Page 37 - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
P. 37
ศลิ ปะการใช้ภาษา ๑๒-27
ในเรอื่ งลิลิตตะเลงพ่าย (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ๒๕๐๓, น. ๓๖) ก็มกี ารใชภ้ าษาเชน่ นี้ ดงั ตวั อยา่ ง
“นางนวลนกึ นิม่ นอ้ ง นวลปราง
จากพรากพรากจากนาง หนึ่งนนั้
พิราบพลิ าปคราง ครวญแขง่ ข้าฤๅ
บวั วา่ บวั นชุ ป้นั อกน้องเรียมถนอม”
ในตวั อยา่ งขา้ งตน้ กวเี ลน่ คำ� พอ้ งระหวา่ งชอื่ นกกบั คำ� เรยี กอวยั วะในตวั นางทร่ี กั หรอื ความสวยงาม
ของนาง หรือเล่นกับกิริยาของกวี คือ เล่นช่ือนกนางนวลกับนวลแก้มของนาง เล่นชื่อนกจากพรากกับ
พฤติกรรมของกวีที่พรากจากนาง เช่นชื่อนกพิราบกับกิริยาพิลาปคือคร�่ำครวญคิดถึงนางของกวี เล่นชื่อ
นกดอกบัวกับบวั ของนอ้ งคือเตา้ นมทีง่ ามราวกบั ป้ันซึ่งกวีเฝ้าทะนถุ นอม
๑.๖ ใช้ค�ำสลับท่ี ดงั ตัวอย่างในเรอื่ งลิลิตตะเลงพ่าย (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๐๓, น. ๓๖ และ
๓๙) เล่นค�ำ “จากพราก” ซ่ึงเป็นช่ือนกชนิดหนึ่ง กับ “พรากจาก” ซึ่งเป็นกิริยาของกวีในโคลงบทแรก
และเล่นค�ำ “แขกเต้า” กับ “เต้าแขก” ในโคลงบทหลังซ่ึงมีความหมายว่านกแขกเต้าบินไปเป็นแขก
ของนางด้วยเถิด เพื่อแจง้ ให้นางทราบวา่ กวีโหยหานางมากเพยี งใด ดงั น้ี
“นางนวลนึกน่ิมนอ้ ง นวลปราง
จากพรากพรากจากนาง หนงึ่ น้ัน
พริ าบพลิ าปคราง ครวญแขง่ ข้าฤๅ
บัววา่ บวั นุชปน้ั อกนอ้ งเรยี มถนอม
แขกเตา้ เตา้ แขกนอ้ ง นงพะงา หนง่ึ รา
บอกว่าเรยี มโหยหา ละห้อย
เชิญนุชเรง่ เรว็ มา ระงบั โศก พเ่ี อย
ขอพีพ่ บพกั ตร์น้อย หน่ึงให้สรา่ งศัลย”์
๑.๗ ใช้ค�ำซ้อน ดงั ตวั อยา่ งในเร่ืองลิลิตตะเลงพ่าย (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ๒๕๐๓, น. ๓๙) ดังน้ี
“พระโหยพระไห้รำ่� ร�ำจวน
พลางพระค�ำนงึ นวล หนุ่มเหน้า
บ่เหือดบ่หายครวญ ครางครำ�่ อย่แู ฮ
พระแต่โศกแตเ่ ศรา้ แต่สรอ้ ยแสนทว”ี
ในตวั อยา่ งขา้ งตน้ กวเี ลน่ คำ� ซอ้ นของคำ� ทม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั คอื เลน่ คำ� วา่ “โหย” กบั “ไห”้
“เหอื ด” กบั “หาย” และ “โศก” กับ “เศรา้ ”