Page 39 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 39

การกำ�หนดตัวแปรและการวัด 3-29

รวบรวมข​ ้อมูล​จากก​ ลุ่มต​ ัวอย่าง จะ​ได้ “ค่าที่แ​ ท้จริง (true value)” ซึ่ง​เป็น​ลักษณะข​ อง​สมาชิกใ​น​ประชากร แต่ก​ าร​ได้​
ค่าที่แ​ ท้จริงเ​ป็นเ​พียงใ​นอ​ ุดมคติ เพราะโ​อกาสท​ ี่จ​ ะไ​ด้ค​ ่าที่แ​ ท้จริงม​ ีน​ ้อยม​ าก หรือเ​กือบไ​ม่มีโ​อกาส​เลย ที่ท​ ำ�ได้ค​ ือ ได้ค​ ่า​
จากก​ าร​สำ�รวจ​เท่านั้น ผล​ต่างร​ ะหว่างค​ ่าที่​แท้จริงก​ ับค​ ่า​จากก​ ารส​ ำ�รวจ เรียก​ว่า “ความคลาด​เคลื่อน (error)”

       ความ​เอน​เอียง​เป็นผ​ ลห​ รือผ​ ลร​ วมข​ องค​ วามคลาด​เคลื่อน​ทั้งหมดท​ ี่​เกิดข​ ึ้น
       ความคลาด​เคลื่อน อาจ​แบ่ง​ได้​เป็น 2 ประเภท​คือ ความคลาด​เคลื่อน​เชิง​ระบบ (Systematic error) และ​
ความคลาดเ​คลื่อน​เชิงส​ ุ่ม (Random error)

1. 	ความคลาด​เคล่อื นเ​ชิงร​ ะบบ

       ความคลาด​เคลื่อน​เชิง​ระบบ เป็น​ความคลาด​เคลื่อนที่​เกิด​คงที่​และ​เป็น​ระบบ อาจ​เป็น​เชิง​บวก​ทั้งหมด​หรือ​
เชิงล​ บ​ทั้งหมด เป็น​ความคลาดเ​คลื่อนที่เ​กิด​ขึ้นก​ ับ​กลุ่ม​ตัวอย่างท​ ั้งหมด บาง​ครั้งเ​รียกค​ วามคลาด​เคลื่อน​เชิงร​ ะบบ​ว่า
“ความ​ลำ�เอียง​หรืออ​ คติ”

       ความคลาดเ​คลื่อน​เชิง​ระบบ เป็น​ความคลาด​เคลื่อน​จาก “ระบบ​งานส​ ำ�รวจ” ที่ไ​ม่​ถูก​ต้อง เช่น เครื่องม​ ือว​ ัด​
ขาดค​ วามเ​ที่ยงแ​ ละค​ วามต​ รง หรือแ​ ผนแ​ บบก​ ารเ​ลือกก​ ลุ่มต​ ัวอย่างไ​ม่ถ​ ูกต​ ้อง ทำ�ให้ไ​ด้ต​ ัวอย่างท​ ี่ไ​ม่ไ​ด้เ​ป็นต​ ัวแทนข​ อง​
ประชากร เป็นต้น

       ความคลาดเ​คลื่อนเ​ชิงร​ ะบบ แบ่ง​ได้ 3 ประเภท ได้แก่
       1.1 	ความคลาด​เคลื่อน​จากก​ ารเต​รี​ยมง​ าน​สำ�รวจ
       1.2 	ความคลาดเ​คลื่อน​จาก​การเ​ลือก​กลุ่ม​ตัวอย่าง
       1.3 	ความคลาด​เคลื่อน​จาก​การ​ปฏิบัติ​งาน​เก็บ​รวบรวม​ข้อมูล

       1.1 		ความคลาด​เคลื่อน​จาก​การเต​รี​ยม​งาน​สำ�รวจ แบ่ง​ได้​เป็น ความคลาด​เคลื่อน​จาก​แนวคิด​พื้น​ฐาน
ความคลาดเ​คลื่อน​จาก​รูปแ​ บบ​ของ​เครื่องม​ ือว​ ัด และค​ วามคลาดเ​คลื่อนจ​ ากก​ ารด​ ำ�เนินง​ าน

            1.1.1 	ความคลาดเ​คลอ่ื นจ​ ากแ​ นวคดิ พ​ นื้ ฐ​ าน เกิดจ​ ากก​ ารข​ าดค​ วามช​ ัดเจนข​ องต​ ัวแปรท​ ี่ศ​ ึกษา เช่น การ​
ศึกษา “การร​ ู้เ​ท่าท​ ัน​ในเ​นื้อหาส​ ื่อ” ผู้ว​ ิจัย​ต้องน​ ิยาม​คำ�​ว่า “การร​ ู้เ​ท่าท​ ัน” ให้​ชัดเจน ว่าห​ มาย​ถึงอ​ ะไร อย่าง​ ไ​ร จึง​เรียก​
ว่า “การ​รู้​เท่าท​ ัน” เป็นต้น

            1.1.2 	ความคลาด​เคล่ือน​จาก​รูป​แบบ​ของ​เครื่อง​มือ​วัด การ​ใช้​คำ� และ​การ​ใช้​ภาษา​ใน​เคร่ือง​มือ​วัด
รูป​แบบ​ของ​เครื่อง​มือ​วัด​ควร​เอื้อ​ให้​ผู้​ตอบ​อ่าน​ง่าย การ​ใช้​คำ�  และ​การ​ใช้​ภาษา​ควร​เข้าใจ​ง่าย อีก​ทั้ง​ช่วย​ให้​ผู้​บันทึก​
ข้อมูล​สามารถ​บันทึก​ได้​สะดวก

            1.1.3 	ความคลาดเ​คลอ่ื นจ​ ากก​ ารด​ �ำ เนนิ ง​ าน เช่น เกิดจ​ ากก​ ารไ​มไ่​ดอ้​ บรมพ​ นักงานเ​ก็บร​ วบรวมข​ ้อมูลใ​ห​้
เข้าใจว​ ัตถุประสงค์ก​ าร​วิจัย ตลอดจ​ น​เข้าใจข​ ั้น​ตอน​การเ​ก็บ​รวบรวมข​ ้อมูล การ​ป้องกันค​ วามคลาดเ​คลื่อน อาจ​ทำ�ได​้
โดยจ​ ัดท​ ำ�​คู่มือก​ าร​เก็บ​รวบรวม​ข้อมูล เพื่อช​ ่วยใ​ห้​พนักงานเ​ข้าใจ​แนว​ปฏิบัติ​ใน​การด​ ำ�เนินง​ าน​ตรง​กัน

       1.2 		ความคลาดเ​คล่อื นจ​ าก​การ​เลอื ก​กลุ่มต​ ัวอยา่ ง อาจ​เกิด​จาก​การ​ใช้ “กรอบ​การ​เลือก​ตัวอย่าง (Sampling
frame)” ที่​ล้าส​ มัย หรือ​จากก​ ารเ​ลือก​ใช้ว​ ิธี​การ​เลือก​กลุ่ม​ตัวอย่างท​ ี่​ไม่ถ​ ูกต​ ้อง เช่น แทนที่จ​ ะใ​ช้ว​ ิธี​เลือกก​ ลุ่ม​ตัวอย่าง​
แบบ​จัด​ชั้น (Stratified random sampling) แต่​ผู้​วิจัย​ไป​ใช้​วิธี​เลือก​กลุ่ม​ตัวอย่าง​แบบ​สุ่ม​เลือก​อย่าง​ง่าย (Simple
random sampling) เป็นต้น ทำ�ให้​ได้​ตัวอย่าง​ที่​ไม่​เป็น​ตัวแทน​ที่​ดี​ของ​ประชากร ส่ง​ผล​ให้​ได้​ค่า​จาก​การ​สำ�รวจ​ที่​
คลาด​เคลื่อน​จาก​ความ​เป็นจ​ ริง
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44