Page 24 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 24

11-14 สงั คมและวฒั นธรรมอาเซยี น

                                  ภาพที่ 11.2 วัดอานันทวิหาร

ที่มา: http://travel.thaiza.com/เท่ยี วเมืองพกุ าม-ยลเสนห่ ์ดนิ แดนแห่งเจดียส์ พ่ี นั องค์/244162/ สบื คน้ เม่ือ 22 ตุลาคม 2558.

       ภายหลงั การเส่ือมอำ� นาจของอาณาจกั รพกุ ามในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงการเรอื งอำ� นาจ
ของอาณาจกั รตองอู ยคุ ตน้ ในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 16 บา้ นเมอื งในภมู ภิ าคลมุ่ อริ วดอี ยใู่ นสภาพความแตกแยก
อำ� นาจทางการเมอื ง ออกเปน็ 4 กลมุ่ อำ� นาจ คอื 1) กลมุ่ รฐั ฉาน หรอื กลมุ่ ไทใหญ่ 2) กลมุ่ รฐั พมา่ ทางตอน
บนและตอนกลาง น�ำโดยราชส�ำนกั องั วะ 3) กลมุ่ รัฐยะไข่ และ 4) กลมุ่ รฐั มอญในดนิ แดนตอนลา่ ง นำ� โดย
ราชส�ำนักหงสาวดี ท้งั 4 กล่มุ นี้ มีความแตกแยกและแขง่ ขันอำ� นาจกันเองอยู่ภายในกลมุ่ รฐั เดียวกนั และ
กบั รฐั ตา่ งๆ ภายนอกกลมุ่ สภาวการณห์ ลายศนู ยก์ ลางอำ� นาจทางการเมอื งคอ่ ยๆ หมดไปเมอ่ื รฐั พมา่ ภาย
ใตก้ ารนำ� ของราชวงศต์ องอยู คุ ตน้ (ค.ศ. 1485–1599) เรอื งอำ� นาจขน้ึ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในรชั กาลของพระ
เจ้าบเุ รงนอง (ค.ศ. 1551-1581) ราชวงศต์ องอูยุคต้นเปน็ กลุ่มอำ� นาจทางการเมืองท่ีประสบความสำ� เรจ็ ใน
การสถาปนาข้ึนเป็นศูนย์กลางอ�ำนาจใหญ่สูงสุดในลุ่มน้ําอิรวดี ผู้น�ำจากราชวงศ์นี้มีฐานที่มั่นมาจากเมือง
ตองอูซ่ึงอยู่ในลุ่มนํ้าสะโตง ผู้น�ำคนส�ำคัญของช่วงเวลาน้ี คือ พระเจ้าตะเบงชเวตี้ (ค.ศ. 1531–1550)
พระองค์ท�ำสงครามมีชัยชนะเหนืออาณาจักรมอญและย้ายศูนย์กลางอ�ำนาจจากเมืองตองอูมายังเมือง
หงสาวดี นครหลวงของอาณาจักรมอญ กล่าวได้ว่าเป็นคร้ังแรกท่ีกษัตริย์พม่าสามารถขยายอ�ำนาจ
ครอบครองดินแดนมอญรวมทั้งสถาปนาศูนย์กลางอ�ำนาจในดินแดนพม่าตอนล่างเป็นผลส�ำเร็จ และเป็น
ครง้ั แรกทกี่ ษตั รยิ พ์ มา่ มปี รมิ ณฑลอ�ำนาจซอ้ นทบั กบั ปรมิ ณฑลอ�ำนาจของกษตั รยิ แ์ หง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา อนั นำ�
มาสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ราชส�ำนักตองอูโดยเฉพาะรัชกาลพระเจ้าบุเรงนองสามารถรวบรวม
เอารฐั และบา้ นเมอื งตา่ งๆ ในดนิ แดนพมา่ ตอนบน พมา่ ตอนลา่ ง ตลอดจนดนิ แดนรฐั ฉานเขา้ ไวใ้ นปรมิ ณฑล
อ�ำนาจได้ส�ำเร็จ และยังได้พยายามท�ำสงครามกับอาณาจักรล้านนา อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรลาว
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29