Page 76 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 76

3-22 การส​ ่งเ​สริมสุขภ​ าพแ​ ละก​ ารป​ ้องกันโ​รค

(Maternal and Perinatal Conditions) และก​ ารบ​ กพร่องท​ างโ​ภชนาการ(Nutritional Deficiencies Combined)
ทั้งนี้ องค์การอ​ นามัยโ​ลกย​ ังไ​ด้ค​ าดก​ ารณ์ว​ ่า การเ​สียช​ ีวิตจ​ ากโ​รคต​ ิดเ​ชื้อ​ การเ​สียช​ ีวิตข​ องท​ ารกก​ ่อนค​ ลอดห​ รือแ​ รกเ​กิด
(Perinatal Conditions) และจ​ าก​การบ​ กพร่อง​ทางโ​ภชนาการ (Nutritional Deficiencies) จะล​ ด​ลง ร้อยล​ ะ 3 ในอ​ ีก
10 ปีข​ ้างห​ น้า ส่วนก​ าร​เสียช​ ีวิต​จากโ​รค​เรื้อรังจ​ ะ​มีแ​ นวโ​น้ม​เพิ่มข​ ึ้น ร้อย​ละ 17 ใน​ปี 2558 การเ​กิด​โรคไ​ม่​ติดต่อเ​รื้อรัง​
ได้​รับ​อิทธิพล​จาก​ปัจจัย​เสี่ยง​หนึ่ง​ปัจจัย หรือ​ร่วม​กัน​มากกว่า 1 ปัจจัย จาก​การ​ใช้​วิถี​ชีวิต​ที่​ไม่​เหมาะ​สม ได้แก่
การ​บริโภคอ​ าหาร​ที่​ไม่​ถูกต​ ้อง กิน​ผักผ​ ล​ไม้น​ ้อย ขาดก​ าร​ออกก​ ำลังก​ าย สูบ​บุหรี่ ดื่มเ​หล้า และ​ความเครียด

       จาก​ข้อมูล​ของ​สำนัก​นโยบาย​และ​ยุทธศาสตร์ กระทรวง​สาธารณสุข ปี 2550 พบ​ว่า อัตรา​ผู้​ป่วย​ใน​ต่อ​แสน​
ประชากร​ในโ​รคไ​ม่ต​ ิดต่อเ​รื้อรังข​ ้างต​ ้นส​ ูงเ​รียงต​ ามล​ ำดับจ​ ากม​ ากไ​ปน​ ้อย ดังนี้ 1) โรคค​ วามด​ ันโ​ลหิตส​ ูง (อัตรา 782.38)
2) โรคเ​บาห​ วาน (อัตรา 654.44) 3) โรค​หัวใจข​ าด​เลือด (อัตรา 262.32) และ 4) โรค​หลอด​เลือดส​ มอง (อัตรา 206.34)
โดยพ​ บว​ ่า โรคด​ ังก​ ล่าวม​ ีอัตรา​การพ​ ักร​ ักษา​ตัว​ที่​โรงพ​ ยาบาล​เพิ่มส​ ูง​ขึ้น จากป​ ี 2540 ทุก​โรค ดังนี้ 1) โรค​ความ​ดันโ​ลหิต​
สูง เพิ่ม​ขึ้น 4.95 เท่า 2) โรคเ​บา​หวาน เพิ่ม​ขึ้น 4.40 เท่า 3) โรคห​ ัวใจ​ขาดเ​ลือด​เพิ่มข​ ึ้น 5.35 เท่า และ 4) โรคห​ ลอด​เลือด​
สมองเ​พิ่มข​ ึ้น 2.75 เท่า

       3. 	 สาเหตภ​ุ ายนอก สาเหตุก​ ารป​ ่วยแ​ ละต​ ายห​ ลักท​ ี่ท​ ำให้ค​ นไ​ทยต​ ายจ​ ากก​ ลุ่มส​ าเหตุภ​ ายนอก ได้แก่ อุบัติเหต​ุ
ขนสง่ อบุ ตั เิ หตเ​ุ กีย่ วก​ บั น​ ำ้ ฆา่ ต​ วั ต​ าย และถ​ กู ฆ​ า่ ต​ าย ขอ้ มลู จ​ ากอ​ งคก์ ารอ​ นามยั โ​ลกพ​ บว​ า่ อบุ ตั เิ หตข​ุ นสง่ ท​ เี​่ ปน็ อ​ บุ ตั เิ หต​ุ
จราจร​ทาง​บก ร้อย​ละ 90 เกิด​ใน​ประเทศ​ด้อยพ​ ัฒนาแ​ ละก​ ำลัง​พัฒนา ผู้​ตายส​ ่วน​ใหญ่​จะ​เป็นค​ น​เดินเ​ท้า คนข​ ี่​จักรยาน
คนข​ ี่ม​ อ​เตอ​ ร์​ไซด์ และผ​ ู้โ​ดยสาร​รถยนต์ร​ ับจ้าง (WHO, 2004) โดยม​ ี​ราย​ละเอียดด​ ังนี้

            3.1	 อบุ ตั เิ หตจ​ุ ากก​ ารต​ กน​ ำ้ /จมน​ ำ้ จากร​ ายงานใ​นป​ ี 2551 ของส​ ำนักร​ ะบาดวิทยา กระทรวงส​ าธารณสุข​
พบ​ว่า การ​บาด​เจ็บ​จาก​การ​ตก​น้ำ/จม​น้ำ​เป็น​ปัญหา​สำคัญ​ของ​ประเทศ มี​จำนวน​ถึง 9,148 ราย เสีย​ชีวิต 2,239 ราย
อัตราก​ ารบ​ าดเ​จ็บ 14.47 ต่อป​ ระชากรแ​ สนค​ น อัตราต​ าย 3.54 ต่อป​ ระชากรแ​ สนค​ น และอ​ ัตราป​ ่วยต​ าย ร้อยล​ ะ 24.48
ซึ่ง​พบ​แนว​โน้ม​การ​บาด​เจ็บ​และ​การ​เสีย​ชีวิต​สูง​ขึ้น การ​บาด​เจ็บ​จาก​การ​ตก​น้ำ/จม​น้ำ​มี​อัตรา​การ​เสีย​ชีวิต​เป็น​อันดับ​ที่
3 รองจ​ าก​อุบัติเหตุจ​ ากก​ าร​จราจรท​ างบ​ ก (18.49 ต่อ​ประชากร​แสน​คน) อัตรา​ป่วยต​ าย (ร้อย​ละ 24.48) สูง​เป็นอ​ ันดับ​
หนึ่ง สูง​กว่า​อุบัติเหตุจ​ าก​การ​จราจร​ทางบ​ ก การ​ตายด​ ้วยอ​ ุบัติเหตุ​เกี่ยวก​ ับ​น้ำ (พลัด​ตก จมน​ ้ำ) นับ​ตั้งแ​ ต่​ พ.ศ. 2539
เห็นช​ ัดเจนว​ ่า กลุ่มว​ ัยเ​ด็ก​มีอ​ ัตรา​การ​ตายส​ ูงก​ ว่าป​ ระชากร​กลุ่ม​อายุอ​ ื่น

            3.2	 อุบตั ิเหตุ​จราจร แนว​โน้มข​ อง​สถานการณ์อ​ ุบัติเหตุจ​ ราจร เริ่ม​มี​สัญญาณ​ว่า การ​เกิด​อุบัติเหตุ​และ​
การบ​ าดเ​จ็บล​ ดล​ งอ​ ย่างช​ ้าๆ ตั้งแต่ป​ ี 2547 แต่อ​ ัตราผ​ ู้เ​สียช​ ีวิตย​ ังอ​ ยู่ท​ ี่ 29 คนต​ ่อป​ ระชากรแ​ สนค​ น (เฉลี่ยป​ ีล​ ะ 12,000
คน) ซึ่ง​อยู่​ในร​ ะดับส​ ูงเ​มื่อ​เทียบ​กับ​นานา​ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ที่​มี​อัตราเ​สีย​ชีวิต​เพียง 5.7 คน​ต่อ​แสน​ประชากร (แม้​ใน​
อดีต​ญี่ปุ่น​จะ​มี​ยอด​เสีย​ชีวิต​สูง​กว่า​ไทย​คือ 15,000 คน​ต่อ​ปี ใน​ช่วง​ปี 1970 แต่​ปัจจุบัน​เหลือ​เพียง 5,000 คน​ต่อ​ปี)
มอเตอร์ไซค์ย​ ัง​เป็นย​ านพ​ าหนะท​ ี่​ประอ​ ุบัติเหตุส​ ูงสุด (ร้อยล​ ะ 41) รองล​ งม​ าค​ ือ รถ​ส่วนบ​ ุคคล​และร​ ถป​ ิกอัพ ซึ่งร​ ถ 3
ประเภทร​ วมก​ ัน​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 82 ของ​ปัญหา​อุบัติเหตุท​ ั้งหมด จากข​ ้อมูล​สำนักงานต​ ำรวจ ขับ​เร็ว ยัง​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​
ของค​ ดีอ​ ุบัติเหตุ​จราจร​คือ ร้อย​ละ 22 โดยเ​ฉพาะ​การข​ ับ​เร็วใ​น​ช่วง​กลางค​ ืน ช่วง​วันเ​สาร์-อาทิตย์ ช่วง​เวลาฝ​ น​ตก และ​
เกิดก​ ับถ​ นนท​ ี่​มีเ​กาะ​กลาง

            3.3	 การ​ฆ่า​ตัว​ตาย แม้ว่า​ข่าว​การ​ฆ่า​ตัว​ตาย​ของ​วัย​รุ่น​จะ​ปรากฏ​ออก​มา​ให้​เห็น​บ่อย​ครั้ง​มาก แต่​พบ​
ว่า อัตรา​การ​ตาย​จากก​ าร​ฆ่า​ตัวต​ ายข​ อง​วัย​หนุ่ม​สาวใ​น​ช่วง 2-3 ปี​หลัง ได้​ลด​ลง​มาก และ​ดูเ​หมือน​ว่า​ใน​ปัจจุบัน​อัตรา​
การ​ตาย​ของ​วัย​ผู้ใหญ่​และ​วัย​ทอง​กลับ​สูง​กว่า​วัย​หนุ่ม​สาว กล่าว​คือ เมื่อ​สิ้น​สุด พ.ศ. 2547 คือ อัตรา​ตาย​ของ
​วัย​หนุ่มส​ าวล​ ดล​ งเ​หลือ​เพียง 7.7 ราย ขณะ​ที่​วัยผ​ ู้ใหญ่ (30-59 ปี) อยู่​ที่ 9.3 ราย และว​ ัยท​ องอ​ ยู่​ที่ 9.1 ราย ลักษณะ​
เช่นน​ ี้เ​หมือนก​ ับ​ต่าง​ประเทศท​ ี่​คน​ฆ่า​ตัว​ตายส​ ่วนใ​หญ่​มีอายุม​ าก​ขึ้น อาจ​จะเ​นื่องม​ าจ​ าก​ความเครียดใ​น​การท​ ำงานข​ อง​
กลุ่ม​ผู้ใหญ่ และ​ความ​เหงา​ใน​วัย​สูง​อายุ ช่วง​อายุ​ที่​พบ​การ​ฆ่า​ตัว​ตาย​มี​จำนวน​มาก​อยู่​ใน​วัย​ตั้งแต่ 70 ปี​ขึ้น​ไป ปัจจัย​

                             ลิขสทิ ธิ์ของมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81