Page 27 - กฎหมายระหว่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
P. 27
องค์การที่ไม่ใช่ของรัฐ 15-17
วิธีก ารข องข บวนการป ลดป ล่อยแ ห่งช าติแ บ่งอ อกเป็น 2 วิธีก าร คือ สันติว ิธี เช่น ขบว นก ารค ว ิเบกในแ คนาดา
ที่ต้องการแยกออกจากแคนาดาเพราะประชาชนของแคว้นควิเบกส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายฝรั่งเศส แตกต่างจากชาว
แคนาดาส่วนใหญ่ท ี่เป็นอ ังกฤษ เป็นต้น กับก ารใช้ค วามรุนแรง เช่น ขบวนการชาวบ าส ก์ (Basques) ในส เปน เป็นส ่วน
หนึ่งที่เป็นสาเหตุของส งครามกลางเมือง เป็นต้น
ประเภทของข บวนการป ลดปล่อยแห่งชาติ แบ่งอ อกเป็น 3 ประเภท27 ได้แก่
ประเภทแ รก ขบวนการท ีม่ าจ ากก ลุม่ ช นชาตหิ รือเชื้อช าตทิ ีพ่ ยายามแ ยกต วั อ อกจ ากก ารป กครองแ บบเดมิ เพื่อ
การจัดตั้งรัฐชาติ (Nation-State) หรือประเทศใหม่ ตัวอย่างเช่น ขบวนการแบ่งแยกดินแดนของชาวบาสก์ในสเปน
ขบวนการไบอ าฟรา (Biafra) ในไนจีเรีย ขบวนการแ บ่งแยกด ินแดนข องช าวคว ิเบกในแ คนาดา เป็นต้น
ประเภทที่สอง ขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติที่มีวัตถุประสงค์หรือความต้องการล้มล้างรัฐบาล เพราะ
เป็นรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมหรือมีการปกครองแบบเผด็จการหรือการตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของต่างประเทศ
วัตถุประสงค์ของขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติคือ ความต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยการมีรัฐบาลใหม่
มากกว่าก ารเปลี่ยนแปลงท างการเมืองด ้วยก ารแยกประเทศ ตัวอย่างเช่น ขบวนการซ านด ินิส ต า (Sandinista) ของ
นิการากัว ขบวนการคอนทราส์ (Contras) ของนิการากัวภายหลังจากที่ขบวนการซานดินิสตาปกครองประเทศ
ขบวนการเวยี ดกง (Viét cóng) ในเวยี ดนามเหนอื และเวยี ดนามใตช้ ว่ งสงครามเวยี ดนาม (ค.ศ. 1954-1975) ขบวนการ
มจู าฮดี นี (Mujahidin) ในอ ฟั กานสิ ถาน ขบวนการย นู ติ า้ (UNITA) ในแ องโกล าภ ายห ลงั จ ากท อี่ งั กฤษใหเ้ อกราช เปน็ ตน้
ประเภทที่สาม ขบวนการที่ชาวอาณานิคมจัดตั้งเพื่อการต่อต้านประเทศผู้ปกครองอาณานิคมเดิมที่ไม่ยอม
ปลดปล่อยดินแดนเหล่านี้ให้เป็นเอกราช ทำ�ให้ขบวนการต้องต่อต้านผู้ปกครองอาณานิคม เช่น ขบวนการเฟลิโม
(FRELIMO) ในโมซัมบิก ที่ต ่อต้านการปกครองข องรัฐบาลโปรตุเกส เป็นต้น
โครงสร้างแ ละก ระบวนการข องข บวนการป ลดป ล่อยแ ห่งช าตใินป ระเทศแ ต่ละป ระเทศม ีค วามแ ตกต ่างก ันไป
ขึ้นอยู่ก ับปัจจัยในการรวมกลุ่ม เช่น ภาวะผู้นำ� ทรัพยากร สมาชิก การจ ูงใจ เป็นต้น และอ งค์ประกอบแวดล้อม เช่น
จิตสำ�นึกร ่วม ความร ู้สึกช าตินิยม (Nationalism) เป็นต้น ทำ�ให้ส มรรถนะข องข บวนการป ลดป ล่อยแ ห่งช าตแิ ต่ละแ ห่ง
มีค วามแ ตกต่างก ัน อันน ำ�มาส ู่ว ิธีก ารที่ร ุนแรง เช่น การใช้ก ำ�ลัง และก ารต่อสู้แ บบส ันติว ิธี เช่น อหิงสา เป็นต้น
ขบวนการปลดปล่อยแ ห่งช าติที่ม ีบทบาทส ำ�คัญภายห ลังก ารสิ้นสุดข องสงครามเย็น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ได้แก่
ประเภทแรก กลุ่มชนชาติหรือเชื้อชาติที่แยกตัวออกเพื่อจัดตั้งรัฐชาติใหม่ ตัวอย่างเช่น ขบวนการทางการ
เมืองในประเทศสหภาพโซเวียตมีบทบาทที่สำ�คัญในการเรียกร้องทางการเอกราชภายหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย
ใน ค.ศ. 1991 ทำ�ให้เกิดกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Confederation of Independence State: CIS) ที่ม ีรัสเซีย
เป็นแกนนำ� การเรียกร้องเอกราชของขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์ทำ�ให้เกิดรัฐปาเลสไตน์ การเรียกร้องเอกราช
ของขบวนการติมอร์เป็นที่มาของการปลดปล่อยติมอร์ตะวันออกให้เป็นเอกราชจากอินโดนีเซียและมีการสถาปนา
สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ เป็นต้น เป็นที่น่าสังเกตว่าการเรียกร้องเอกราชของขวนการปลดปล่อยแห่งชาตินี้มี
ความส ัมพันธ์ก ับแ นวคิดช าตินิยมท ี่เป็นค วามร ู้สึกข องป ระชาชนท ี่เป็นช นกล ุ่มน ้อยในป ระเทศห นึ่ง ทำ�ให้ก ารเรียกร ้อง
เอกราชด ำ�เนินม าอย่างต่อเนื่องแ ละบรรลุผ ลภ ายห ลังสงครามเย็นส ิ้นสุดลง
ประเภทที่สอง ขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติที่เป็นการโค่นล้มผู้ปกครองที่เป็นเผด็จการหรือเอารัด
เอาเปรียบท างการเมอื ง เศรษฐกิจ และส งั คมจ ากป ระชาชน ขบวนการป ลดป ล่อยแ ห่งช าตสิ ่วนใหญย่ งั ม บี ทบาทในห ลาย
ประเทศ แต่ความส ำ�เร็จส่วนใหญ่ม ักม ีในช ่วงท ศวรรษท ี่ 1980 เพราะภ ายหลังส งครามเย็น กระแสค วามเปลี่ยนแปลง
27 สมพงศ์ ชูม าก ความสัมพันธ์ร ะหว่างป ระเทศยุคปัจจุบัน (ทศวรรษ 1990 และแนวโน้ม) กรุงเทพมหานคร สำ�นักพ ิมพ์จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย 2542 หน้า 203-204