Page 18 - วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์
P. 18

3-6 วิทยาศาสตร์​และเ​ทคโนโลยีก​ ารพ​ ิมพ์​และบ​ รรจุภ​ ัณฑ์

เรื่อง​ที่ 3.1.1
ความห​ มาย​และก​ าร​เกดิ ​พนั ธะ​ของ​สารประกอบอ​ ินทรีย์

1. 	ความ​หมาย​ของส​ ารประกอบ​อินทรีย์

       นับเ​ป็นร​ ะยะเ​วลาย​ าวนานม​ าแ​ ล้วท​ ีน่​ ักเ​คมไี​ดพ้​ ยายามศ​ ึกษาส​ มบัตทิ​ างเ​คมขี​ องส​ ารประกอบท​ ีพ่​ บใ​นธ​ รรมชาติ
ใน​ระยะ​แรก​นัก​เคมี​ได้​แบ่ง​สารประกอบ​เคมี​ออก​เป็น​สอง​จำ�พวก คือ สารประกอบ​อินทรีย์​และ​สาร​ประ​กอ​บอ​นิน​ ท​รีย์
โดย​ได้​กำ�หนด​ให้​วิชา​เคมีอินทรีย์​เป็นการ​ศึกษา​ทาง​เคมี​เกี่ยว​กับ​สารประกอบ​อินทรีย์ กล่าว​คือ เป็น​สารประกอบ​ที่​ได้​
จากส​ ิ่งม​ ชี​ ีวิตแ​ ละผ​ ลิตภัณฑธ์​ รรมชาติ ในข​ ณะท​ ีว่​ ชิ​ าเ​คมอี​ น​ นิ​ ทร​ ียเ์​ป็นการศ​ ึกษาท​ างเ​คมเี​กี่ยวก​ ับส​ ารป​ ระก​ อบ​ อน​ นิ​ ทร​ ีย​์
ทสี่​ ังเคราะหห์​ รือแ​ ยกอ​ อกม​ าไ​ดจ​้ ากแ​ หล่งแ​ รต่​ า่ งๆ ในป​ ัจจุบนั น​ คี้​ �ำ ​จำ�กัดค​ วามข​ องส​ ารประกอบอ​ ินทรยี ม์​ กี​ ารป​ รบั เ​ปลี่ยน​
ไปห​ ลังจ​ าก พ.ศ. 2371 (ค.ศ. 1828) ได้ม​ ีน​ ักว​ ิทยาศาสตร์​ชาวเ​ยอรมัน​ชื่อ ฟรีด​ ริช เวอเ​ลอร​ ์ (Friedrich Whler) สามารถ​
สงั เคราะหย​์ เ​ู รยี ข​ ึน้ ม​ าไ​ดจ​้ ากก​ ารท​ �ำ ​ปฏกิ ริ ยิ าข​ องโ​พแทสเซยี มไ​ซย​ าเ​นต (potassium cyanate) กบั แ​ อมโมเนยี ม​ ค​ ลอไ​รด์
(ammonium chloride) และ​ต่อ​มายัง​ได้​พบ​ว่า สารประกอบ​อินทรีย์​หลาย​ชนิด​สามารถ​สังเคราะห์​ขึ้น​ได้​จาก​สาร​
ประ​กอ​บอ​นิ​นท​รีย์ ไม่​จำ�เป็น​ที่​จะ​ต้อง​สังเคราะห์​หรือ​แยก​ออก​มา​จาก​สิ่ง​มี​ชีวิต​เท่านั้น ดัง​นั้น​ใน​ปัจจุบัน​สารประกอบ​
อนิ ทรยี จ​์ งึ ห​ มายถ​ งึ สารประกอบท​ มี​่ ค​ี ารบ์ อนเ​ปน็ อ​ งคป​์ ระกอบห​ ลกั และม​ ธ​ี าตอ​ุ นื​่ ไดแ้ ก่ ไฮโดรเจน ออกซเิ จน ไนโตรเจน
หรือธ​ าตุใ​นก​ ลุ่มแ​ ฮโ​ลเ​จนม​ าเ​กาะก​ ันด​ ้วย พันธะโ​คเ​วเ​ลนต​ ์ โดยเ​กิดพ​ ันธะก​ ับไ​ฮโดรเจนเ​ป็นส​ ่วนใ​หญ่ย​ กเว้นก​ ลุ่มท​ ี่เ​ป็น​
ไซยาไนด์แ​ ละ​กลุ่ม​ที่​เป็นอ​ อกไซด์​ของค​ าร์บอน เช่น กลุ่มค​ าร์บอเนต สารประกอบอ​ ินทรีย์ม​ ี​สมบัติ​เด่น คือ ติดไฟ​ง่าย
มี​โครงสร้าง​ไม่​ซับ​ซ้อน แรง​ยึด​เหนี่ยว​ระหว่าง​โมเลกุล​อ่อน ​ไม่​เป็น​ตัวนำ�​ไฟฟ้า และ​เกิด​ปฏิกิริยา​ช้า อย่างไร​ก็​ดี​
เป็นการย​ าก​ที่​จะแ​ บ่ง​แยกข​ อบเขต​ระหว่างค​ ำ�​นิยามข​ อง​สารประกอบ​อินทรีย์​และ​สาร​ อน​ ิ​นทร​ ีย์ใ​ห้ม​ ี​ความแ​ น่ชัดล​ งไ​ป

       สารประกอบ​อินทรีย์​ส่วน​ใหญ่​มัก​มี​ความ​แตก​ต่าง​จาก​สาร​ประ​กอ​บอ​นิ​นท​รีย์​ใน​ประเด็น​ที่​สำ�คัญ​บาง​ประเด็น
เช่น ติดไฟ​ง่าย มี​จุดหลอมเหลว​หรือ​จุดเดือด​ที่​ไม่​สูง​มาก​นัก​เมื่อ​เทียบ​กับ​สาร​ประ​กอ​บอ​นิ​นท​รีย์ มัก​ละลาย​ได้​ดี​ใน
​ตัวล​ ะลาย​ที่​ไม่มี​ขั้ว มี​โครงสร้างท​ ี่ซ​ ับ​ซ้อนก​ ว่าส​ าร​ประ​กอบ​ อ​นิน​ ท​รีย์ เป็นต้น

2. 	แรง​และพ​ นั ธะข​ องส​ ารประกอบอ​ นิ ทรยี ์

       เนื่องจาก​วิชา​เคมีอินทรีย์​เป็น​วิชา​ที่​ศึกษา​สารประกอบ​ที่​มี​คาร์บอน​เป็น​องค์​ประกอบ​หลัก จึง​ต้อง​มี​ความ​
เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​การ​เกิด​พันธะ​เคมี​ระหว่าง​อะตอม​ที่​เป็น​องค์​ประกอบ​ของ​สารประกอบ​นั้น โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​อะตอม​
ของค​ าร์บอน ได้​มี​การจ​ ำ�แนก​ประเภท​ของ​แรงแ​ ละ​พันธะ​ของ​สารประกอบ​อินทรีย์​ได้เ​ป็นแ​ รง​หรือพ​ ันธะภ​ ายในโ​มเลกุล
และ​แรงพ​ ันธะ​ระหว่างโ​มเลกุล

       2.1 	แรง​หรือ​พันธะ​ภายใน​โมเลกุล​ของ​สารประกอบ​อินทรีย์ ได้แก่ พันธะ​โค​เว​เลน​ต์​และ​แรง​ได​โพล​โมเมนต์​
ของโ​มเลกุล

            2.1.1 	พนั ธะโ​คเ​วเ​ลนต​ ์ (covalent bond) ในส​ ารประกอบอ​ นิ ทรยี ์ อะตอมข​ องค​ ารบ์ อนท​ เี​่ ปน็ อ​ งคป​์ ระกอบ​
หลักใ​นส​ ารประกอบอ​ ินทรีย์จ​ ะย​ ึดก​ ับอ​ ะตอมอ​ ื่นด​ ้วยพ​ ันธะเ​คมีท​ ี่เ​รียกว​ ่า พันธะโ​คเ​วเ​ลนต​ ์ พันธะโ​คเ​วเ​ลนต​ ์เ​ป็นพ​ ันธะ​
เคมี​ที่​เกิด​จาก​การ​ใช้​อิเล็กตรอน​ร่วม​กัน​ของ​อะตอม​ทั้ง​สอง​อะตอม​ที่มา​จับ​คู่​และ​เกิด​พันธะ​นั้น เมื่อ​อะตอม​ทั้ง​สอง
เ​ข้าใ​กลก้​ ันด​ ้วยร​ ะยะท​ างท​ ีเ่​หมาะส​ ม จนเ​กิดก​ ารซ​ ้อนท​ ับข​ องว​ งโ​คจรข​ องอ​ ิเล็กตรอนใ​นท​ ั้งส​ องอ​ ะตอม ทำ�ใหอ้​ ิเล็กตรอน​
ในอ​ ะตอมห​ นึ่งส​ ามารถเ​คลื่อนที่ไ​ปย​ ังอ​ ีกอ​ ะตอมห​ นึ่งไ​ด้ ส่งผ​ ลใ​ห้อ​ ิเล็กตรอนส​ ามารถเ​คลื่อนที่ไ​ปม​ าระห​ ว่างอ​ ะตอมท​ ั้ง​
สอง ไม่​ถูก​จำ�กัดก​ าร​เคลื่อนที่​เพียงแ​ ต่ภ​ ายในอ​ ะตอม​ของ​ตัวม​ ันเ​อง
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23