Page 73 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 73
ปัจจัยที่ม ีอิทธิพลต ่อภาวะสุขภาพข องประชากร 3-19
ความเจ็บป่วยในวัยก่อนเรียน เนื่องจากเด็กจะมีภูมิต้านทานยังไม่มากนักประกอบกับเด็กเริ่มมีสังคม เริ่ม
วิ่งเล่นในส นามเด็กเล่น หรือเริ่มเข้าสถานรับเลี้ยงเด็ก และเข้าเรียน ทำให้ม ีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย ปัญหาส ุขภาพ
เด็กก ่อนว ัยเรียนท ี่สำคัญค ือ การต ิดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อีสุกอีใส ตาแดง มือเท้าปาก โรคอุจจาระร ่วง ในวัย
นี้เด็กอาจมีโรคอื่นที่ปรากฏ เช่น โรคที่เกี่ยวกับทางพันธุกรรมบางชนิด อาจเป็นธาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือด
แดงแตกเนื่องจากภาวะพร่องของเอนไซม์จี-6-พีดี (G-6-PD) นอกจากนี้ในรายที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่
ครบอ าจเจ็บป ่วยด ้วยโรคท ี่ส ามารถป ้องกันได้โดยการฉ ีดวัคซีน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นต้น และเนื่องจาก
พฒั นาการข องก ล้ามเนือ้ ย งั ไมเ่จรญิ เตม็ ท ปี่ ระกอบก บั ค วามต ้องการเรยี นร ูส้ ิง่ แ วดล้อมแ ละส งั คมร อบต ัว ทำใหม้ โี อกาส
เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพลัดต กหกล้ม สำหรับปัญหาสุขภาพและค วามเจ็บป่วยในเด็กวัยเรียนที่
ยังพ บว่า เป็นปัญหาค ่อนข้างสูง ได้แก่ โรคติดเชื้อเฉียบพลันในร ะบบท างเดินหายใจ รองลงม าคือ โรคระบบท างเดิน
อาหารได้แก่ อุจจาระร่วง นอกจากน ี้ป ัญหาส าธารณสุขท ี่พบมากแ ต่ไม่จ ัดเป็นค วามเจ็บป ่วย คือปัญหาฟันผุ การขาด
สารอ าหารเรื้อรัง ภาวะโภชนาการเกิน
ภาวะการเจ็บป่วยของวัยรุ่นส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงและสาเหตุที่เป็นผลมาจากการปรับตัวเข้า
สู่การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนใหญ่ ดังจะเห็นได้จากปัญหาคุกคามต่อสุขภาพในกลุ่มอายุ 15-29 ปี ที่สำคัญคือ
โรคเอดส์ อุบัติเหตุการจราจร ยาเสพติด โรคจิตเภท และพิษสุราเรื้อรัง (คณะทำงานจัดทำภาระโรคและปัจจัยเสี่ยง
ของประเทศไทย 2549)
ความเจ็บป ่วยในว ัยผ ู้ใหญ่ท ี่ส ำคัญค ือ โรคท ี่เกิดจ ากพ ฤติกรรมส ุขภาพ เช่น โรคถ ุงล มโป่งพ อง โรคก ล้ามเนื้อ
หัวใจข าดเลือด โรคมะเร็ง เป็นต้น รวมทั้งก ารเสียชีวิตจ ากอ ุบัติเหตุ การใช้อาวุธป ืน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะ
เครียด ตลอดจ นโรคจ ากการประกอบอาชีพ
ส่วนในผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากความเสื่อมถอยของร่างกาย โรคและปัญหาทางสุขภาพที่
สำคัญในประชากรส ูงอายุข องไทยคือ โรคเรื้อรังหรือโรคป ระจำต ัว ซึ่งเป็นโรคไม่ติดต่อท ี่เกิดจ ากพฤติกรรมแ ละการ
บริโภคอาหารและวิถีการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสมประกอบกับภาวะเครียด สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะ
โรคท ี่มีผ ลต่อการเคลื่อนที่ เช่น โรคห ลอดเลือดสมอง โรคข ้อ อุบัติเหตุ เป็นต้น โรคท ี่มีผลต่อประสาทส ัมผัส เช่น การ
มองเห็น การได้ยิน เป็นต้น นอกจากน ี้โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคกระดูกพรุน โรคค วามดันโลหิตส ูง โรคข ้อและกระดูก
โรคเบาห วาน กลุ่มอาการโรคสมองเสื่อม เป็นต้น
2. แนวโน้มการเจบ็ ป ว่ ยของป ระชากร
สำหรับแนวโน้มอัตราป่วยของผู้ป่วยนอก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 – 2552 จะเห็นว่า โรคระบบหายใจเป็นโรค
ที่ครองอันดับหนึ่งมาตลอด เช่นเดียวกับโรคระบบไหลเวียนเลือดอันดับ 2 ส่วนอันดับที่ 3 จะสลับกันระหว่างโรค
ระบบกล้ามเนื้อร วมโครงร่างและเนื้อยึดเสริม กับกลุ่มโรคร ะบบไหลเวียนเลือด เมื่อพ ิจารณา 10 อันดับโรค จะเห็น
ว่า อันดับข องโรคไม่มีความแตกต่างก ันมากน ัก แต่เป็นท ี่น่าสังเกตว่า กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องก ับพ ฤติกรรมมีแ นวโน้มสูง
ขึ้นค ือ โรคเกี่ยวกับต ่อมไร้ท ่อ โภชนาการและเมแ ทบอ ลิซึมซ ึ่งเป็นล ำดับที่ 7 ของประเทศใน พ.ศ. 2549 – 2552 เลื่อน
ขึ้นม าเป็นอ ันดับ 5 ตั้งแ ต่ พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา เช่นเดียวก ับโรคที่เกี่ยวกับภ าวะแ ปรปรวนท างจ ิตและพฤติกรรมจะ
เริ่มต ิดอ ันดับท ี่ 10 แทนโรคระบบประสาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 สถานการณ์ของโรคในผู้ป่วยในม ีความคล้ายคลึงก ับ
ผ ู้ป่วยนอก กล่าวคือ โรคที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเพิ่มมากขึ้นทุกปี ได้แก่ กลุ่มโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นอันดับ
6 ใน พ.ศ. 2544 และ 2545 เลื่อนขึ้นเป็นอันดับท ี่ 4 ตั้งแต่ พ.ศ.2546 เป็นต้นมา และเป็นอ ันดับ 2 และโรคเบาหวาน
ที่เป็นอ ันดับท ี่ 7 ใน พ.ศ. 2544 และ 2545 เลื่อนขึ้นมาเป็นอ ันดับ 5 ใน พ.ศ. 2546 ถึงแ ม้ว่า พ.ศ. 2552 ถึงจ ะล ดลง
เป็นอันดับที่ 6 แต่อ ัตราป ่วยเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ย ังน่าเป็นห ่วง ส่วนโรคที่ล ดลงอย่างเห็นได้ชัดในผ ู้ป ่วยใน ได้แก่ กลุ่ม
ลขิ สิทธข์ิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช