Page 30 - การวางแผน การออกแบบ และการผลิตสื่อชุมชน
P. 30
15-20 การวางแผน การออกแบบและการผลติ ส่อื ชมุ ชน
เรื่องท่ี 15.2.1
นิยามและความส�ำคัญของอัตลักษณ์และการสร้างอัตลักษณ์ของชุมชน
แนวคิดเรื่อง “อัตลักษณ์” (identity) เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่ถูกพัฒนาข้ึนมาอย่างจริงจังโดย
นักทฤษฎวี ฒั นธรรมศกึ ษาเชงิ วพิ ากษ์ (critical cultural studies) เพ่อื ตอบคำ� ถามว่า เรากลายมาเปน็
ตวั เราทกุ วันนไ้ี ดอ้ ย่างไร ตัวตนของเราถูกผลิตขนึ้ มาไดอ้ ยา่ งไร และเราสามารถระบุช้ี (identify) ความ
เป็นเราท่ีเหมือนหรือต่างจากคนอ่ืนได้อย่างไร เช่น การระบุช้ีอัตลักษณ์ว่าเราเป็นใคร เป็นผู้หญิง/ผู้ชาย
คนขาว/คนด�ำ คนจน/คนรวย คนหนุ่ม/คนแก่ คนชนบท/คนเมือง เป็นหมอ ชาวนา นักวิชาการ
แฟนคลับ และสมาชกิ ในสังกดั ของชุมชนต่างๆ อย่างไร
ทิศทางของการศึกษาอัตลักษณ์ก่อนหน้าส�ำนักวัฒนธรรมศึกษาเชิงวิพากษ์น้ัน มักเป็นการ
วิเคราะห์ “อัตลักษณ์ในฐานะผลผลิต” (identity as a product) อนั มที ีม่ าจากคำ� นิยามท่วี ่า อตั ลกั ษณ์
คือคุณสมบตั ิ/คณุ ลักษณะทบี่ อกว่าเราเป็นใคร หรือคนอื่นบอกวา่ เราเป็นใคร (กาญจนา แกว้ เทพ, 2555:
44) เชน่ ถา้ จะถามวา่ “คณุ ลกั ษณะของคนไทยคอื อะไร” เรากอ็ าจจะใชจ้ ดุ ยนื แบบนมี้ าตอบไดว้ า่ คนไทย
แตกต่างจากคนชาติอ่ืน เพราะคนไทยเป็นคนที่ยิ้มง่าย เป็นคนใจบุญ เป็นคนใจดี คอยช่วยเหลือเกื้อกูล
คนอน่ื เป็นคนท่ีเคร่งครัดในพระศาสนา ฯลฯ ดงั นัน้ การตัง้ โจทยด์ ้วยจดุ ยนื “อตั ลักษณใ์ นฐานะผลผลติ ”
จึงมุ่งเน้นหาแก่นหรือตัวตนที่แท้จริงซึ่งสืบทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และไม่ค่อยแปรเปลี่ยนไปจากเดิม
(ทัง้ ๆ ท่คี วามเปน็ จริงแล้ว คนไทยบางคนก็อาจไมเ่ ปน็ เชน่ การรับรตู้ ามแกน่ ท่ยี ดึ ถือกันมาได้เช่นกนั )
อยา่ งไรกด็ ี ทิศทางการศกึ ษาแบบที่สองกลับเหน็ ต่างออกไป และพิเคราะห์ “อัตลักษณ์ในฐานะ
กระบวนการ/กระบวนการผลิต” (identity as a process/production) จดุ ยืนเชน่ นยี้ า้ ยความสนใจมา
ทีก่ ระบวนการสรา้ ง ธำ� รงรกั ษา และเปล่ียนแปลงซงึ่ ตวั ตนหรืออตั ลกั ษณข์ องปัจเจกบคุ คลหรอื กลมุ่ สังคม
ทั้งนี้ หากอธิบายด้วยทัศนะแบบนักวัฒนธรรมศึกษาเชิงวิพากษ์แล้ว ก็จะเชื่อว่า อัตลักษณ์ของคนเรา
ไมไ่ ดเ้ ปน็ สง่ิ ทต่ี ดิ ตวั เรามาแตก่ ำ� เนดิ หากแตเ่ ปน็ สง่ิ ทถี่ กู ประกอบสรา้ งขน้ึ มาโดยสงั คมในภายหลงั และการ
จะนิยามตัวตนว่าเราเป็นใครได้น้ัน จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์หรือสื่อสารกับบุคคลอ่ืนๆ
ด้วยเหตุน้ี ด้านหน่ึงอัตลักษณ์จึงเป็นปฏิสัมพันธ์ท่ีเรารู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกับคนอื่น (self-ascription)
กบั อีกด้านหนงึ่ คนอน่ื กต็ อ้ งรสู้ กึ เชน่ เดยี วกบั เราดว้ ย (ascription by others) ดงั นนั้ อตั ลักษณจ์ งึ เป็น
ตวั กำ� หนดขอบเขตวา่ เราเปน็ ใคร เราเหมอื นหรอื ตา่ งจากคนอน่ื อยา่ งไร มใี ครเปน็ สมาชกิ กลมุ่ เดยี วกนั กบั
เราบ้าง เราควรมปี ฏสิ มั พนั ธก์ ับคนอน่ื ๆ อยา่ งไร และคนอ่นื ๆ ควรจะสานสายสัมพันธ์กับเราอย่างไร
ในบทความเร่ือง “บางคร้ังเป็นคนไทย บางคร้ังก็ไม่ใช่ อัตลักษณ์แห่งตัวตนท่ีผันแปรได้” ของ
นติ ิ ภวคั รพันธ์ุ (2541) ได้ขยายความด้วยวา่ อตั ลักษณ์มีคณุ ลักษณะส�ำคญั สองประการคอื อัตลกั ษณ์มี
หลากหลายมิติ และมีพลวัตรหรือความล่ืนไหลเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ท้ังนี้ นิติได้เลือกศึกษา
กรณีของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนในแถบยานนาวา ที่เรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนคริสต์
และแต่งงานอยู่กินกับผู้หญิงมุสลิมในภายหลัง โดยตั้งปัญหาว่า คนกลุ่มนี้จะประกอบสร้างและระบุชี้