Page 59 - จุลยุทธการวงศ์
P. 59
จุลยุทธการวงศ์ 4455 เรื่องพระร่วงสุโขทัย
สุริยราชาเมื่อแรกได้ราชสมบัติ พระชนม์ได้ ๒๐ พรรษาอยู่ในราชสมบัติ
๒๗ พรรษา เสด็จสวรรคต พระชนม์ได้ ๔๗ พรรษา พระองค์ประสูต
ิ
วันจันทร์
ลุจุลศักราช ๕๗๐ พระจันทกุมารราชโอรสได้ขึ้นครองราชสมบัติ
ทรงพระนามว่า พระเจ้าจันทราชา พระองค์ทรงสร้างเมืองศุโขไทย๑ ขึ้น
ครองราชสมบัติต่อไป มีพระอัครมเหสีทรงพระนามว่าสุริยาเทวี พระองค์
เสวยน้ำสระเมืองลพบุรี พลเมืองชาวลพบุรีเป็นส่วยน้ำเสวย อยู่มาวันหน่ึง
พระองค์เสด็จไปประพาสป่า พร้อมด้วยพลโยธาทวยหาญเป็นอันมาก ได้
ทอดพระเนตรเห็นนางกุมารีคนหน่ึง มีรูปโฉมลักษณะงดงามยิ่งกว่านาง
มนุษย์ทั้งหลาย พระองค์มีความเสน่หา๒ รักใคร่ได้ตรัสประโลมปราศรัยแล
ได้ร่วมอภิรมย์ด้วยนางนั้นครั้นแล้วพระองค์ก็มีพระทัยปฏิพัทธ์ผูกพันตรัส๓
ประเล้าประโลมจะพานางไปสู่ราชวัง จะตั้งไว้เป็นเอกอัครนารี นางจึงทูลว่า
ข้าพระองค์มิใช่เป็นหญิงมนุษย์ เป็นเชื้อชาตินางนาคกุมารีแปลงกายข้ึนมา
เท่ียวในเมืองมนุษย์ จะตามเสด็จพระองค์ไปมิได้ ถ้าข้าพระองค์ได้ร่วมหมู่
นางสนมนาฏ ราชบริจาริกาของพระองค์ในพระราชวัง ข้าพระองค์โกรธ
เคืองผู้ใดข้ึนมาแล้ว๔ มนุษย์เหล่าน้ันจะทนพิษอันเป็นของข้าพระบาทมิได้
จะพากันตายเสียสิ้น เพราะฉะน้ันข้าพระบาทจะขอบังคมลาพระองค์กลับ
ไปยังเมืองนาค ทูลดังนั้นแล้วนางนาคกุมารีนั้นก็หายไปจากสถานที่นั้น
๑ปัจจุบันเขียนว่า “เมืองสุโขทัย”
๒เนื้อความช่วงน้ี ในเร่ืองพระร่วงสุโขทัยที่พิมพ์ในคำให้การชาวกรุงเก่า ฉบับ พ.ศ.
๒๔๕๗ และในประชุมพงศาวดารภาคท่ี ๖๖ ฉบับ พ.ศ. ๒๔๘๐ รวมท้ังในประชุมพงศาวดาร
เล่ม ๔๑ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๒ ใช้ว่า “....มีความเสน่หา เล้าโลม และได้ร่วมอภิรมย์ด้วย....”
๓เน้ือความตอนน้ี ในฉบับอ่ืนๆ ที่ได้ระบุชื่อมาในข้างต้นใช้ว่า “....ตรัสชวนจะพานางไป
สู่ราชวัง...”
๔เนื้อความต่อจากนี้ ในฉบับอื่นๆ ท่ีได้ระบุช่ือมาในข้างต้น ใช้ว่า “โกรธเคืองผู้ใดข้ึนมา
แล้ว ก็จะพ่นพิษตามวิสัยนาค มนุษย์เหล่านั้นจะทนพิษอันเป็นของข้าพระบาทมิได้...”