Page 79 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 79

อัตรารายอายุ (ต่อ 1,000 ประชากร)                      ปัจจัย​ที่ม​ ีอ​ ิทธิพลต​ ่อ​ภาวะส​ ุขภาพข​ องป​ ระชากร 3-25

       รูปแ​ บบก​ ารต​ ายห​ รือก​ ารเ​จ็บป​ ่วยใ​นท​ ุกป​ ระเทศท​ ั่วโ​ลกม​ ีล​ ักษณะท​ ี่ค​ ล้ายคลึงก​ ัน เมื่อศ​ ึกษาต​ ามอ​ ายุค​ ือ​ อัตรา​
ตายจ​ ะ​สูง​ใน​ทารก​แรก​เกิดจ​ นถึงข​ วบป​ ีแ​ รก และ​ค่อยๆ ลด​ลง​หลัง​จาก​นั้น จะเ​พิ่ม​ขึ้น​เมื่อเ​ข้า​สู่​วัย​สูง​อายุ นอกจาก​นี้​อาย​ุ
มค​ี วามส​ มั พนั ธก์​ บั ค​ วามช​ กุ ข​ องก​ ารเ​กดิ โ​รคแ​ ละค​ วามร​ นุ แรงข​ องก​ ารเ​กดิ โ​รค อายท​ุ แี​่ ตกต​ า่ งก​ นั จ​ ะเ​จบ็ ป​ ว่ ยแ​ ละต​ ายด​ ว้ ย​
โรค​ที่​แตก​ต่าง​กัน เช่น โรค​หัด คอตีบ เป็นต้น เป็นโ​รค​ที่​พบใ​น​เด็กม​ ากกว่าว​ ัยอ​ ื่น ใน​ขณะ​ที่​โรคเ​รื้อรัง​บาง​โรค เช่น โรค​
หัวใจ มะเร็ง ความด​ ันโ​ลหิต​สูง เป็นต้น พบ​มาก​ในผ​ ู้​สูง​อายุ อย่างไรก​ ็ตาม พบว​ ่า เมื่อ​ผ่าน​พ้นข​ วบ​ปีแ​ รกอ​ ัตราต​ ายเ​พิ่ม​
มากข​ ึ้น​เมื่ออ​ ายุเ​พิ่มข​ ึ้น เนื่องจาก 1) ภูมิคุ้มกันโ​รคต​ ามธ​ รรมชาติข​ อง​ร่างกายล​ ด​ลงเ​มื่อ​อายุเ​พิ่มม​ ากข​ ึ้น 2) การส​ ะสม​
ของ​ปัจจัย​เสี่ยง​ต่อ​สุขภาพ​เพิ่มม​ าก​ขึ้นต​ าม​อายุ​ที่เ​พิ่ม​ขึ้น เช่น การส​ ะสม​สารพ​ ิษ เป็นต้น และ 3) การเ​ปลี่ยนแปลงข​ อง​
ฮอร์โมน​ของร​ ่างกาย ตาม​ช่วงเ​วลา​ที่เ​ปลี่ยนแปลง​ไป

       สำหรับ​ประเทศไทย​เมื่อพ​ ิจารณาถ​ ึงต​ ายจ​ ำแนก​ตามก​ ลุ่มอ​ ายุ​พบว​ ่า หลัง​จาก พ.ศ. 2503 เป็นต้นม​ า แบบแผน​
การต​ ายข​ อง​ประชากรไ​ทย​จำแนก​ตามก​ ลุ่ม​อายุ​มีล​ ักษณะค​ ล้ายคลึง​กันค​ ือ เป็น​รูปต​ ัวเ​จ (J Shape) (ภาพท​ ี่ 3.3) กล่าว​
คือ ประชากร​วัย​เด็ก (แรกเ​กิดถ​ ึง​สี่ป​ ี) จะ​มีอ​ ัตรา​ตายส​ ูง​หลังจ​ ากน​ ั้น​อัตรา​ตายจ​ ะ​ค่อยๆ ลด​ลง และ​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ครั้ง​เมื่อ​
เข้าส​ ู่ว​ ัย​กลางค​ นแ​ ละ​สูงข​ ึ้นแ​ บบ​เชิง​เส้น​ตรงเ​มื่อเ​ข้า​สู่​วัย​สูงอ​ ายุ (ภาพท​ ี่ 3.3) แต่อ​ ย่างไรก​ ็ตาม​เมื่อพ​ ิจารณาจ​ ำแนก​ตาม​
กลุ่ม​อายุ​พบ​ว่า​สาเหตุ​การ​ตาย​ลำดับ​แรก​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน เช่น เด็ก​แรก​เกิด (อายุ 0-4 ปี) จะ​เสีย​ชีวิต​ด้วย​ภาวะ​
น้ำห​ นักแ​ รก​เกิดต​ ่ำ ส่วนช​ ่วงอ​ ายุ 5-29 ปี จะเ​สีย​ชีวิต​ด้วยอ​ ุบัติเหตุ ส่วนอ​ ายุ 30-44 ปี เสียช​ ีวิต​ด้วย​เอช​ไอ​วี/เอดส์ และ​
อายุ 45-69 ปี​เสียช​ ีวิตด​ ้วยม​ ะเร็ง ทั้งนี้ใ​นก​ ลุ่ม​ผู้ท​ ี่อ​ ายุ 70 ปี​ขึ้น​ไปพ​ บ​ว่า ส่วน​ใหญ่​เสียช​ ีวิตด​ ้วย​โรคห​ ลอด​เลือด​สมอง
(สุ​วิทย์ วิบุลผ​ ล​ประเสริฐ 2552)

               90
               80
               70
               60
               50
               40
               30
               20
               10
                0

                      ภาพท​ ี่ 3.3 อัตราต​ าย​ราย​อาย​ุของป​ ระชากรไ​ ทย ระหวา่ งป​ ี 2503-2551

ทมี่ า: 	ข้อมูลจ​ าก​สำนักน​ โยบาย​และ​ยุทธศาสตร์ 2515-2550

       เมื่อพ​ ิจารณาอ​ ัตราต​ ายข​ องป​ ระชากรไ​ทยต​ ามต​ ัวช​ ี้ว​ ัดก​ ารต​ ายท​ ี่ส​ ำคัญพ​ บว​ ่า อัตราม​ ารดาต​ ายต​ ่อก​ ารเ​กิดม​ ีช​ ีพ
100,000 คน ได้ล​ ด​ลงจ​ าก 374.3 ต่อก​ าร​เกิดม​ ีช​ ีพ 100,000 คน ใน พ.ศ. 2505 เหลือ 9.8 ต่อ​การ​เกิดม​ ีช​ ีพ 100,000 คน
ใน พ.ศ. 2552 อัตรา​ตาย​ทารก​มีแ​ นว​โน้ม​ลด​ลงจ​ าก 84.3 ต่อก​ ารเ​กิด​มี​ชีพ 1,000 คน ใน พ.ศ.2507 เหลือ 40.7 ใน พ.ศ. 
2527 และ​ลดล​ งเ​ป็น 11.3 ใน พ.ศ. 2552 แต่อ​ ย่างไร​ก็ตาม แม้ว่า อัตรา​ทารกต​ ายข​ อง​ไทย​จะต​ ่ำ​กว่า​ค่าเ​ฉลี่ย​ทั่วโ​ลก แต่
ยังส​ ูง​กว่า​บาง​ประเทศ​ในภ​ ูมิภาคเ​ดียวกัน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น อัตรา​ตายเ​ด็ก​ต่ำก​ ว่า 5 ปี มี​การเ​ปลี่ยนแปลง​
ไม่​มากน​ ัก​จาก 12.8 ต่อ​การเ​กิดม​ ี​ชีพ 1,000 คน ใน พ.ศ. 2533 เป็น 10.0 ใน​ปี 2552 อย่างไร​ก็ตาม แม้ว่า อัตรา​ตาย​เด็ก​

                              ลขิ สิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84