Page 39 - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
P. 39
ศลิ ปะการใช้ภาษา ๑๒-29
๒.๒ ใช้ค�ำท่ีมีสัมผัสคล้องจอง ทำ� ให้ภาษาไพเราะเพราะเสยี งสัมผสั เชน่
รักท่ีจะเรียน ต้องเพียร จงหนัก
ริทีจ่ ะรกั ต้องมกั เอาใจ
ในตัวอย่างข้างต้น นอกจากใช้ค�ำสัมผสั คล้องจองของคำ� “เรยี น” กบั “เพียร” “หนัก” กับ “รัก”
และ “รกั ” กับ “มกั ” แล้ว ในวรรคหนา้ ยังใชจ้ �ำนวนคำ� ๔ คำ� เท่ากนั และมโี ครงสร้างของขอ้ ความท่ีมกี าร
เล่นค�ำและจังหวะของค�ำ ได้แก่ “รักที่จะเรียน” กับ “ริท่ีจะรัก” โดยมีค�ำ “ท่ีจะ” อยู่ตรงกลางข้อความ
เหมอื นกนั แบบการใช้ข้อความคขู่ นาน
นอกจากน้ี ยังพบการใช้ค�ำลักษณะน้ใี นงานโฆษณา เชน่ “รักท่ีจะมอบ ชอบทีจ่ ะให”้ เป็นศิลปะ
การใช้ภาษาทเี่ กดิ จากการใชค้ ำ� ทม่ี คี วามหมายคลา้ ยกนั ได้แก่ “รัก” กับ “ชอบ” และ “มอบ” กบั “ให”้
ทง้ั ยังเป็นการเล่นภาษาในขอ้ ความที่มีโครงสร้างอย่างเดยี วกนั ได้แก่ “...ทจ่ี ะ...” ท�ำใหภ้ าษาที่ใชส้ ะดดุ หู
ผูฟ้ งั วิทยแุ ละผูช้ มโทรทศั น์
๒.๓ แปลงค�ำเพื่อเลี่ยงค�ำหยาบ ดงั ตัวอย่าง
“เมื่อวานน้ี ทางกรงุ เทพมหานครไดจ้ ัดเจา้ หน้าท่ีนับสบิ คนไปจับ “น้องเห้” ในสวนลมุ พนิ ี
เพอื่ ลดจำ� นวนประชากร และเพอื่ มใิ หส้ รา้ งความเดอื ดรอ้ นรำ� คาญแกป่ ระชาชนหรอื ทำ� รา้ ยประชาชน
ทไ่ี ปออกกำ� ลงั กายในสวนสาธารณะแห่งนี”้
คำ� วา่ “นอ้ งเห”้ ในตวั อยา่ งขา้ งตน้ แปลงมาจากชอื่ ทช่ี าวบา้ นใชเ้ รยี กตวั เงนิ ตวั ทองนนั่ เอง แตเ่ ขยี น
บดิ ไปเพอ่ื เลยี่ งการใช้ค�ำหยาบ
บางคนอาจใชค้ �ำเลี่ยงไปเปน็ ค�ำอน่ื กไ็ ด้ เชน่ เขียนวา่ “นอ้ งเหยี้ ม” ท่ีไม่มี ม มา้ หรอื ตัดตัว ม ม้า
๒.๔ ใช้ค�ำผวน การใช้ค�ำผวนน้ีมีข้อควรระวังว่าไม่ควรเป็นค�ำหยาบคาย หากผวนกลับเป็น
คำ� ปกตแิ ลว้ เปน็ คำ� หยาบ ไมถ่ อื วา่ ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งมศี ลิ ปะ ตวั อยา่ งการใชค้ ำ� ผวนอยา่ งมศี ลิ ปะ เชน่ มหี มอดู
คนหนง่ึ ตอบจดหมายของดาราสาวคนหนง่ึ โดยท�ำนายโชคชะตาของเธอวา่
“ภายใน ๖ เดอื นขา้ งหนา้ คณุ จะมขี า่ วดเี กยี่ วกบั ความรกั คอื จะสมหวงั ในความรกั ทร่ี อยคอ
มาเป็นเวลานานแล้ว”
คำ� วา่ “รอยคอ” ในท่ีน้เี ปน็ ค�ำผวน เมอ่ื กลับเปน็ คำ� ปกติ จะไดค้ ำ� ว่า “รอคอย”
๒.๕ ใช้ภาษาโน้มน้าวใจ การใช้ภาษาโน้มนา้ วใจนมี้ ักแสดงเหตผุ ลเพื่อทำ� ให้เช่อื ตาม เชน่ มีไลน์
ในสอ่ื สงั คม ไมท่ ราบวา่ ใครแตง่ ใชภ้ าษาโนม้ นา้ วใจใหท้ ำ� บญุ ทำ� กศุ ล คอื สรา้ งสมบญุ กศุ ล โดยใหค้ วามเหน็
ว่าดีกว่าสะสมทรัพย์สินเพราะไม่ต้องกลัวถูกขโมยและน�ำติดตัวไปหลังจากตายแล้วได้ด้วย ส่วนทรัพย์สิน
น�ำไปไม่ไดแ้ ม้แตน่ ้อย ดังน้ ี