Page 43 - สังคมมนุษย์
P. 43
การเปลีย่ นแปลงทางสงั คมและวัฒนธรรมกบั ปัญหาสังคม 13-33
1) สจั จะ ความจริงใจ คือ ซื่อสัตย์ตอ่ กัน ทง้ั จริงใจ จริงวาจา และจริงในการกระทำ�
2) ทมะ ฝึกตน คือ รู้จักควบคุมจิตใจ ฝึกหดั ตดั นสิ ัยแกไ้ ขขอ้ บกพร่องข้อขดั แย้ง ปรบั ตัว
ปรับใจเขา้ หากนั
3) ขนั ติ อดทน คอื มีจติ ใจเขม้ แขง็ หนักแน่น ไม่วูว่ า่ ม ทนต่อความลว่ งลำ้� กลำ้� เกินกนั และ
รว่ มกันอดทนตอ่ ความเหนื่อยยาก ล�ำบากตรากตร�ำ ฝ่าฟนั อุปสรรคไปด้วยกนั
4) จาคะ เสยี สละ คอื มีน�้ำใจ สามารถเสยี สละความสขุ ส�ำราญ ความพอใจ สว่ นตนเพื่อคู่
ครองได้ เชน่ อดหลบั อดนอนพยาบาลกนั ในยามเจบ็ ไข้ เปน็ ตน้ ตลอดจนมจี ติ ใจเออื้ เฟอ้ื เผอื่ แผต่ อ่ ญาตมิ ติ ร
สหายของคู่ครองไมใ่ นแคบ
ฝา่ ยพอ่ บา้ นหรอื สามี กจ็ ะตอ้ งเปน็ ผเู้ หน็ ใจแมบ่ า้ นหรอื ภรรยาเปน็ กรณพี เิ ศษดว้ ย ทงั้ นเี้ พราะสตรี
มคี วามทกุ ขอ์ นั เปน็ ลกั ษณะเฉพาะตวั อกี สว่ นหนงึ่ ตา่ งหากจากผชู้ าย ซง่ึ สามจี ะตอ้ งเขา้ ใจและพงึ ปฏบิ ตั ดิ ว้ ย
ความเอาใจใส่เห็นอกเห็นใจด้วย เช่น ผู้หญิงต้องจากหมู่ญาติมาอยู่กับตระกูลของสามีท้ังท่ีเป็นเด็กสาว
สามคี วรใหค้ วามอบอุ่นใจ ผหู้ ญงิ มรี ะดู ซง่ึ บางคราวกอ่ ปัญหาใหเ้ กดิ ความแปรปรวนทง้ั จติ ใจและรา่ งกาย
ฝา่ ยชายควรเขา้ ใจ ผหู้ ญงิ มคี รรภ์ ซงึ่ ยามนน้ั ตอ้ งการความเอาใจใส่ บำ� รงุ กายใจเปน็ พเิ ศษ เปน็ ตน้ สมาชกิ
ครอบครัว ไม่ใช่มีแต่สามีภรรยาเท่าน้ัน สมาชิกท่ีส�ำคัญอีกจ�ำพวกหน่ึงก็คือลูกๆ ผู้ที่เป็นพ่อบ้านแม่บ้าน
หรือเป็นพ่อแม่จะต้องรักษาหน้าที่ของตนท่ีจะต้องมีต่อลูกโดยปฏิบัติหน้าท่ีนั้นให้ดีท่ีสุด และยุติธรรมกับ
ลกู ๆ ทกุ คน หนา้ ท่ีของพ่อแมน่ ั้น พระพุทธองค์ไดต้ รัสแนะเอาไวใ้ นทฆี นิกายปาฏิกวรรค ดงั น้ี เช่น หา้ ม
ไม่ใหล้ ูกท�ำช่ัว แนะน�ำให้ลกู ต้งั อยใู่ นความดี ให้ลูกได้ศกึ ษาเล่าเรียน เป็นตน้
ปัญหาอาชญากรรมและทุรกรรมต่าง ๆ สำ� หรบั ปญั หาอาชญากรรมและทรุ กรรมตา่ งๆ ซงึ่ เกดิ ขน้ึ
เป็นประจ�ำวันในชีวิต คือความเป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นอาจจะเกิดมาจากหลายสาเหตุหลายประการ เช่น
สันดานเป็นอาชญากร ปญั หาเศรษฐกจิ สังคม ครอบครวั สิ่งแวดลอ้ ม เป็นต้น
สำ� หรบั สาเหตจุ ากปญั หาเศรษฐกจิ และครอบครวั ไดก้ ลา่ วถงึ วธิ แี กม้ าแลว้ ขา้ งตน้ ซง่ึ อาจจะนำ� มา
ใช้ในกรณีนไี้ ดเ้ ช่นเดียวกัน ส่วนท่ีเก่ยี วกบั สง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ แหล่งจำ� หน่ายยาเสพติด เปน็ ต้น ถา้ จะใหไ้ ด้
ผลดี ทางฝ่ายรัฐบาลหรือชนช้ันบริหารน่าจะได้จัดการแก้ไขให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันน้ี โดยรัฐบาลหรือ
ผู้มหี นา้ ทีร่ บั ผดิ ชอบทางฝ่ายบา้ นเมือง อาจจะแก้ดว้ ยการนำ� เอาธรรมะไปเป็นหลักในการทำ� งาน เมือ่ เหน็
ว่าส่ิงแวดล้อมใดที่ขัดกับหลักศีลธรรมและจารีตประเพณีท่ีดีงาม ก็จัดการให้เป็นไปในทางดีเสีย ก็จะเป็น
อบุ ายวธิ แี กไ้ ขทไ่ี ดผ้ ลมากทางหนึง่
ปญั หาศลี ธรรมเสอ่ื ม สาเหตแุ หง่ ศลี ธรรมเสอ่ื มนนั้ มมี ากมายอาจจะมาจากสว่ นตวั สว่ นครอบครวั
สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ฯลฯ การแก้สาเหตุจากครอบครัว ส่ิงแวดล้อม และเศรษฐกิจน้ัน ได้กล่าวไว้แล้ว
แต่ในที่นี้นับว่าส�ำคัญมากที่สุดก็คือส่วนตัวแต่ละบุคคล จะเป็นกุญแจดอกส�ำคัญท่ีจะไขไปสู่การแก้ปัญหา
ศีลธรรมเส่อื ม คือจะต้องจัดการกบั ตัวเราเองให้ไดอ้ ยา่ งน้อย 2 วิธี คือ
1) พยายามหัดหรือปลูกฝังให้เกิดความฝังใจในการรังเกียจความช่ัวช้าต่างๆ และประทับ
ใจในความนิยมชมชอบในคุณงามความดีท้ังในที่ลับและที่แจ้ง อาจจะโดยวิธีพิจารณาให้เห็นว่า ความชั่ว
เปน็ ตัวสกปรกเป็นของเสียของเหม็นสาบ ไมม่ ใี ครชอบ