Page 21 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 21
การกำ�หนดตัวแปรและการวัด 3-11
กจิ กรรม 3.1.2
ตวั แปรมกี ี่ประเภท ได้แก่อะไรบา้ ง
แนวต อบก จิ กรรม 3.1.2
1. การแบง่ ป ระเภทของต ัวแปร ตามบทบาทของต วั แปร แบง่ ไดเ้ ปน็
1) ตวั แปรอ สิ ระ หรอื ตัวแปรต น้ (Independent variable)
2) ตัวแปรต าม (Dependent variable)
3) ตวั แปรค วบคมุ (Control variable)
4) ตัวแปรทม่ี มี าก อ่ น (Moderator variable)
5) ตัวแปรแ ทรก (Intervening or Mediating variable)
2. การแบ่งประเภทตัวแปร ตามลักษณะท่ีแปรค่า แบ่งได้เป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ และตัวแปร
เชิงป ริมาณ
เรอ่ื งท ี่ 3.1.3
ความส ัมพันธ์ของตวั แปรในการว จิ ัย
ในการทำ�วิจัยนั้น สิ่งที่ผู้วิจัยต้องการคือ การค้นหาคำ�ตอบสำ�หรับคำ�ถามวิจัยที่ผู้วิจัยมีความสงสัย และ
ต้องการแสวงหาคำ�ตอบสำ�หรับคำ�ถามที่ตั้งไว้ ในกระบวนการแสวงหาคำ�ตอบนั้น ผู้วิจัยอาจคาดคะเนคำ�ตอบไว้
ล่วงห น้า คำ�ตอบที่ผู้วิจัยค าดคะเนล่วงหน้านั้นเรียกว่า “สมมติฐาน”
สมมตฐิ านจ งึ เปน็ ค �ำ ตอบท ผี่ วู้ จิ ยั ค าดค ะเนล ว่ งห นา้ ขอ้ ความในส มมตฐิ านบ ง่ บ อกค วามส มั พนั ธร์ ะหวา่ งต วั แปร
ที่ผู้ว ิจัยส นใจศึกษา โดยแ สดงค วามสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระก ับต ัวแปรตาม
ความสัมพนั ธข์ องต ัวแปร หมายถ ึง ความส อดคล้อง ความล งรอยก ัน (correspondence) ระหว่างต ัวแปร
สองตัว หรือม ากกว่า
ความส ัมพันธ์ข องตัวแปร อธิบายได้เป็น “ลักษณะ (nature) ของความส ัมพันธ์” และ “รูปแบบ (pattern)
ของค วามสัมพันธ์”3
1. ลกั ษณะของค วามส ัมพันธร์ ะหว่างต วั แปร
ลักษณะความส ัมพันธ์ข องต ัวแปร อธิบายว ่า ตัวแปรส องต ัวไม่เพียงแต่ส อดคล้องหรือล งรอยก ัน แต่อ าจเป็น
สาเหตุของก ันและก ัน ความสัมพันธ์ข องต ัวแปรจ ึงมีได้ 2 ลักษณะ คือค วามสัมพันธ์แบบส หสัมพันธ์ (Correlational
relationship) และความสัมพันธ์เชิงเหตุผล (Causal relationship)