Page 20 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 20
9-10 ความรเู้ บือ้ งต้นการส่อื สารชุมชน
ตามความเชอ่ื แบบตะวนั ตก ความเปน็ ชายถกู จดั ใหอ้ ยใู่ นปรมิ ณฑลของความเปน็ เหตเุ ปน็ ผลและ
ความเปน็ หญงิ ถกู จดั อยใู่ นปรมิ ณฑลของธรรมชาติ ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ ฐานทางปญั ญาหลกั อนั หนง่ึ ในการครอบงำ�
ผหู้ ญงิ ในวฒั นธรรมตะวนั ตก ในขอบเขตของความเปน็ เหตเุ ปน็ ผลหรอื ขอบเขตของความเปน็ ชายจะขดั แยง้
และไมร่ วมถึงเร่อื งของอารมณ์ ความรัญจวนใจ ธรรมชาติ ประสบการณ์ ศรทั ธา ความบา้ ขอบเขตของ
ความเป็นชายหมายถงึ ชีวิตสาธารณะ การผลติ ชีวติ ทางสงั คมและวฒั นธรรม ซึ่งขัดแยง้ กบั ขอบเขตของ
ความเป็นหญิงท่ีเป็นเรื่องส่วนตัว ชีวิตในบ้าน และการสืบพันธุ์ ความเป็นหญิงถูกใช้เป็นตัวแทนของ
ธรรมชาตแิ ละปจั เจกบคุ คลซงึ่ ตรงขา้ มกบั ความเปน็ ชายทเี่ ปน็ สงั คมและวฒั นธรรม (Plumwood, 1990 อา้ ง
ถึงใน วารณุ ี ภรู สิ นิ สิทธ์ิ, อา้ งแลว้ )
กาญจนา แกว้ เทพ (2540) อธบิ ายใหเ้ ห็นถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างเพศหญงิ และเพศชายวา่ เป็น
ความสัมพันธ์ที่มีลักษณะไม่เท่าเทียมกันมาต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และไม่ว่าสังคมจะเปล่ียนไปแค่ไหน
ความไมเ่ ทา่ เทยี มระหวา่ งเพศกย็ งั เปน็ ปญั หาคโู่ ลกตอ่ ไป ถงึ แมว้ า่ อาจมกี ารเปลยี่ นแปลงดา้ นเนอื้ หาไปบา้ ง
แตท่ ว่าสง่ิ ทีไ่ มเ่ ปลย่ี นแปลงอยูต่ ลอดเวลากค็ ือ การเอารดั เอาเปรียบระหว่างเพศนั่นเอง
ความคดิ ในเรอ่ื งความแตกต่างทางเพศ และการปลูกฝังค่านิยมในเร่ืองของบทบาททางเพศน้ี ได้
นำ� ไปสู่การถือระบบชายเป็นใหญ่ (Patriarchy) หรือปติ าธิปไตย เปน็ ระบบอำ� นาจทผ่ี ชู้ ายโดยรวมมเี หนอื
ผหู้ ญงิ โดยรวม เปน็ ระบบทผ่ี หู้ ญงิ ถกู กดขโ่ี ดยผชู้ าย โดยทวั่ ไปแลว้ แนวคดิ ระบบวถิ แี บบชายเปน็ ใหญ่ หมายถงึ
กฎเกณฑ์ของพ่อ (law of father) หรือการควบคุมทางสังคมท่ีผู้ชายในฐานะพ่อ สามารถเป็นเจ้าของ
ภรรยาและควบคุมลูกสาว อย่างไรก็ดีนักสตรีนิยมมองว่า ระบบชายเป็นใหญ่หมายถึง ระบบที่ผู้ชายถูก
สรา้ งใหก้ ลายเปน็ เพศทเี่ หนอื กวา่ ผหู้ ญงิ ในสงั คมอตุ สาหกรรมยงั มกี ารใชก้ ลไกในการสรา้ งความเหนอื กวา่
และการควบคมุ ทางสงั คม เพอ่ื ทำ� ใหช้ ายมอี ำ� นาจเหนอื กวา่ หญงิ โดยผา่ นระบบกฎหมาย ระบบภาษี ระบบ
ความปลอดภัยทางสังคม ทัศนคติ การแสดงออกทางพฤติกรรมในชีวิตประจ�ำวัน (เนตรดาว แพทย์กุล,
2544: 8)
เอเดรยี น ริช (Adrienne Rich, อา้ งถึงใน พรพิไล ถมังรกั ษ์สัตว,์ 2539) กล่าววา่ การถอื ระบบ
ชายเปน็ ใหญเ่ ปน็ อำ� นาจของผชู้ ายทางครอบครวั สงั คม อดุ มการณ์ ระบบการเมอื ง โดยผา่ นการใชอ้ ำ� นาจ
การกดดนั โดยตรง หรือพิธกี รรม ประเพณี กฎหมาย ภาษา ขนบธรรมเนียม ส�ำนวนโวหาร การศกึ ษา
การแบ่งงานกันท�ำ ท้ังหลายเหล่านี้ได้มีส่วนบังคับและก�ำหนดบทบาทที่ผู้หญิงควรท�ำหรือไม่ควรท�ำใน
ลกั ษณะที่ผู้หญงิ ตกอยูภ่ ายใตผ้ ูช้ าย ดงั งานเขียนของเวอร์จิเนยี วูฟ (Virginia Woolf อา้ งถงึ ใน ศิริรัตน์
ทวีเลิศนิธิ, 2534) ในเรื่อง อะรูมออฟวันส์โอน (A Room of one’s Own, 1929) ซึ่งเป็นนวนิยายท่ี
สะท้อนให้เหน็ ภาพของผู้หญงิ ว่า “ผชู้ ายเปน็ ผสู้ ร้าง สงั คมเป็นผกู้ ำ� หนด”
“...... ในจนิ ตนาการ เธอคอื บคุ คลทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ แตใ่ นความเปน็ จรงิ เธอไรค้ า่ ไรค้ วามหมาย
เธอปรากฏกายโลดแลน่ ไปในโลกวรรณกรรมบนหนา้ กระดาษหนา้ แลว้ หนา้ เลา่ เธอคอื ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง
แต่ในความเป็นจริง เธอคือทาสของเด็กผู้ชายคนไหนก็ได้ท่ีพ่อแม่เขายัดเยียดแหวนใส่ไว้ท่ีนิ้ว
ของเธอ ถ้อยคำ� แสนหวานเสนาะเพราะพริ้งและความคิดลุ่มลกึ ในวรรณคดไี หลหล่ังพร่ังพรูออกจาก
รมิ ฝีปากของเธอ แต่ในชีวิตจริงๆ เธอเกอื บอ่านไมอ่ อก สะกดไม่ไดแ้ ละเป็นเพียงสมบตั ชิ ิน้ หนงึ่ ของ
สามี....”