Page 19 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 19
การกำ�หนดตัวแปรและการวัด 3-9
การค วบคุมทำ�ได้โดยการกำ�หนดทรีตเมนต์เชิงส ุ่ม (random assignment) เพื่อกระจายผลที่เกิดขึ้นอ ย่าง
เท่าเทียมก ัน (distribute the effects equally)
ตวั อย่างต ัวแปรค วบคุม เช่น
การศ ึกษาว่า “การอ ่านหนังสือพิมพ์ทุกวันทำ�ให้ท ราบข ้อมูลข ่าวสารเพิ่มข ึ้นห รือไม่”
ในกรณีนี้ ตัวแปรที่ผู้วิจัยต้องควบคุมให้กลุ่มตัวอย่างมีความเท่าเทียมกันหรือได้รับตัวแปรควบคุมแบบ
เดียวกัน คือ ประเภทหนังสือพิมพ์ จำ�นวนเวลาในการอ่านหนังสือพิมพ์ ประเภทเนื้อหาที่อ่าน สภาพแวดล้อมที่อ่าน
คุณลักษณะเหล่านี้ต ้องถูกควบคุมให้เท่าเทียมก ันก่อนเริ่มต้นการว ิจัย
นั่นค ือ ใหก้ ลุ่มต ัวอย่างอ ่านห นังสือพิมพ์ป ระเภทเดียวกัน ใชจ้ ำ�นวนเวลาในก ารอ ่านเท่าก ัน อ่านเนื้อหาป ระเภท
เดียวกัน และอ ยู่ในส ภาพแวดล้อมแ ละสถานท ี่ท ี่อ่านแบบเดียวกัน เป็นต้น
ตัวแปรค วบคุม อาจเป็นต ัวแปรเชิงค ุณลักษณะ เช่น เพศ อายุ ระดับส ติป ัญญา ระดับค วามถ นัด ผลก ารเรียน
ประสบการณ์ การศึกษา ฯลฯ ทั้งนี้แล้วแต่ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยมุ่งศึกษา หากไม่ควบคุมก่อน กลุ่มตัวอย่างอาจมี
ความแตกต่างในเรื่องเหล่านี้ก่อนเริ่มรับตัวแปรอิสระ ทำ�ให้ผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่เท่ากัน โดยที่ไม่ได้เกิด
จากต ัวแปรอิสระ
1.4 ตัวแปรท่มี มี ากอ่ น (Moderator variable) เป็นป ระเภทห นึ่งข องต ัวแปรอ ิสระ เป็นต ัวแปรท ี่มีม าก ่อนก าร
เก็บรวบรวมข ้อมูล โดยไม่เกี่ยวข้องกับก ารจ ัดก ระทำ�ต่อต ัวแปร
ตัวแปรประเภทนี้เป็นตัวแปรที่วัดได้ สังเกตได้ เช่น สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ระดับการศึกษา
ประสบการณ์ ถ้าไม่สามารถวัดได้หรือส ังเกตได้ เรียกว่า ตัวแปรแ ทรก (Intervening variable)
ตัวแปรป ระเภทน ี้ม คี วามส ัมพันธก์ ับท ิศทางห รือร ะดับค วามส ัมพันธร์ ะหว่างต ัวแปรอ ิสระก ับต ัวแปรต าม อาจ
เป็นเชิงค ุณลักษณะ เช่น เพศ ประเภทขององค์การ ประเภทข องส ถาบัน หรือเชิงปริมาณ เช่น จำ�นวนครั้งในก ารใช้สื่อ
ตัวแปรประเภทนี้ทำ�หน้าที่คล้ายตัวกระตุ้นให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร มีปฏิกิริยากับตัวแปรอิสระ
โดยอาจเพิ่มห รือลดระดับค วามส ัมพันธ์ร ะหว่างตัวแปรอ ิสระก ับต ัวแปรตาม
1.5 ตัวแปรคน่ั กลางห รือตวั แปรแ ทรก (Intervening or Mediating variable) ทำ�หน้าที่ค ล้ายคนกลางท ี่เอื้อ
ให้ตัวแปรอ ิสระส่งผ ลต่อตัวแปรต าม เป็นตัวแปรท ี่ผู้ว ิจัยไม่ส นใจศ ึกษาและไม่ว ัดผล ตัวแปรประเภทน ี้เป็นต ัวแปรที่
ระบุได้ โดยอาจทำ�ให้เกิดผลในก ระบวนการว ิจัย แต่ไม่ส ามารถระบุได้ว ่าผ ลน ั้นเกิดจ ากเหตุใด
ตวั อยา่ งตวั แปรค น่ั กลางห รอื ต วั แปรแ ทรก เช่น
ข้อความท ี่ส รุปว่า “การอ ่านห นังสือท ำ�ให้เด็กฉ ลาด” ในก รณีนี้ ตัวแปรค ั่นก ลาง อาจเป็น “ไอคิว” หมายความ
ว่า เด็กท ี่ฉ ลาดอาจเกิดจ ากตัวแปรที่มีมาก่อนการอ่านห นังสือของเด็ก คือ การท ี่เด็กมีไอค ิวสูง ดังนั้น ความฉ ลาดข อง
เด็กอ าจเกิดจากไอคิว โดยอาจไม่ได้เกิดจ ากก ารอ่านหนังสือก็ได้ เป็นต้น
การเรียกช ื่อต ัวแปรแ ตกต ่างต ามบ ทบาทห น้าที่ ถ้าเป็นต ัวแปรท ี่ผ ู้ว ิจัยค วบคุม เรียกว ่า Moderator variable
ถ้าเป็นต ัวแปรท ี่ผู้ว ิจัยไม่ศึกษา เรียกว ่า Intervening variable หรือ Confounding variable