Page 47 - สังคมมนุษย์
P. 47

ภาวะไรร้ ะเบียบในสังคมและการจดั ระเบยี บในสงั คมไทย 4-37
       จารีต ถือเป็นบรรทัดฐานทางสังคม ประเภทหนึ่งซึ่งจะแตกต่างจากวิถีประชาหรือวิถีชาวบ้าน
เนื่องจากจารีต น้นั มีเร่ืองของขนบธรรมเนียมประเพณแี ละหลกั ศีลธรรม เข้ามาเก่ียวขอ้ ง จึงเก่ยี วข้องกับ
คณุ งามความดี การท�ำดี ทำ� ชว่ั
       จารีตจึงมลี ักษณะการก�ำหนดเป็นข้อหา้ ม (taboo) ทางสังคม วัฒนธรรม ประเพณี หรือเปน็ การ
กระท�ำที่เช่ือว่า เป็นสิ่งท่ีต้องห้าม (พจนานุกรมศัพท์จิตวิทยา, 2553, น. 290) เช่น การห้ามมีการร่วม
ประเวณีระหว่างผู้ใกล้ชิดทางพันธุกรรมอย่างมาก (Incest) หรือการที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชาย
(Pederasty) รวมไปถงึ หลักค�ำสอนของศาสนาตา่ งๆ
       การฝา่ ฝนื จารตี จงึ เรม่ิ มผี ลกระทบทรี่ นุ แรงตอ่ สงั คมและตอ่ ตวั ผฝู้ า่ ฝนื เอง เพราะผทู้ ฝี่ า่ ฝนื จะไดร้ บั
การลงโทษจากสงั คมที่รนุ แรงกวา่ การฝา่ ฝืนวถิ ีประชา เชน่ การไดร้ บั การต�ำหนิ การประชาทณั ฑ์ เปน็ ตน้
       ยกตัวอย่างการไม่ประพฤติปฏิบัติตามจารีต เช่น กรณี ชาย หญิง หากบรรลุนิติภาวะแล้วและ
ต้องการใช้ชวี ิตคู่รว่ มกันฉนั สามี ภรรยา
       สังคมก�ำหนดให้ต้องมีการด�ำเนินการตามข้ันตอนของขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดี เก่ียวกับการ
พธิ สี มรส ได้แก่ การท�ำพธิ สี ู่ขอ แห่ขันหมาก และจดั งานเลย้ี ง
       หากผใู้ ดฝ่าฝืน กล่าวคอื ไปใช้ชวี ิตคู่กันฉนั สามี ภรรยา โดยไมจ่ ดั พธิ ีสมรส ไมม่ พี ิธกี รรมต่างๆ
ท่กี ล่าวขา้ งตน้ ถอื วา่ เปน็ การฝา่ ฝืนจารีตประเพณีที่ดีงาม อาจไดร้ ับการลงโทษจากสังคม อาจจะถกู ตฉิ ิน
นทิ า วา่ ร้าย ไม่ได้รบั การยอมรบั จากสงั คม เป็นต้น
       ดงั น้ัน ลักษณะทั่วไปของจารีต คือ
       ประการแรก จารตี มกั จะมกี ารยดึ ถอื ปฏบิ ตั อิ ยา่ งเครง่ ครดั มากกวา่ วถิ ปี ระชา จงึ เปลย่ี นแปลงยาก
กวา่
       ประการที่สอง ผู้ท่ีฝา่ ฝนื ไมป่ ฏิบตั ติ ามจารตี มบี ทลงโทษจากสงั คมท่รี นุ แรงกว่าวิถีประชา
       ประการที่สาม กฎหมายจำ� นวนมากกย็ ดึ จารตี เปน็ หลกั หรอื ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั จารตี เพราะจารตี
เกี่ยวขอ้ งกับศลี ธรรมจริยธรรม ความดีงาม
       ประการที่ส่ี แต่ละสังคมอาจจะมีจารีตและวิถีประชาที่แตกต่างกัน เช่น วิถีประชาในแบบ
สังคมไทยทกั ทายกันด้วยการสวสั ดี สงั คมตะวนั ตกทักทายกันดว้ ยการจบั มอื หรือสวมกอด
       1.3 	กฎหมาย (Laws) สังคมมนุษย์แม้จะมวี ถิ ปี ระชาและจารตี แลว้ กต็ าม แตก่ ย็ ังมกี ฎหมาย ซงึ่
ถือเป็นบรรทัดฐานทางสังคมอีกประเภทหนึ่งที่มีความส�ำคัญ และมีความแตกต่างจากวิถีประชาและจารีต
คอ่ นขา้ งมาก
       ซ่ึงกฎหมายนั้นมีผู้ให้ความหมายไว้มากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของ
การมีสภาพบังคับ เช่น กฎหมาย คอื กฎระเบยี บท่ีมที งั้ เปน็ ลายลักษณ์อกั ษรและไมเ่ ปน็ ลายลักษณ์อักษร
และมที ม่ี าจากขนบธรรมเนียม ซ่ึงกฎหมายจะต้องมลี กั ษณะผกู มัดหรือบังคับคนในสังคม (L.B. Curzon
and P.H. Richards, 2007, p. 339-340)
       ดงั นนั้ กฎหมาย จงึ มลี กั ษณะเปน็ คำ� สงั่ หรอื ขอ้ บงั คบั ของผมู้ อี ำ� นาจสทิ ธขิ าดสทิ ธสิ งู สดุ ในประเทศ
เอกราช ได้บญั ชาลงไว้ใหผ้ ู้ที่อยู่ใตบ้ ังคับประพฤตติ าม ถา้ ผู้ใดฝ่าฝืน ผู้น้ันจะต้องถูกบงั คบั ใหต้ อ้ งรับโทษ
(ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์), 2549, น. 6-7)
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52