Page 48 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 48
5-38 วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละส่ิงแวดลอ้ มเพอื่ ชีวิต
(5) ชนิดท่ีมีส่วนผสมของวิตามินซี ส่วนใหญ่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น อเมริกา
และยโุ รป ซงึ่ เปน็ คนผวิ ขาวและอยใู่ นอากาศเยน็ แดดไมแ่ รงนกั จงึ เปน็ เครอื่ งสำ� อางทำ� ใหผ้ วิ ขาวชนดิ ออ่ น
สำ� หรบั คนไทย ดังนั้นจึงตอ้ งมีการเพ่มิ มอยส์เจอร์ไรเซอรแ์ ละสารปอ้ งกนั แดดเพื่อใหเ้ หมาะสมกับคนไทย
นอกจากสาร 5 กลุ่มดังกลา่ วแลว้ ยงั มสี ารทพี่ บวา่ เป็นสารอนั ตรายทีม่ ักพบใน
ครมี หนา้ ขาวอีก ไดแ้ ก่
(6) สารปรอท เป็นสารอันตรายที่ถูกประกาศห้ามในเคร่ืองส�ำอางโดยเด็ดขาด
เพราะเปน็ สารทท่ี ำ� ให้ปฏกิ ริ ยิ ารุนแรงกับผิว มฤี ทธิ์ยับยง้ั การสรา้ งเม็ดสใี นผวิ หนัง ทำ� ใหส้ ผี ิวจางลง สง่ ผล
ให้ผวิ มีความไวตอ่ แสงมากขึ้น ท�ำใหเ้ กดิ เปน็ ผนื่ แดงงา่ ย และอาจท�ำให้ผวิ ดูขาวใสในช่วงแรก แต่เมอ่ื เวลา
ผ่านไปผิวจะเปลี่ยนเป็นสีด�ำคลํ้า และถ้าใช้เป็นเวลานานต่อเนื่องกันร่างกายจะดูดซึมสารปรอทเข้า
กระแสเลือด ส่งผลเสียต่อไต ตับ และระบบไหลเวียนของเลือด มีฤทธิ์ท�ำลายระบบการท�ำงานของสมอง
และส่งผลกบั แมท่ ่ีมีทารกอย่ใู นครรภ์
(7) สารไฮโดรควิโนน เป็นสารที่มีฤทธิ์ยับย้ังการสร้างเม็ดสีของผิวแต่มีผล
ข้างเคียงท�ำให้เกิดอาการระคายเคืองและท�ำให้เนื้อเย่ือภายในผิวหนังท�ำให้เกิดฝ้า การรักษาไม่หายจึงมี
คำ� ส่ังหา้ มใช้สารชนดิ น้ีในเคร่อื งส�ำอางทุกชนดิ
(8) กรดเรทิโนอิก เป็นสารช่วยการแบ่งตัวของผิวหนัง และการหลุดออก
ชว่ ยขจดั สิวเสี้ยนแต่มีพิษทำ� ให้หนา้ แดงแสบร้อนรนุ แรง
(9) สารสเตียรอยด์ เป็นสารท่ีมีพิษร้ายแรงต่อผิวหนังท�ำให้ผิวหนังบาง
ไมส่ ามารถถกู แดดได้ หลอดเลือดใต้ผวิ หนงั อุดตนั เกดิ สวิ อดุ ตนั เป็นผื่นแพ้ และยังมีผลต่ออวยั วะภายใน
เป็นผลข้างเคียงคือเลือดออกในกระเพาะอาหาร การท�ำงานของระบบควบคุมน้ําตาลและการท�ำงานของ
ตอ่ มหมวกไตผดิ ปกตไิ ด้
จากขอ้ มูลเรื่องสารเคมใี นเครือ่ งสำ� อาง ผู้ใช้จำ� เปน็ ตอ้ งศกึ ษาขอ้ มูลเก่ยี วกบั ช่ือและชอ่ื ทางการค้า
ของเครอื่ งส�ำอาง ตลอดจนรายการของสว่ นผสมในการผลติ เครื่องส�ำอาง ซ่ึงต้องเป็นไปตามช่ือตามตำ� รา
และประกาศกฎหมาย ตลอดจนถึงค�ำเตือนเก่ียวกับอันตรายที่อาจเกิดข้ึนต่อตนเองและปฏิบัติตามโดย
เคร่งครัดดว้ ย
3. สมุนไพร
สมนุ ไพร เปน็ สารในธรรมชาตจิ ากพชื ทไ่ี มม่ กี ารเปลย่ี นแปรสภาพ ยงั คงสภาพเปน็ สว่ นตา่ งๆ ของ
ตน้ พชื เชน่ เป็นราก ล�ำต้น ใบ ดอก ผล หรือเมลด็ สามารถน�ำมาใช้เปน็ ยารกั ษาโรคและบำ� รุงรา่ งกายได้
มนษุ ยเ์ รยี นรกู้ ารใชพ้ ชื สมนุ ไพรจากธรรมชาตใิ นการรกั ษาโรคมาแลว้ เปน็ เวลานาน พอๆ กบั การใชพ้ ชื เปน็
อาหาร
มนุษย์ในสมัยโบราณเรยี นร้จู ากการสังเกต การมีประสบการณ์การทดลองและเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
เกยี่ วกบั สมนุ ไพรแตล่ ะชนดิ เชน่ การสงั เกตรปู รา่ งลกั ษณะของรากโสมทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยรปู รา่ งของมนษุ ย์
ได้มีการทดลองใช้และพบว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคได้ จึงมีคนนิยมบริโภคโสมและมีการซ้ือขายกัน
ดว้ ยราคาแพงยิ่งรากโสมทมี่ ลี ักษณะคล้ายมนษุ ย์มากเท่าไร ราคากจ็ ะยิง่ แพงมากข้นึ เพราะเชื่อว่าพืชท่ีมี