Page 256 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 256
9-10 การส ่งเสริมสุขภ าพและการป้องกันโรค
2. แบบจำลองกระบวนการสือ่ สารของล าสเวลล์
ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell, 1948) เป็นนักรัฐศาสตร์ท ี่สนใจศึกษาการส ื่อสารจากก ารโฆษณาชวนเชื่อ
(Propaganda) สนใจวิธีการสื่อสารของมนุษย์ ได้เขียนรูปแบบจำลองการสื่อสารโดยการเชื่อมโยงเอาองค์ประกอบ
และจ ุดเด่นต ่างๆ ในก ารส ื่อสารอ อกม าเสนอในร ูปก ระบวนการส ื่อสาร แต่เนื่องจ าก ลาสเวลล์เป็นน ักร ัฐศาสตร์จ ึงเขียน
รูปแบบก ระบวนการส ื่อสารอ อกม าเป็นการส ื่อสารในลักษณะท ี่นักรัฐศาสตร์น ิยมใช้ ตัวอย่างเช่น การส ื่อสารในการห า
เสียงเลือกต ั้ง การสื่อความหมายในก ารพ ูดส ั่งค วาม เป็นต้น (วาสนา จันทร์สว่าง 2550) ซึ่งอ ธิบายก ระบวนการส ื่อสาร
ด้วย วิธีที่ง่ายที่สุด คือก ารตอบคำถามต่อไปน ี้ โดย
ใคร (Who) คือ ผู้ก ำหนดและค วบคุมเนื้อหาข ่าวสาร
พูดอะไร (Says what) คือ เรื่องห รือเนื้อหาสาระท ี่ส ่งออกไป
ผ่านสื่อใด (In which Channel) คือ ตัวกลางห รือสื่อที่ส่งข่าวสารถ ูกส่งผ่านไปย ังผู้รับ
กับใคร (To whom) คือ ผู้รับส าร
เกิดผลอย่างไร (With What Effect) หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการสื่อสารเป็นอิทธิพลของ
สื่อสาร
ใคร พูดอ ะไร ด้วยส ื่อชนิดใด กับใ คร ได้ผ ลอย่างไร
Who Says what Which channel To whom With what effect
ภาพท ่ี 9.1 รูปแบบจำลองกระบวนการส ่ือสารข องลาสเวล์
3. แบบจำลองกระบวนการสอื่ สารข องช แ รมม ์
ชแรมม์ (Wibur Schramm, 1960) เป็นนักวิชาการน ิเทศศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ได้พัฒนารูปแ บบก ระบวนการ
สื่อสารขึ้นค รั้งแรกใน ค.ศ. 1984 แบบจำลองในก ารสื่อสารของชแ รมม์ย ังคงคล้ายกับกระบวนการส ื่อสารอ ื่น ชแ รมม ์
มีมุมมองกระบวนการสื่อสารเช่นเดียวกับการทำงานของเครื่องจักร ซึ่งคิดว่า สัญญาณ (Signal) ที่ส่งออกมานั้น
คือ สาร (Message) ต่อม าใน ค.ศ. 1960 ชแ รมม์ได้พัฒนาร ูปแบบก ระบวนการส ื่อสารจ ากค วามค ิดที่ว่า การส ื่อสาร
ควรเป็นแบบสองทิศทาง (Two-Way Communication) มีการโต้ตอบกัน และในที่สุดความคิดที่มีต่อแบบจำลอง
การสื่อสารกลายเป็นไปในลักษณะวงกลมที่แสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของข่าวสารแบบต่อเนื่อง เช่น วงกลมซ้อนกัน
หรือเชื่อมโยงต่อกัน เป็นต้น
ชแ รมม ์ แสดงถึงการส ื่อสารข องในลักษณะท ี่ม ีก ารโต้ตอบกัน เมื่อมีการส ่งข้อมูลออกไป ในขณะเดียวกันจะ
ได้ข ้อมูลย ้อนก ลับม าเสมอๆ ชแรมม ์อธิบายก ระบวนการส ื่อสารในล ักษณะข องก ารส ื่อแบบเข้ารหัส (Encoder) และ
ถอดรหัส (Decoder) กระบวนการของชแรมม์ ไม่มีผู้ส่งหรือผู้รับตายตัว ชแรมม์ใช้คำว่า ผู้แปลสาร (Interpreter)
แทนผู้รับหรือผู้ส ่งส าร รูปแ บบการสื่อสารมีลักษณะต ่อเนื่อง มีการส ่งสารต อบก ลับไป–มา การท ี่ผ ู้รับส่ง ตอบก ลับไป
เองน ี้เรียกว่า เป็นการสะท้อนก ลับของส าร (Feedback) กระบวนการส ื่อสารมีรูปแ บบด ังนี้
ลขิ สิทธ์ิของมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช