Page 47 - ภาษาอังกฤษสำหรับครูสอนภาษา
P. 47
การศกึ ษาเร่อื งความหมาย 8-37
หากผฟู้ งั หรอื ผอู้ า่ นยงั ไมเ่ ขา้ ใจขอ้ ความทไ่ี ดก้ ลา่ วไปแลว้ เมอื่ พบคำ� เชอื่ มกลมุ่ นกี้ จ็ ะสอื่
ความหมายใหท้ ราบวา่ สง่ิ ทจ่ี ะตามมาคอื การอธบิ ายซำ้� หรอื อธบิ ายขยายความสง่ิ ทก่ี ลา่ วไปแลว้ อาจ
เปน็ การเรียบเรียงถ้อยค�ำเสยี ใหม่ ใช้ถ้อยคำ� ท่กี ระจ่างชดั เข้าใจง่ายขึ้น หรอื อาจเป็นค�ำแปล หรอื ค�ำ
จำ� กดั ความของสิ่งท่กี ลา่ วถงึ ไปแล้วกไ็ ด้
(6) For example: for instance, such as, as follows, by means of illustration
เป็นตน้
ค�ำเช่ือมกลุ่มน้ีสื่อความหมายว่า ข้อความท่ีตามมาคือการให้ตัวอย่างข้อย่อย หรือ
รายการของข้อความท่ีมาข้างหน้า หากไม่เข้าใจข้อความดังกล่าว สิ่งท่ีเป็นข้อย่อยหรือตัวอย่างจะ
ช่วยใหข้ ้อความนัน้ ๆ มีความหมายกระจ่างข้ึน
5. Repetition การใช้ reference หรือ omission เปน็ การเช่อื มโยงหรอื อ้างถงึ ส่ิงทีก่ ลา่ ว
มาแลว้ โดยหลีกเลย่ี งการใชค้ ำ� ซ้�ำ อย่างไรก็ดี ในบางกรณอี าจมกี ารใชค้ ำ� หรอื ขอ้ ความท่ีซ�้ำกนั โดย
ไมใ่ ชค้ ำ� แทน ทง้ั น้ี เพอ่ื ความกระจา่ งของขอ้ ความ เพอ่ื ยำ�้ หรอื เพมิ่ นาํ้ หนกั ของขอ้ ความนน้ั ๆ คำ� หรอื
ข้อความซ�้ำที่ปรากฏอยู่ในส่วนต่างๆ จะเป็นเครื่องเช่ือมโยงความคิดหรือ “ทิศทาง” ของข้อความ
ท้ังหมด นับเป็นกลไกชนิดหน่ึงที่ใช้มากในภาษาเขียน หรือการพูดอย่างเป็นทางการ เช่น การ
บรรยาย นับเป็นเคร่ืองมอื ทส่ี ่ือความหมายชนิดหน่ึง ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี
Lamps, too, probably developed by accident. Early man had his first conception of
a lamp while watching a twig or fiber burning in the molten fat dropped from a roasting
carcass. All he had to do was to fashion a vessel to contain fat and float a lighted reed in it.
Such lamps, which were made of hollowed stones or seashells, have persisted in identical
form up to quite recent times.
ขอ้ ความทย่ี กมาน้ี จะเหน็ วา่ หวั ใจของเรอ่ื งอยทู่ คี่ ำ� วา่ lamps และขอ้ ความทงั้ หมดกเ็ กยี่ วกบั
ท่ีมาหรอื ววิ ัฒนาการของตะเกียงนัน่ เอง หากคำ� ว่า lamps เปน็ ศพั ท์ยาก การทผ่ี เู้ ขียนใช้ค�ำซำ�้ เมื่อ
ผ้อู ่านพบค�ำนเี้ ปน็ คร้ังท่ีสองหรอื สามประกอบกบั ข้อความขา้ งเคียงกน็ า่ จะชว่ ยให้เดาความหมายได้
6. Punctuation เครอ่ื งหมายวรรคตอนในประโยคในภาษาเขยี น เปน็ เครอ่ื งมอื สอ่ื ความหมาย
ชนิดหนึ่ง นักศึกษาได้ศึกษาเรื่องหน้าท่ีของเครื่องหมายวรรคตอนมาบ้างแล้ว จึงควรน�ำความรู้น้ี
มาใช้ให้เปน็ ประโยชน์
ในภาษาเขียนผู้เขียนย่อมใช้เทคนิควิธีการในการส่ือความหลายอย่างหลายประการด้วยกัน
เพอ่ื ให้ขอ้ เขียนสละสลวย รดั กุม เพอื่ ให้เปน็ ทเ่ี ขา้ ใจได้ชัดเจน หรือเพอ่ื โนม้ น้าวจติ ใจผอู้ า่ นให้คล้อย
ตาม บ่อยคร้ังเครื่องหมายวรรคตอนจะเป็นเคร่ืองมือช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ดังกล่าว ความเข้าใจ
บทบาทหน้าที่ของเคร่ืองหมายวรรคตอนย่อมเป็นส่วนช่วยให้เข้าใจความหมายของข้อความนั้นๆ