Page 41 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 41
การกำ�หนดตัวแปรและการวัด 3-31
8. การใช้กระบวนการท างสถิติปรับค ่าค วามคลาดเคลื่อนจากการว ัด
9. การใช้วิธีการว ัดหลายแบบ (triangulate) สำ�หรับการว ัดตัวแปรที่มีโครงสร้างเดียวกัน
กจิ กรรม 3.2.3
โปรดอ ธบิ ายความคลาดเคลอื่ นในการวดั ตัวแปร
แนวต อบกจิ กรรม 3.2.3
ความคลาดเคลื่อนในการวัดตัวแปร อาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ความคลาดเคลื่อนเชิงระบบ
(Systematic error) และความคลาดเคล่ือนเชงิ ส ุ่ม (Random error)
1. ความคลาดเคลอ่ื นเชงิ ร ะบบ เปน็ ค วามคลาดเคลอื่ นทเ่ี กดิ ค งทแ่ี ละเปน็ ร ะบบ อาจเปน็ เชงิ บ วกท งั้ หมด
หรือเชิงลบท้ังหมด เป็นความคลาดเคล่ือนที่เกิดขึ้นกับกลุ่มตัวอย่างท้ังหมด บางครั้งเรียกความคลาดเคลื่อน
เชงิ ระบบว่า “ความล�ำ เอยี งหรอื อ คต”ิ
ความคลาดเคลือ่ นเชงิ ระบบ แบง่ ได้ 3 ประเภท ได้แก่
1) ความคลาดเคล่อื นจ ากก ารเตรยี มง านสำ�รวจ
2) ความคลาดเคลื่อนจ ากการเลอื กกลุ่มต วั อย่าง
3) ความคลาดเคลื่อนจ ากก ารป ฏบิ ตั ิงานเกบ็ รวบรวมข อ้ มลู
2. ความคลาดเคลื่อนเชิงสุ่ม เป็นความคลาดเคลื่อนที่เกิดข้ึนโดยไม่เจตนา ไม่ส่งผลที่คงท่ีต่อการวัด
อาจเปน็ เชงิ บ วกห รอื เชงิ ล บก ไ็ ด้ โดยไมก่ ระทบต อ่ ผ ลก ารว ดั โดยร วม เปน็ ค วามคลาดเคลอื่ นทเี่ กดิ ก บั ก ลมุ่ ต วั อยา่ ง
บ างค นเทา่ นนั้ ถา้ ม จี �ำ นวนก ลมุ่ ต วั อยา่ งม ากเพยี งพ อ ผลร วมข องค วามคลาดเคลอ่ื นจ ะเปน็ ศ นู ย์ ความคลาดเคลอื่ น
เชิงสุ่มทำ�ให้เกิดปัญหาการขาดความเท่ียงจากการวัดตัวแปร อาจเรียกความคลาดเคลื่อนเชิงสุ่มว่า “ส่ิงรบกวน
(noise)”