Page 49 - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
P. 49
หลกั การใช้ค�ำ เพ่อื การสอื่ สาร ๓-39
นอกจากสะกดค�ำไม่ถูกต้องแล้ว บางทีสะกดค�ำถูกต้องแต่เขียนต�ำแหน่ง สระ วรรณยุกต์
ไมถ่ ูกต้องตามตำ� แหน่งหรอื อาจเขียนไมช่ ดั เจน ก็ทำ� ให้การสื่อสารผดิ พลาดได้ เช่น คำ� วา่ นภา เขียนหวดั
ต่อกนั ระหว่าง ภ และ า อาจเปน็ นรกได้ คำ� วา่ นอ้ ง เขยี นเป็น นอง้ โดยวางตำ� แหน่งวรรณยกุ ตผ์ ดิ
การออกเสียงกเ็ ช่นกัน ถ้าออกเสยี งผิด ก็จะทำ� ให้การสื่อความหมายผดิ ไป เชน่
รัฐบาลต้องการจัดงานศิลปะ เพ่ือให้คนที่ลักศิลปะได้แสดงฝีมือ และต้องการให้ผู้คนมาชม
ผลงานศิลปะ
โรงเรยี นชนบททเ่ี ปน็ เพลิงยังมมี าก รัฐบาลจะเรง่ ปลกู สร้างอาคารถาวรให้
จากตัวอย่าง ถ้าออกเสยี งรกั เปน็ ลัก และเพิง เปน็ เพลงิ ความหมายจะเปล่ยี นไป
๒. ใช้ค�ำเช่ือมให้ถูกต้อง
ค�ำเช่ือมในภาษาไทยคือค�ำบุพบทท�ำหน้าท่ีเชื่อมความและค�ำสันธานท�ำหน้าท่ีเช่ือมประโยค
ผสู้ อื่ สารจะตอ้ งใช้คำ� เชื่อมให้ถูกต้อง
หลกั การใช้คำ� สันธานมดี งั น้ี
๑) ค�ำสันธานเชื่อมความท่ีคล้อยตามกัน จะใช้ค�ำสันธาน และ กับ ทั้ง...และ ถ้าเป็นการ
เช่อื มความคลอ้ ยตามกนั ท่ีมีเวลาต่อเน่ืองจะใช้ค�ำวา่ ครนั้ ...จงึ ครน้ั ...ก็ พอ...ก็ เปน็ ตน้
๒) ค�ำสันธานเช่ือมความท่เี ปน็ เหตุเปน็ ผลกัน เชน่ เพราะ ฉะนัน้ ฉะนน้ั ...จงึ เพราะฉะนัน้
เปน็ ต้น
๓) ค�ำสันธานเชอ่ื มความตอนหน่ึงทก่ี ล่าวยงั ไม่จบกับอีกตอนหนง่ึ ทเี่ ริ่มต้น เช่น สว่ น ฝา่ ย
อนงึ่ อีก ประการหน่งึ ในท�ำนองเดยี วกัน เป็นตน้
๔) คำ� สนั ธานเชอ่ื มความใหเ้ ลอื กทเ่ี ปน็ ค�ำถามและไมเ่ ปน็ คำ� ถาม เชน่ หรอื มฉิ ะนนั้ ไมเ่ ชน่
นนั้ ...ก็ เป็นต้น
๕) ค�ำสันธานเช่ือมความท่ีเปรียบเทียบกัน เช่น คล้าย ฉันใด...ฉันน้ัน ประหน่ึง เสมือน
เป็นต้น
๖) คำ� สันธานที่ใช้เช่ือมความใหส้ ละสลวย เชน่ กด็ ี อย่างไรก็ดี อยา่ งไรกต็ าม เป็นตน้
สว่ นค�ำบุพบท คอื ค�ำทใ่ี ช้เชื่อมค�ำกับค�ำ หรือใชน้ �ำหน้าค�ำนาม คำ� สรรพนาม ค�ำกริยาสภาวมาลา
เพอื่ บอกตำ� แหนง่ ของคำ� นนั้ ๆ วา่ มหี นา้ ทอี่ ยา่ งไร คำ� บพุ บทมจี ำ� นวนมาก เชน่ กบั แก่ แด่ ตอ่ เพอื่ สำ� หรบั
ด้วย โดย เป็นตน้
ค�ำบุพบทบางคำ� ทำ� หนา้ ท่คี ล้ายกัน เช่น แก่ แด่ ทงั้ สองค�ำนีใ้ ชเ้ มื่ออยู่หลังคำ� กริยา และประธาน
เปน็ ผกู้ ระทำ� กรยิ าให้ แตค่ ำ� วา่ แก่ จะใชก้ บั ประธานผทู้ ำ� กรยิ าให้ เปน็ ผสู้ งู กวา่ ผรู้ บั สว่ น แด่ ประธานแสดง
กรยิ าให้ต่ํากว่าผรู้ ับ เช่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวพระราชทานพรปีใหมแ่ กป่ ระชาชน
ฉนั ถวายภตั ตาหารแดพ่ ระสงฆจ์ �ำนวน ๙ รูป