Page 108 - ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
P. 108
15-96 ประสบการณ์วิชาชีพภาษาอังกฤษ
(10) พึงรักเกียรติยิ่งก ว่าท รัพย์สินใดทั้งหมด
(11) พึงถ ือว่าบุคคลมีค ่าเหนือว ัตถุทุกอย่าง
3. การประกอบว ิชาช สื่อมวลชน
เป้าห มาย
(1) เพื่อบริการสังคมในด ้านค วามบันเทิงข ่าวแ ละความรู้รอบตัว
(2) เพือ่ ส ร้างบ คุ ลกิ ภาพข องต นเองในก ารเป็นส ื่อบ รกิ ารส งั คมด ้านก ารใหข้ ่าวสารแ ละค วามร ูด้ ว้ ยค วาม
เที่ยงต รง
จรรยาบ รรณสื่อมวลชน
(1) พึงตระหนักในความร ับผิดช อบต่อทุกเรื่องที่อ อกทางสื่อมวลชน
(2) พึงเสนอข่าวตามที่มีหลักฐาน ถ้าหากภายห ลังพ บว ่าผิดพลาดพึงแ ก้ข่าวด้วยความร ับผ ิดช อบ
(3) พึงเสนอความรู้รอบตัวที่มีคุณประโยชน์ต่อคนจำ�นวนมาก ทั้งนี้โดยพิจารณาเหตุผลมิใช่อนุโลม
ตามความต ้องการข องมวลชนแต่เพียงอย่างเดียว
(4) พึงเสนอความบันเทิงที่ไม่เป็นพ ิษเป็นภ ัยถ ้าจ ำ�เป็นพ ึงแ ยกประเภทข องผู้ชมแ ละประกาศให้ท ราบ
(5) พึงสนองเป้าหมายของสังคม โดยสนับสนุนการธำ�รงชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และ
ระบอบประชาธิปไตย
(6) พึงสุจริตต ่อห น้าที่โดยไม่ย อมรับอ ามิสสินจ ้างให้บ ิดเบือนเจตนารมณ์ข องต นเอง
(7) พึงงดเว้นอบายมุขต ่างๆ อันจ ะน ำ�ไปส ู่ก ารเสียอิสรภาพในก ารป ระกอบอาชีพด้านนี้
(8) พึงงดเว้นก ารใช้ส ื่อมวลชนเพื่อก ารกลั่นแกล้งหรือแ ก้แ ค้น
(9) ไม่พึงให้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือของผู้ใดผ ู้ห นึ่งท ี่มีเป้าหมายมิช อบ
(10) พึงส่งเสริมให้อำ�นาจทุกฝ่ายตามรัฐธรรมนูญมีเสถียรภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของตนตาม
กฎหมาย
(11) พึงถือว่าเกียรติและบุคลิกภาพของต นอ ยู่เหนือสิ่งใดทั้งหมด
(12) พึงก ล้าช ี้อ ันตรายข องส ังคมด ้วยความบริสุทธิ์ใจ
จรรยาวิชาชีพผูกมัดผู้ประกอบวิชาชีพนั้นๆ ตึงกว่าศีลธรรมของศาสนา กล่าวถือศีลธรรมของศาสนายึดถือ
กันโดยสมัครใจ ตามขีดขั้นของศรัทธาของตน ส่วนจรรยาวิชาชีพมีผลผูกมัดผู้ประกอบวิชาชีพนั้นๆ ยิ่งกว่าคือ
มีผลผูกมัดให้ต้องปฏิบัติตามโดยมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของตนเป็นเดิมพัน อย่างไรก็ดี จรรยาวิชาชีพก็ยัง
มีประกาศิตหย่อนกว่าวินัยซึ่งบังคับโดยมีโทษเป็นเครื่องหนุนหลัง ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในแง่ประกาศิตบังคับก็จะเห็น
ได้ว่า ศีลธรรมมีประกาศิตบังคับในระดับ “ควร” จรรยาวิชาชีพมีป ระกาศิตบังคับในร ะดับ “พึง” ส่วนว ินัยมีป ระกาศิต
บังคับในร ะดับ “ต้อง ”
ความส�ำ คัญของจ รรยาว ชิ าชีพ
ในส ังคมปัจจุบัน ศีลธ รรมของศ าสนาและกฎหมายมีค วามศ ักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงพ อที่จะผ ูกมัดผู้ป ระกอบกิจการ
ต่างๆ ให้กระทำ�การภายในขอบเขตแห่งความถูกต้องและความเป็นธรรมในสังคม ทั้งนี้เพราะศีลธรรมเป็นมาตรการ
แนะนำ�ที่ถ ือก ันโดยสมัครใจต ามขีดข ั้นแ ห่งความศ รัทธาของแต่ละบุคคล มีประกาศิตบังคับเพียงร ะดับ “ควร” ไม่ใช่
มาตรการบังคับให้ “ต้อง” ยึดถือปฏิบัติจึงไม่มีความศักดิ์สิทธิ์พอที่จะผูกมัดผู้ประกอบกิจการทุกคนให้กระทำ�การ
โดยถูกต ้องและอ ย่างเป็นธรรมต่อสังคมได้ ส่วนกฎหมาย ซึ่งม ีประกาศิตบ ังคับในระดับ “ต้อง” นั้น ก็เป็นมาตรการท ี่
บงั คบั ไดเ้ พยี งผ วิ เผนิ ภ ายนอก ไมม่ อี �ำ นาจบ งั คบั ภ ายในจ ติ ใจข องผ ปู้ ระกอบก จิ การใดๆ ไมใ่ หห้ าท างห ลบเลีย่ งก ฎหมาย