Page 56 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 56
12-46 ภาษาถน่ิ และวรรณกรรมท้องถ่ินไทย
เมาเหลา้ กเ็ ชอื่ ยายกบั หลานนะซิ รอ้ งกลอ่ มจนเกอื บครง่ึ คนื ดกึ ดกึ ฉนั อยากกนิ ยาย ดกึ ดกึ ฉนั อยากกนิ ยาย
เสือร้องแบบนจ้ี นเสือหลบั ไปแล้ว เมอ่ื เชา้ แลว้ ยายกบั หลานกเ็ ลยหนไี ด้ (กิง่ กาญจน์ กสุ สลานภุ าพ, 2542,
น. 179)
นิทานเรื่องผีโป่ง ของชาวชอง อธบิ ายเรอื่ งอำ� นาจเหนอื ธรรมชาตแิ ละความเชอ่ื ในทอ้ งถนิ่ เรอื่ งผี
โปง่ มีเน้อื ความวา่ ในสมัยก่อนจะมีผีโป่งชอบมาหลอกให้คนเกิดความหวาดกลัว จนชาวบ้านกลวั ขนหวั
ลกุ ผโี ปง่ ตวั นีจ้ ะแปลงตัวมาหลอกคนทที่ �ำนาข้าว ไถนา คราดดนิ เตรยี มดนิ ในการที่จะปลูกขา้ ว ก็ในคนื
หนึ่งผีโป่งก็ได้ไปเข้าฝันชาวบ้านแล้วก็บอกว่า กูอยู่ไม่ได้แล้ว มึงเอาหวีมาหวีกลางหัวกู กูเจ็บเหลือเกิน
ตง้ั แต่นั้นมาก็ไม่มผี ีโป่งออกมาหลอกชาวบา้ นอกี เลย (ก่งิ กาญจน์ กสุ สลานุภาพ, 2542, น. 181)
ตวั อยา่ งเพลงพ้ืนบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ชอง เพลงพน้ื บา้ นของชาวชองนเี้ ปน็ เพลงรอ้ งรำ� พนั ของ
ชาวชองในจงั หวดั จนั ทบุรี มเี นอื้ หาเกยี่ วกบั วิถีชีวติ ของกลุ่มชาติพันธ์ชุ อง ดงั ตวั อยา่ ง
เพลงเดินเท่ียวตอนเช้า
เจวเที่ยวปาง ๆ เจอะกระยางย่างกรึ๊บ
เจวกลับเอนตอง ฮ็อบปลองม่งกรึบ
เจวต๊ิดตะราง ฮอบปลองม่งผักบุ้ง
ฮอบมัดพ่ายจานจ่ืมบานจื่มปุง
แปลเป็นไทย
ไปเท่ียวตอนเช้าๆ เจอเต่าเดินมา กลับบ้านกินข้าวกับมะเขือเปราะ ไปติดตะรางต้องกินข้าวกับ
ผกั บุ้ง กนิ ข้าวไปสองจานทอ้ งโตเหมือนคนทอ้ ง (กรรณกิ าร์ เกนกิ านนท์ และคณะ, 2522, น. 66)
เพลงเท่ียวลอยกระทง
เจวเที่ยวลอยกระท่งม่งดั๊ก ก็ล�ำบากเหลือเกิน กลับโม่นกลับง่ายเค่ยจะสบายอ๊ิเลย พุ่ดโธ่
พุ่ดถัง กาละมัง ครอบโต๊ด เจวเที่ยวม่องโบ้ด สนุกอ๊ิเลย เจวติดช่องเล่งอีนตา เกรงโบดลึกด๊ัก จะ
โอดท่อค่ืนปรักก็มัดเฮย เม่อูนก็โฮดมัดจะท่อยังอิ๊ ดักจะครอกตามหน่ะ อุตส่าห์พยายามท่ากเมิดก็
หลัก อินอิมี้ช่วยอ๊ีเลย ก�ำอิงนู่ ล�ำบากเลวๆ เกิดเป็นเจิ้มล�ำบากเหลือเกิน ตัวก็เมาะม่องดั๊กอิ๊ท่อท่อ
มอ๊ิอิงเอย
แปลเป็นไทย
ไปเท่ียวลอยกระทง ล�ำบากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเดินก่อนเดินหลังไม่เคยสบายเลย อุตส่าห์เอา
กาละมังครอบหัวก็ยงั ไมส่ บาย ไปเท่ียวตามนอ้ งก็ไมส่ นุกเลย เดนิ ตามสาวๆ กเ็ กรงใจ พนี่ ้องเขาจะขอไป
เปน็ คู่ เงนิ ก็หมดแลว้ พ่อ แม่ กต็ ายหมดไมร่ ้จู ะทำ� อยา่ งไรดี จะพาเขาหนตี าม อุตสา่ หพ์ ยายามแล้วกไ็ ม่มี
ใครช่วยเลย กรรมของเราจริงๆ เกดิ เปน็ คนลำ� บากเหลือเกนิ ตัวก็ไมส่ วย ไมร่ ้จู ะทำ� อยา่ งไรดี (กรรณิการ์
เกนิกานนท์ และคณะ, 2522, น. 68)