากู (Harris G. Montagu, 1984) กลา่ วว่า ให้ความหมายวา่ การปกครองส่วน

ทอ้ งถน่ิ หมายถงึ การปกครองซง่ึ หนว่ ยการปกครองทอ้ งถน่ิ ไดม้ กี ารเลอื กตงั้ โดยอสิ ระเพอื่ เลอื กผทู้ มี่ หี นา้ ท่ี
บรหิ ารการปกครองทอ้ งถน่ิ มอี ำ� นาจอสิ ระพรอ้ มความรบั ผดิ ชอบซง่ึ ตนสามารถทจ่ี ะใชไ้ ดโ้ ดยปราศจากการ
ควบคมุ ของหนว่ ยการบรหิ ารราชการส่วนกลางหรือภูมิภาค แต่ทง้ั น้ีหน่วยการปกครองทอ้ งถน่ิ ยังตอ้ งอยู่
ภายใตบ้ ทบงั คบั วา่ ดว้ ยอ�ำนาจสูงสดุ ของประเทศ ไม่ได้กลายเป็นรฐั อิสระใหม่แต่อยา่ งใด

       ทางดา้ นประทาน คงฤทธศกึ ษาการ (2524) เสนอวา่ การปกครองทอ้ งถน่ิ เปน็ ระบบการปกครอง
ท่ีเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระจายอ�ำนาจทางการปกครองของรัฐและโดยนัยนี้จะเกิดองค์การท�ำหน้าท่ี
ปกครองทอ้ งถนิ่ โดยคนในทอ้ งถน่ิ นน้ั ๆ องคก์ ารนจี้ ดั ตงั้ และควบคมุ โดยรฐั บาล แตก่ ม็ อี ำ� นาจในการกำ� หนด
นโยบายและควบคมุ ให้มกี ารปฏบิ ตั ิใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายของตนเอง

       อุทัย หิรัญโต (2523) เสนอว่า การปกครองท้องถิ่น คือ การปกครองที่รัฐบาลมอบอ�ำนาจให้
ประชาชนในทอ้ งถน่ิ ใดทอ้ งถนิ่ หนง่ึ จดั การปกครองและดำ� เนนิ การบางอยา่ งกนั เองเพอ่ื บำ� บดั ความตอ้ งการ
ของตน การบริหารงานของท้องถิ่นมีการจัดเป็นองค์การ มีเจ้าหน้าที่ซึ่งประชาชนเลือกตั้งขึ้นมาทั้งหมด
หรอื บางส่วน ทัง้ นม้ี คี วามเป็นอสิ ระในการบรหิ ารงาน แตร่ ฐั บาลตอ้ งควบคุมดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ ตามความ
เหมาะสม จะปราศจากการควบคมุ ของรฐั หาได้ไม่ เพราะการปกครองทอ้ งถ่นิ เป็นสง่ิ ท่ีรัฐทำ� ใหเ้ กิดข้นึ

       รอ็ บสนั (William A. Robson, 1953) กลา่ ววา่ การปกครองทอ้ งถน่ิ หมายถงึ หนว่ ยการปกครอง
ซ่งึ รัฐได้จดั ตั้งข้นึ และใหม้ อี �ำนาจปกครองตนเอง (autonomy) มีสิทธิตามกฎหมาย (legal rights) และ
ต้องมีองค์กรท่ีจ�ำเป็นในการปกครอง เพ่ือปฏิบัติหน้าท่ีให้สมความมุ่งหมายของการปกครองท้องถ่ินน้ันๆ
และเปน็ การปกครองที่รัฐบาลกลางจะมอบอำ� นาจในการปกครองรว่ มรับผดิ ชอบทง้ั หมด หรอื เพยี งแต่บาง
สว่ นในการบรหิ ารภายในขอบเขตอำ� นาจหนา้ ที่และอาณาเขตของตนท่ีกำ� หนดไว้ตามกฎหมาย

       สมคิด เลศิ ไพฑูรย์ (2547) ใหค้ วามหมายว่า การปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ คือ การให้คนในทอ้ งถน่ิ
มอี สิ ระในการปกครองกนั เอง กลา่ วอกี นยั หนง่ึ คอื การปกครองตนเองโดยประชาชนในทอ้ งถน่ิ ซง่ึ แนวคดิ
ดังกล่าวมีพ้ืนฐานจากหลักการกระจายอ�ำนาจการปกครอง (decentralization) ที่หมายถึงการท่ีรัฐมอบ
อ�ำนาจการปกครองให้องค์กรอ่ืนๆ ท่ีไม่ใช่องค์กรส่วนกลางจัดท�ำบริการสาธารณะบางอย่างภายใต้การ
ก�ำกบั ดูแลของรฐั

       จากนยิ ามขา้ งตน้ สามารถประมวลหลกั การปกครองท้องถนิ่ ในสาระสำ� คญั ดังนี้
       1. 	การปกครองของชมุ ชนหนง่ึ ซงึ่ ชมุ ชนเหลา่ นน้ั อาจมคี วามแตกตา่ งกนั ในดา้ นความเจรญิ จำ� นวน
ประชากรหรอื ขนาดของพนื้ ท่ี เชน่ หนว่ ยการปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ของไทยจดั เปน็ กรงุ เทพมหานคร เทศบาล
องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั องค์การบรหิ ารสว่ นตำ� บล และเมอื งพทั ยาตามเหตุผลดงั กล่าว
       2. 	หนว่ ยการปกครองทอ้ งถนิ่ จะตอ้ งมอี ำ� นาจอสิ ระในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามความเหมาะสม กลา่ วคอื
อ�ำนาจเป็นของหน่วยการปกครองท้องถิ่นอย่างแท้จริง หากมีอ�ำนาจมากเกินไปไม่มีขอบเขต หน่วยการ
ปกครองท้องถ่ินนั้นก็จะกลายเป็นสภาพเป็นรัฐอธิปไตยเองเป็นผลเสียต่อความม่ันคงของรัฐบาล อ�ำนาจ
ของท้องถ่ินนี้มีขอบเขตที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะความเจริญและความสามารถของประชาชนใน
ทอ้ งถนิ่ นนั้ เปน็ สำ� คญั รวมทงั้ นโยบายของรฐั บาลในการพจิ ารณาการกระจายอำ� นาจใหห้ นว่ ยการปกครอง
ท้องถิ่นในระดบั ใด จงึ จะเหมาะสม
   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89