Page 74 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 74
3-20 การส่งเสริมสุขภ าพและการป้องกันโรค
ผู้ขับจักรยานยนต์ได้ร ับบ าดเจ็บจากอ ุบัติเหตุข นส่งที่เคยเป็นอันดับที่ 9 ใน พ.ศ. 2544 – 2545 ไม่ป รากฏใน 10 อันดับ
โรค ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา ซึ่งโรคที่อัตราก ารป่วยล ดล งอย่างเห็นได้ชัดในท ำนองเดียวกันม ีอีก 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มโรคติดเชื้อแ ละป รสิต อื่นๆ และโรคร ะบบหายใจส ่วนบ นติดเชื่อเฉียบพลัน
จากข้อมูลด ังก ล่าวน ั้น สรุปได้ว่า สถานการณ์โรค 5 ปีท ี่ผ ่านม าน ั้น โรคที่พ บมากที่สุดของผู้ป่วยน อก 3 ลำดับ
แรก ได้แก่ โรคของระบบหายใจ โรคระบบไหลเวียนเลือด โรคระบบกล้ามเนื้อรวมโครงร่างและเนื้อยึดเสริม โดยมี
อัตราป่วยต ่อป ระชากร 1,000 คน ในช ่วง 5 ปีท ี่ผ ่านมาใกล้เคียงกันและม ีแนวโน้มลดลงเล็กน ้อย ส่วนในผู้ป่วยใน โรค
ที่พ บมากท ี่สุดข องผ ู้ป่วยใน 3 ลำดับแ รก ได้แก่ ความผิดป กติท ี่เกี่ยวก ับต่อมไร้ท่อ โภชนาการและเมแ ทบอลิซ ึมอื่นๆ
ส่วนโรคค วามด ันโลหิตส ูงถ ูกจ ัดเป็นล ำดับท ี่ส อง โรคท ี่เป็นล ำดับส ามค ือ โรคแ ทรกซ้อนในก ารต ั้งค รรภ์ การเจ็บค รรภ์
การค ลอดและร ะยะหลังคลอดแ ต่ม ีอัตราป่วยต ่อประชากร 10,000 คน มีแ นวโน้มเพิ่มม ากข ึ้นท ุกป ี
อย่างไรก ็ตาม พบว ่า ประชากรไทยย ังค งม ปี ัญหาส ุขภาพท ีส่ ำคัญแ ละม แี นวโน้มเพิ่มข ึ้นซ ึ่งจ ำเป็นต ้องเฝ้าร ะวัง
และให้ค วามส นใจ โดยแ บ่ง ออกเป็น 4 กลุ่มได้ แก่ โรคต ิดเชื้อ โรคไร้เชื้อ อุบัติเหตุ/สาเหตุภ ายนอก และโรคอ ุบัติใหม่/
อุบัติซ ้ำ ซึ่งม ีรายล ะเอียด ดังนี้
1. โรคต ดิ เชอ้ื หรอื โรคต ดิ ตอ่ เป็นโรคท ี่มีสาเหตุมาจากส ิ่งมีชีวิต หรือจุลชีพก่อโรค ซึ่งส ามารถติดต่อจากค น
หนึ่งไปย ังอีกคนหนึ่งได้ ซึ่งแตกต ่างจากโรคที่ม ีป ัจจัยจ ากพ ันธุกรรม ทางก ายภาพ และทางเคมี จุลชีพก่อโรคที่ทำให้
เกิดโรค เช่น ไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต รา พรีอ อน (Prion) เป็นต้น โรคติดเชื้อท ี่สำคัญข องป ระเทศไทยและมีแนวโน้ม
เพิ่มข ึ้นมีด ังนี้
1.1 โรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็ก ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศไทย โดย
พ บว ่า โรคป อดบวมเป็นส าเหตกุ ารต ายอ ันดับห นึ่งข องก ลุ่มโรคต ิดเชื้อในเดก็ อาย ตุ ่ำก ว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม อุบัตกิ ารณ์
ของโรคปอดบวมในเด็กลดลงจากร้อยละ 5.2 ใน พ.ศ. 2538 เป็นร้อยละ 1.85 ในพ.ศ. 2549 รวมทั้งอัตราตายมี
แนวโน้มล ดล งจาก 15.1 ต่อป ระชากรแสนค น ใน พ.ศ. 2533 เป็น 1.78 ต่อประชากรแสนค น ใน พ.ศ. 2549
1.2 โรคไข้เลือดออก ไข้เลือดออกเป็นปัญหาสาธารณสุข ของประเทศไทยมานานและยังเป็นปัญหา
สาธารณสุขทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเขตร้อนชื้น ตั้งแต่ ค.ศ.1970 ปัจจุบันระบาดเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลา 10 ปีที่
ผ่านมา แม้จะเป็นโรคประจำถิ่นของกว่า 100 ประเทศ แต่มีความรุนแรงมากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(Western Pacific) และยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา
โดยย ังไม่มีแ นวโน้มล ดลงโดยลักษณะค ล้ายม ีก ารระบาด 2 ปี เว้น 2 ปี กรมค วบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้ง
ข้อมูลก ารร ะบาดข องไข้เลือดอ อกในป ี 2553 รุนแรงก ว่าก ่อน ผูเ้สียช ีวิตส ่วนใหญส่ าเหตจุ าก มาร ับก ารร ักษาช ้า ตัวเลข
การเสียชีวิตคงที่เมื่อเทียบกับปีที่ผ ่านมา แต่จำนวนผ ู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นมาก จำนวนผ ู้ป่วยล ่าสุดทั่วป ระเทศ 23,653 คน
ส ูงก ว่าปีท ี่ผ่านม าร้อยละ 37 เนื่องจากฤ ดูฝ นมาเร็วกว่าทุกปี แต่ผู้ปกครองเข้าใจว ่าการเจ็บป ่วย ช่วงน ี้เกิดจ ากไข้ห วัด
พบผ ู้ป ่วยม ีอ าการไข้ต ่อเนื่อง 3 วัน เกร็ดเลือดล ดลง เกิดอาการช ็อก และเสียชีวิตได้ท ันที การระบาดเดิมส ถิติส ูงสุด
อยู่ที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ขณะน ี้ได้ร ะบาดมาภาคก ลาง โดยเฉพาะก รุงเทพมหานครพบยอดผ ู้ป่วย สูงอ ันดับ 1
1.3 โรคเอดส์ จากรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อที่มีอาการในประเทศไทยล่าสุด (31
สิงหาคม 2553) สำนักวิทยาการระบาดรายงานว่า มีจำนวนผู้ป่วยเอดส์ทั้งสิ้น จำนวน 368,921 ราย เสียชีวิตแล้ว
จำนวน 97,694 ราย แนวโน้มของผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจาก
การรักษาผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงทำให้มีผู้ป่วยเอดส์
และผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงก ว่าอดีตจ ากปี 2528 เป็นเวลา 25 ปี มีการค าดประมาณว่า มีคนไทยติดเชื้อเอดส์
ตั้งแต่ต้นทั้งสิ้นหนึ่งล้านสองแสนคน เสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง คาดประมาณว่า มีคนไทยที่ติดเชื้อเอดส์ซึ่งมีชีวิตอยู่
ขณะนี้ประมาณ 6 แสนคน มีคนไทยติดเชื้อใหม่ขณะนี้ประมาณปีละ 16,000 คน และเสียชีวิตจากเอดส์ประมาณ
ลิขสทิ ธขิ์ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช