Page 22 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 22
3-12 การว ิจัยท างนิเทศศาสตร์
1.1 ความส มั พนั ธแ์ บบส หส มั พนั ธ์ อธิบายว ่าส ิ่งส องส ิ่งแ สดงป ฏิกิริยาพ ร้อมก ัน หรือเกิดก ารกร ะท ำ�พร้อมก ัน
ตวั อย่างความส ัมพันธ์แบบส หส มั พันธ์ เช่น
ถ้าต ัวแปรอ ิสระค ือ “การเปิดร ับส ื่อ” ตัวแปรต าม คือ “การร ับร ู้ข้อมูลข ่าวสาร” ข้อความที่แ สดงค วามสัมพันธ์
ระหว่างตัวแปรท ั้งส องอาจเป็นไปได้ด ังนี้
1. การเปิดรับสื่อในปริมาณที่แ ตกต่างกันมีความส ัมพันธ์กับการร ับร ู้ข ้อมูลข่าวสารท ี่แตกต่างก ัน
2. การเปิดร ับสื่อในป ริมาณม ากมีค วามส ัมพันธ์เชิงบ วกก ับการร ับรู้ข้อมูลข ่าวสารในปริมาณม าก
3. การเปิดรับส ื่อในปริมาณน ้อยมีค วามสัมพันธ์เชิงล บกับการรับร ู้ข ้อมูลข ่าวสารในปริมาณม าก
1.2 ความสัมพนั ธ์เชิงเหตผุ ล อธิบายว่าส ิ่งสองสิ่งมีค วามเป็นเหตุและผลของกันและก ัน สิ่งหนึ่งเป็นต้นเหตุ
ในข ณะท ี่อีกสิ่งหนึ่งเป็นผ ล
ตวั อย่างความส ัมพันธ์เชงิ เหตผุ ล เช่น
การเปิดร ับสื่อสังคมอ อนไลน์ในป ริมาณมากส่งผลต ่อบ ุคลิกภาพในก ารส ื่อสารระหว่างบ ุคคล
กรณีข ้างต ้น ตัวแปรอ ิสระค ือ การเปิดร ับส ื่อส ังคมอ อนไลน์ ตัวแปรต าม คือ บุคลิกภาพในก ารส ื่อสารร ะหว่าง
บุคคล
อย่างไรก ็ตาม การร ะบุค วามส ัมพันธ์เชิงเหตุแ ละผ ลได้น ั้น ผู้ว ิจัยต ้องม ีค วามม ั่นใจว ่าจ ะเกิดผ ลเช่นน ั้น ความ
มั่นใจนั้นมาจ ากการส ำ�รวจทบทวนงานวิจัยในอดีตและงานว รรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
2. รูปแ บบค วามสัมพันธ์ของตวั แปร
รูปแ บบค วามส ัมพันธ์ข องตัวแปรมีดังนี้
2.1 ไม่มีความสัมพันธ์ (No relationship)
2.2 ความสัมพันธ์เชิงบ วก (Positive relationship)
2.3 ความสัมพันธ์เชิงล บ (Negative relationship or Inverse relationship)
2.1 ไม่มีความสัมพันธ์ การที่ตัวแปรไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน หมายความว่า การทราบค่าของตัวแปรหนึ่ง
ไม่ได้ท ำ�ให้ท ราบค่าข องอีกตัวแปรห นึ่ง เช่น การช อบฟ ังเพลง กับ ฐานะ ตัวแปรทั้งส องอ ย่างไม่เกี่ยวข้องก ัน และไม่
สัมพันธ์กัน