Page 126 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 126

5-14 ก​ ารส​ ่งเ​สริมสุขภ​ าพ​และ​การป้องกันโ​รค

       2.1	 การใ​หบ้​ ุคคลไ​ ดป้​ ฏิบัต​ิและ​ประสบ​ความส​ ำเร็จด​ ้วย​ตนเอง (Performance Accomplishment) หมายถ​ ึง​
การ​ให้​บุคคล​มี​ประสบการณ์​ตรง​จาก​การ​ทำ​พฤติกรรม​ดัง​กล่าว​ได้​สำเร็จ ซึ่ง​จะ​ทำให้​มี​ความ​เชื่อ​ความ​สามารถ​ว่า​ จะ​
เปลี่ยนแปลง​พฤติกรรมต​ าม​เป้า​หมาย​ได้​สำเร็จ

       2.2	 การ​ใหบ​้ คุ คล​เหน็ ​ตวั อย่าง​การ​ปฏิบตั ิข​ องผ​ อ้​ู ่ืน (Vicarious Experience) หมายถ​ ึง การใ​ห้​บุคคลเ​ห็น​หรือ​
สงั เกตก​ ารกร​ ะท​ ำข​ องบ​ คุ คลท​ เี​่ ปน็ ต​ วั อยา่ ง/ตวั แ​ บบ (Model) โดยค​ วรใ​ชต​้ วั แ​ บบใ​นด​ า้ นด​ ท​ี จี​่ ะท​ ำใหเ​้ กดิ ก​ ารท​ ำพ​ ฤตกิ รรม​
สุขภาพท​ ี่​ดี​ตามต​ ัว​แบบ

       2.3 	การพ​ ดู ช​ กั จงู (Verbal Persuasion) หมายถ​ งึ การใ​ชค้​ ำพ​ ูดช​ ักจูงใ​หเ้​กิดก​ ำลงั ใ​จ ชกั จูงใ​หเ​้ หน็ ค​ วามส​ ามารถ​
ของ​ตน กระตุ้น​ให้​ใช้ค​ วามพ​ ยายาม​ในก​ าร​เปลี่ยนแปลง​พฤติกรรม

       2.4 	การก​ระ​ตุ้​นทา​งอา​รมณ์ (Emotional Arousal) หมาย​ถึง การ​ที่​บุคคล​ถูก​กระตุ้น​ความ​รู้สึก จะ​นำ​ไป​สู่​
การร​ บั ร​ ถู​้ งึ ค​ วามส​ ามารถข​ องต​ นท​ มี​่ ากข​ ึน้ ห​ รอื น​ อ้ ยล​ ง เชน่ การกร​ ะต​ ุน้ ใ​หก​้ ลวั อ​ นั ตรายข​ องโ​รค ถา้ อ​ ยใู​่ นร​ ะดบั ท​ เี​่ หมาะส​ ม​
จ​ ะเ​พิ่มค​ วาม​พยายามท​ ี่​จะเ​ปลี่ยนแปลง แต่ถ​ ้าก​ ระตุ้นใ​ห้ก​ ลัว​หรือ​กดดันม​ ากเ​กินไ​ป​อาจท​ ำให้​รู้สึกล​ ้ม​เหลว ความร​ ู้สึก​
บาง​อย่าง​อาจ​เกิด​จาก​การ​แสดง​พฤติกรรม​สุขภาพ​ดัง​กล่าว เช่น ออก​กำลัง​กาย​แล้ว​รู้สึก​สดชื่น จะ​ช่วย​เพิ่ม​ความ​เชื่อ​
ใน​ความ​สามารถ​แห่งต​ นท​ ี่​จะ​ออกก​ ำลังก​ ายอ​ ย่างส​ ม่ำเสมอ ในท​ าง​ตรง​กัน​ข้าม ถ้าอ​ อกก​ ำลังก​ าย​แล้ว​รู้สึก​ปวดเ​มื่อยต​ ัว
ทุกข์ท​ รมาน จะ​ทำให้​ลดค​ วามเ​ชื่อ​ใน​ความ​สามารถท​ ี่จ​ ะอ​ อกก​ ำลังก​ ายอ​ ย่าง​สม่ำเสมอ​ได้ เป็นต้น

3. 	แบบ​จำลอง​การเ​สรมิ พ​ ลัง​ใน​การด​ ำเนินง​ าน​สขุ ศึกษา  (Empowerment Model of Health Education)

       ตาม​ที่​ได้​กล่าว​แล้ว​ว่า มี​ผู้​วิจารณ์​ว่า แนวคิด​ของ​การ​เสริม​พลัง​มี​ลักษณะ​ซับ​ซ้อน​และ​ปรับ​เปลี่ยน​ไป​ตาม​
บริบทต​ ่างๆ ที่​มีก​ ารนำ​ไปใ​ช้ (Tones, 1998: 71) ซึ่งม​ อง​การเ​สริมพ​ ลัง​เป็นค​ วามส​ ัมพันธ์​ระหว่างบ​ ุคคลก​ ับส​ ิ่งแวดล้อม
สอดคล้องก​ ับท​ ฤษฎก​ี ารเ​รยี นร​ ทู้​ างส​ ังคม หรือค​ วามเ​ชื่อใ​นค​ วามส​ ามารถข​ องแ​ บนด​ ูรา โดยม​ องว​ ่า บคุ คลอ​ าจถ​ กู ค​ วบคมุ ​
โดยส​ ิ่งแ​ วดล้อม เช่น นโยบายข​ องร​ ัฐท​ ำให้ป​ ระชาชนต​ ้องย​ อมท​ ำต​ ามก​ ฎร​ ะเบียบท​ ี่ว​ างไ​ว้ ในข​ ณะเ​ดียวกันเ​มื่อป​ ระชาชน​
เกดิ จ​ ติ สำนกึ ใ​นเ​รือ่ งข​ องค​ วามถ​ กู ต​ อ้ ง และเ​หน็ ค​ วามจ​ ำเปน็ ท​ ตี​่ อ้ งเ​ปลีย่ นแปลง มาร​ วมต​ วั ก​ นั ข​ บั เ​คลือ่ นก​ ารเ​ปลีย่ นแปลง​
ดังก​ ล่าว จะ​สามารถ​กดดันผ​ ู้ม​ ีอ​ ำนาจ​ในก​ ารก​ ำหนดน​ โยบายใ​ห้ม​ ี​ทบทวน​แก้ไขน​ โยบาย​ที่​ไม่​ถูกต​ ้องเ​หมาะ​สม​นั้น​ได้ ซึ่ง​
รูปแ​ บบก​ ารเ​สริมพ​ ลังใ​นอ​ ดีตจ​ ะม​ องท​ ีก่​ ารร​ วมต​ ัวก​ ันข​ องป​ ระชาชนเ​พื่อก​ ารเ​ปลี่ยนแปลงใ​นร​ ะดับบ​ ุคคล กลุ่มแ​ ละส​ ังคม
มากกว่าก​ ารเ​ปลี่ยนแปลงเ​ฉพาะร​ ะดับ​บุคคล

       อย่างไรก​ ็ตาม โทนส​ ์ (Tones) ซึ่ง​เป็นผ​ ู้เ​ชี่ยวชาญด​ ้าน​สุขศึกษา​ได้​พัฒนาร​ ูป​แบบก​ าร​เสริมพ​ ลัง​ใน​การด​ ำเนิน​
งาน​สุขศึกษา โดยม​ อง​การเ​สริมพ​ ลังใ​นร​ ะดับบ​ ุคคลท​ ี่​เกี่ยวข้องก​ ับ​การส​ ่งเ​สริมสุขภ​ าพ จะ​พบว​ ่า พฤติกรรมข​ องบ​ ุคคล​
มัก​ถูก​กำหนด​หรือ​กระตุ้นโ​ดยส​ ิ่ง​แวดล้อม เช่น พฤติกรรม​การ​สูบบ​ ุหรี่ การ​บริโภคอ​ าหาร เป็นต้น ดังน​ ั้นก​ าร​ที่​บุคคล​
เรียน​รู้​วิธี​การ​ควบคุม​ตนเอง มี​ทักษะ​ต้านทาน​สิ่ง​กระตุ้น​ทาง​สังคม รวม​ทั้ง​การ​ให้​รางวัล​กับ​ตนเอง​เมื่อ​เปลี่ยนแปลง​
พฤติกรรมส​ ุขภาพไ​ด้ส​ ำเร็จ จะช​ ่วยใ​ห้บ​ ุคคลส​ ามารถแ​ สดงพ​ ฤติกรรมส​ ่งเ​สริมสุขภ​ าพแ​ ละป​ ้องกันโ​รคไ​ด้อ​ ย่างต​ ่อเ​นื่อง
สิ่งเ​หล่า​นี้​เป็น​ลักษณะข​ อง​บุคคล​ที่ม​ ีก​ ารเ​สริมพ​ ลัง

       โทน​ส์​ได้​พัฒนา​แบบ​จำลอง​ของ​การ​เสริม​พลัง​ใน​การ​ดำเนิน​งาน​สุขศึกษา โดย​ได้​อธิบาย​ตัวแปร​ที่​เกี่ยวข้อง
และ​เสนอ​แนะ​กลวิธี​สุขศึกษา​ที่​จะ​ใช้​ใน​แต่ละ​ระยะ ดัง​ภาพ​ที่ 5.2 (Tones, 1998: 72) โดย​ใน​ระยะ​เริ่ม​ต้น​ของ​
การ​เสริม​พลัง​ควร​ทำให้​บุคคล​มอง​เห็น​ความ​สำคัญ​ของ​สุขภาพ มี​ความ​รู้​ที่​จำเป็น และ​ตระหนัก​ใน​ความ​สำคัญ​ที่​จะ​
ต้อง​มี​การ​เปลี่ยนแปลง ซึ่ง​ใน​ระยะ​นี้​สามารถ​ใช้​วิธี​การ​อภิปราย​กลุ่ม หรือ​การ​ให้​คำ​ปรึกษา ระยะ​ที่​สอง​เป็นการ​สร้าง​
ให้​เกิด​ทัศนคติ​หรือ​ความ​ตั้งใจ​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​พฤติกรรม ซึ่ง​สามารถ​ใช้​การ​เรียน​รู้​จาก​ตัว​แบบ​ที่​ประสบ​ความ​สำเร็จ​
มาแ​ ล้วเ​พื่อใ​หม​้ ค​ี วามเ​ชื่อว​ า่ ตนเองจ​ ะส​ ามารถป​ ระสบค​ วามส​ ำเร็จไ​ดเ้​ชน่ ก​ ัน รวมท​ ั้งท​ ำใหเ​้ กดิ ค​ ่าน​ ยิ​ มด​ ้านส​ ุขภาพว​ า่ เป็น​
สิ่งท​ ี่ด​ ีท​ ี่​ควร​ทำ ระยะ​ที่​สาม จะ​ส่งเ​สริม​ให้​บุคคล​ตัดสินใ​จ​ที่จ​ ะ​เปลี่ยนแปลงพ​ ฤติกรรม โดยก​ ารส​ อน​ทักษะท​ ี่​จำเป็นใ​น​
การแ​ สดงพ​ ฤติกรรมด​ ังก​ ล่าวห​ รือใ​ช้ส​ ถานการณ์จ​ ำลอง ระยะส​ ุดท้ายเ​ป็นการท​ ี่บ​ ุคคลเ​ลือกโ​ดยม​ ีพ​ ลังอ​ ำนาจ ที่ส​ ามารถ​

                             ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131