Page 33 - การคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมาย เกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้า
P. 33
กฎหมายวา่ ดว้ ยความรับผิดในผลติ ภณั ฑ์ (1) 9-21
(5) บทบญั ญตั ไิ มต่ ดั สทิ ธผิ เู้ สยี หายทจ่ี ะเรยี กรอ้ งคา่ เสยี หายโดยอาศยั สทิ ธติ ามกฎหมายอนื่ ตาม
มาตรา 14
ผู้เขียนเห็นว่าโดยท่ีประเทศไทยเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียน และบางประเทศในกลุ่มอาเซียนมี
กฎหมายความรบั ผดิ ในผลติ ภณั ฑท์ ค่ี รอบคลมุ ถงึ บรกิ ารทไี่ มป่ ลอดภยั (Unsafe Services หรอื Defective
Services) เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ ดังนั้นในอนาคตประเทศไทยต้องปรับปรุงกฎหมายความรับผิดใน
ผลิตภัณฑ์ (The Product Liability Act. 2008) ซึ่งเป็นกฎหมายกลางท่ีอยู่ในความรับผิดชอบของ
ส�ำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมถึงบริการท่ีไม่ปลอดภัยด้วย เพราะนโยบายการ
คุ้มครองผู้บริโภค (Consumer Policy) ของทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนต้องพัฒนากฎหมายในประเทศ
ของตนใหอ้ ยู่ในระนาบเดียวกันกับกฎหมายทีป่ ระเทศอืน่ ในกลมุ่ อาเซยี นมอี ยดู่ ว้ ย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวตามนโยบายการค้มุ ครองผ้บู ริโภค (Consumer Policy) ของทกุ ประเทศใน
กลมุ่ อาเซยี น ประกอบกบั ความเสยี หายทไ่ี ดร้ บั จากบรกิ ารทไ่ี มป่ ลอดภยั มคี วามสญู เสยี ไมต่ า่ งไปจากความ
เสียหายท่ีได้รับจากสินค้าท่ีไม่ปลอดภัย ประการส�ำคัญต้องการให้ผู้ได้รับความเสียหายจากบริการที่ไม่
ปลอดภัยได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการต่างๆ ในกฎหมายความรับผิดในผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับผู้ที่
ได้รับความเสียหายจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย เช่น มาตรการภาระในการพิสูจน์ มาตรการความรับผิดโดย
เครง่ ครัด มาตรการค่าสินไหมทดแทนเพ่อื การลงโทษ มาตรการอายคุ วาม เปน็ ตน้
ผู้เขียนจึงเห็นว่ากฎหมายความรับผิดในผลิตภัณฑ์ของประเทศไทยควรได้รับการปรับปรุงดัง
ตอ่ ไปนี้
1. เพ่ิมนิยามค�ำว่าสินค้าให้รวมถึงบริการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ท้ังนี้ตามที่
กำ� หนดในกฎกระทรวง
2. เพ่มิ นยิ ามคำ� วา่ ผู้ประกอบการให้หมายความว่าผ้ซู ่งึ ใช้หรอื ยอมใหใ้ ช้เคร่ืองหมายบริการ
3. เพม่ิ นิยามคำ� วา่ “ขาย” ให้รวมถงึ ผู้ใหบ้ ริการ
4. เพิ่มผลการฟ้องคดีโดยผู้มีอ�ำนาจฟ้องคดีแทนผู้เสียหาย โดยน�ำหลักการด�ำเนินคดีแบบกลุ่ม
(Class Action) มาใช้บังคับดว้ ยกบั กรณีท่มี ีกลุม่ บุคคลได้รบั ความเสียหายจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยโดยมี
ข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายอย่างเดียวกันให้ผู้เสียหายหรือผู้ฟ้องคดีแทนผู้เสียหายมีอ�ำนาจฟ้องคดีแบบ
กลุ่มตามกฎหมายเดียวกบั การดำ� เนนิ คดแี บบกลุ่มเพื่อเรยี กคา่ เสียหายแทนผูเ้ สยี หายคนอื่นได้
5. ให้แก้ไขเหตุหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ประกอบการในข้อพิสูจน์ได้ว่า “ผู้เสียหายได้รู้อยู่
แลว้ วา่ สนิ คา้ นนั้ เปน็ สนิ คา้ ทไี่ มป่ ลอดภยั ” เดมิ นนั้ เปน็ ขอ้ ความใหมด่ งั น้ี “ผเู้ สยี หายไดร้ อู้ ยา่ งชดั เจนอยแู่ ลว้
ว่าสินค้าท่ีไม่ปลอดภัยน้ันเป็นสินค้าท่ีอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ตนได้รับแต่ยังเข้ารับความเสียหายท่ี
เกดิ ขนึ้ นน้ั โดยปราศจากเหตอุ นั สมควร” ซง่ึ ผปู้ ระกอบการตอ้ งพสิ จู นใ์ หไ้ ดค้ วามใหมต่ ามนี้ ผปู้ ระกอบการ
จงึ จะหลดุ พ้นจากความรบั ผิด
6. ให้แก้ไขเหตุหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ประกอบการโดยให้เพ่ิมข้อความ “ความเสียหาย
เกดิ ขน้ึ จากการรับบริการทีไ่ มถ่ ูกต้องตามวิธีรบั บริการ” เป็นเหตุหลดุ พ้นความรบั ผดิ ของผปู้ ระกอบการท่ี
พสิ จู นไ์ ด้ความนั้น