Page 56 - การศึกษาชุมชนเพื่อการวิจัยและพัฒนา
P. 56

6-46 การศึกษาชุมชนเพอ่ื การวิจยั และพัฒนา
ในแต่ละกลุ่มประมาณ 6-10 คน ซ่ึงเลือกมาจากประชากรเป้าหมายที่ก�ำหนดเอาไว้ (สืบค้นเม่ือ 2
กุมภาพนั ธ์ 2559, จาก www.trf.go.th)

       ชาย โพธสิ ติ า (2550) อธบิ ายว่าการสนทนากลมุ่ (focus groups) เปน็ การจดั กล่มุ คนขน้ึ มาเพื่อ
การสนทนาหรอื อภปิ รายกนั โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเจาะจง เพอื่ จะหาขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งตรงประเดน็ เพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู
ท่ีดีท่ีสุดตรงตามจุดมุ่งหมายของการศึกษา โดยผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันของสมาชิกในวงสนทนา
การสนทนากลุ่มจึงไม่ใช่การสัมภาษณ์คนเป็นกลุ่มซึ่งมักใช้แบบสอบถาม แต่การสนทนากลุ่มจะเป็นการ
อภปิ รายมากกวา่ และไมใ่ ชเ่ ปน็ การระดมสมองเพอ่ื หาขอ้ สรปุ จากผรู้ แู้ ตก่ ารสนทนากลมุ่ มงุ่ หาความคดิ เหน็ และ
ประสบการณข์ องผรู้ ว่ มสนทนา ซงึ่ อาจแตกตา่ งกนั หลากหลาย ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งสอดคลอ้ งลงรอยกนั เสมอไป

       การสนทนากลุ่ม จึงเป็นเครื่องมือการวิจัยการสื่อสารชุมชนอีกวิธีหนึ่งในประเด็นปัญหาที่เฉพาะ
เจาะจงและมกี ารวางแผนเตรยี มการอย่างเหมาะสม โดยมจี �ำนวนคนประมาณกลุ่มละ 6-10 คน ซง่ึ เลือก
มาจากประชากรทกี่ ำ� หนดไว้ การสนทนากลมุ่ ตอ้ งมผี ดู้ ำ� เนนิ การสนทนาตามประเดน็ ทมี่ าจากวตั ถปุ ระสงค์
ของการวจิ ยั เพอื่ ใหผ้ รู้ ว่ มสนทนาไดแ้ สดงความคดิ เหน็ รว่ มกนั อภปิ รายอยา่ งกวา้ งขวางลกึ ซงึ้ และละเอยี ด
ท่ีสุด เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีดีทีส่ ุด

       ในการสนทนากลมุ่ ผเู้ ขา้ รว่ มสนทนาแตล่ ะคน และผดู้ ำ� เนนิ การสนทนาจะมสี ดั สว่ นในการพดู ใกล้
เคยี งกันไม่เหมือนการสมั ภาษณท์ ี่ผ้ใู ห้สัมภาษณ์จะมสี ดั ส่วนการพูดมากกว่าผสู้ มั ภาษณ์ ดังน้นั ผสู้ นทนา
จึงสามารถแสดงออกได้ตามความต้องการ เน่ืองจากผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มจะมีคุณสมบัติพื้นฐานหลาย
ประการคลา้ ยกนั กอ่ ให้เกิดความม่นั ใจในการพูดหรือการอภปิ รายโตต้ อบกัน

       David Morgan (1988, อา้ งใน ชาย โพธสิ ติ า, 2550) กลา่ ววา่ การสนทนากลุม่ มคี ณุ สมบตั ขิ อง
วธิ กี ารวจิ ยั ทางสงั คมศาสตร์ 2 แบบอยใู่ นตวั คอื มคี ณุ สมบตั ขิ องวธิ กี ารสงั เกตแบบมสี ว่ นรว่ ม (participant
observation) และวธิ กี ารสมั ภาษณแ์ บบตวั ตอ่ ตวั (individual interview) กลา่ วคอื ในกระบวนการสนทนา
กลมุ่ นน้ั นกั วจิ ยั สามารถสงั เกตพฤตกิ รรมของผรู้ ว่ มกลมุ่ สนทนา ผา่ นทางปฏสิ มั พนั ธท์ ส่ี มาชกิ กลมุ่ มตี อ่ กนั
ในการโตต้ อบและแสดงความคดิ เหน็ ขณะเดยี วกนั นกั วจิ ยั (ผดู้ ำ� เนนิ การสนทนา) กส็ ามารถซกั ถามผรู้ ว่ ม
วงสนทนาเป็นรายคนได้ (เช่นเดียวกับการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว) ถ้ามีความจ�ำเป็นให้ต้องท�ำเช่นน้ัน
นอกจากนแี้ ลว้ ขอ้ มลู จากการสนทนากลมุ่ ทด่ี ี คอื ขอ้ มลู ทเี่ กดิ มาจากปฏกิ ริ ยิ าตอ่ กนั ของสมาชกิ ในกลมุ่ โดยที่
ไมม่ กี ารซักไซไ้ ล่เลยี งภายใต้สถานการณ์สนทนาทเี่ ปน็ ธรรมชาติ

       1.2	 องค์ประกอบในการจัดสนทนากลุ่ม ในการจัดสนทนากล่มุ ปารชิ าติ วลัยเสถียร และคณะ
(2543, อา้ งในบำ� เพ็ญ เขียวหวาน, 2549) ไดเ้ สนอแนะไว้ดงั นี้

            1) บุคลากรที่เก่ียวข้อง ได้แก่ (1) ผู้ด�ำเนินการสนทนา (moderator) จะต้องเป็นผู้ท่ีพูด
และฟงั ภาษาทอ้ งถ่ินได้ เป็นผ้มู บี ุคลิกดี สุภาพ อ่อนนอ้ ม และมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ดี ผดู้ ำ� เนินการสนทนาจะ
ตอ้ งเปน็ ผรู้ คู้ วามตอ้ งการและวตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษาชมุ ชนในแตล่ ะครง้ั เปน็ อยา่ งดดี ว้ ย (2) ผจู้ ดบนั ทกึ
การสนทนา (notetaker) จะต้องรู้วิธีว่าท�ำอย่างไรจึงจะจดบันทึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะต้อง
จดบนั ทกึ บรรยากาศทเี่ กดิ ขน้ึ ในระหวา่ งการสนทนาดว้ ย (3) ผชู้ ว่ ย (assistant) จะเปน็ ผทู้ ำ� หนา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื
ทว่ั ไปในขัน้ เตรียมการการจดั สนทนากลมุ่ เช่น เตรียมสถานท่ี จัดสถานท่ี บันทึกเสียง เป็นต้น
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61