Page 28 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 28

11-18 สงั คมและวัฒนธรรมอาเซียน
ถูกลอบสังหารเสียชีวิตเม่ือวันที่ 19 กรกฎาคม 1947 ก่อนหน้าที่พม่าจะได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์จาก
อังกฤษเมอ่ื วันท่ี 4 มกราคม 194817

สมัยหลังอาณานิคมจนถึงปัจจุบัน

       ประวัติศาสตร์พม่าหลังได้รับเอกราช ในระยะแรกมีการปกครองแบบประชาธิปไตยท่ีมี
ประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลประมุขฝ่ายบริหาร
ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศพม่า คือ เจ้าส่วยแต้ก นายกรัฐมนตรีคนแรก คือ อูนุ รัฐบาลพม่า
ยุคเอกราชประสบปัญหานานาทางการเมือง ท้ังการแตกแยกแข่งขันอ�ำนาจกันเองระหว่างผู้น�ำพรรค
สนั นิบาตเสรีชนต่อต้านฟาสซสิ ต์ ปญั หาคอมมวิ นิสต์ ปญั หาการรุกรานของจนี ก๊กมนิ ตั๋ง และที่สำ� คญั ที่สดุ
คือ ปัญหาการต่อสู้เรียกร้องเอกราชของบรรดากลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ท่ีต้องการเป็นอิสระจากสหภาพพม่า
ตามขอ้ ตกลงปางหลวง18 ความระสาํ่ ระสายทางการเมอื ง และการทร่ี ฐั บาลพลเรอื นไมส่ ามารถจดั การแกไ้ ข
ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาความม่ังคงอนั บ่อนทำ� ลายเสถียรภาพและเอกภาพของรฐั พม่าทเี่ พ่ิงเกิดใหมไ่ ดน้ ำ�
ไปสกู่ ารเขา้ มามบี ทบาทของกองทพั ในการบรหิ ารประเทศ ในทส่ี ดุ ปี 1962 นายพลเนวนิ ไดท้ ำ� การรฐั ประหาร
และปกครองโดยรฐั บาลทหาร

       เมอื่ นายพลเนวนิ ดำ� รงตำ� แหนง่ ประธานาธบิ ดแี ละนายกรฐั มนตรี ไดป้ รบั นโยบายเศรษฐกจิ มาเปน็
สังคมนิยมโดยใช้ชื่อว่า “สังคมนิยมวิถีพม่า” ด�ำเนินการยึดกิจการของเอกชนมาเป็นของรัฐ ประกาศปิด
ประเทศ การติดต่อกับโลกภายนอก อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มขวด จนพม่าได้รับฉายาว่า “ฤาษี
แหง่ เอเชยี ” ใน ปี 1988 ไดเ้ กดิ การประทว้ งใหญข่ องนกั ศกึ ษา ปญั ญาชนและชาวพมา่ ตามเมอื งตา่ งๆ เพอ่ื
เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยมีนางอองซานซูจี บุตรีของ
นายพลอองซาน เป็นผู้น�ำการเรียกร้อง รัฐบาลทหารพม่าท�ำการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วง เหตุการณ์
ประท้วงน้ีได้น�ำไปสู่จุดจบของรัฐบาลนายพลเนวิน อย่างไรก็ตามทหารและกองทัพพม่ายังคงปกครอง
ประเทศต่อไปในนามของสภาฟ้ืนฟกู ฎและระเบยี บแห่งรฐั หรือ สลอรก์ (State Law and Order Resto-
ration Council: SLORC) และภายหลังเปล่ียนเป็นสภาสนั ตภิ าพและการพัฒนาแหง่ รัฐ (State Peace
and Development Council: SPDC) ในปี 2008 พมา่ ไดม้ กี ารลงประชามตยิ อมรบั การใชร้ ฐั ธรรมนญู
ฉบบั ใหม่ พรอ้ มกบั การเปลย่ี นชอ่ื ประเทศจากเดมิ “สหภาพเมยี นมา” มาเปน็ “สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา”

	 17 เรียบเรียงจาก ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (2544). พม่า: ประวัติศาสตร์และการเมือง. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำ�รา
สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร.์ น. 60–72.	

         18 ข้อตกลงปางหลวง (Panglong Agreement) คือ มติจากทป่ี ระชมุ ระหวา่ งผู้นำ�ฝ่ายพมา่ นำ�โดย นายพลอองซาน และ
ผ้นู ำ�กลุ่มชาตพิ ันธ์ตุ ่างๆ ในประเทศพม่า ไดแ้ ก่ ผนู้ ำ�ฉาน คะฉ่ิน และชิน ซึง่ จดั ข้ึนในวนั ท่ี 12 กุมภาพันธ์ 1947 ทเี่ มืองปางโหลง
ในรฐั ฉาน มีใจความโดยสรปุ วา่ กลุม่ ชาตพิ ันธใ์ุ นบรเิ วณพรมแดน (Frontier Areas) มีสิทธิในการปกครองและดำ�เนนิ กิจการตา่ งๆ
ภายในรฐั ของตนไดด้ ้วยตนเอง ยกเว้นแต่เรื่องการทหารและความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ จากข้อตกลงน้ีนำ�ไปสูก่ ารรา่ งรัฐธรรมนญู
ปี 1947 ทีร่ ะบุใหป้ ระเทศพมา่ เอกราชมีการปกครองแบบสหภาพ (Union) รฐั ของกล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุทรี่ ่วมลงนาม รวมถงึ รฐั คะเรนนี
(คะยา) มีสิทธิจะถอนตัวออกจากสหภาพหลงั จากอยู่รวมภายในสหภาพสบิ ปีไปแล้ว ดเู พิ่มเติม “Panglong Agreement” http://
peacemaker.un. org/sites/peacemaker.un.org/files/MM_470212_Panglong%20Agreement.pdf สืบคน้ เมือ่ 25 กันยายน
2558.
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33