Page 170 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 170
12-40 พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมท างเศรษฐกิจและธ ุรกิจ
แนวต อบกิจกรรม 12.3.1
1. จรยิ ธรรมท างธ รุ กจิ คอื คณุ ธรรมท เ่ี กยี่ วขอ้ งก บั ส ง่ิ ท ถี่ กู ห รอื ผ ดิ ในก ารป ระกอบธ รุ กจิ ในแ งข่ องค ณุ คา่
ทางส งั คมท่ไี มเ่ ก่ียวข้องกับคุณค่าท างเศรษฐกิจ
2. ขอ้ ดขี องค วามร บั ผ ดิ ช อบข องอ งคก์ รธ รุ กจิ ต อ่ ส งั คม คอื เปน็ การด งึ ดดู ใหไ้ ดบ้ คุ ลากรท ดี่ เี ขา้ ม าท ำงาน
ในองค์กร ทำให้เกิดการจัดการความเสี่ยง เป็นการสร้างเอกลักษณ์ในการแข่งขันด้านการตลาด และเป็นการ
ปอ้ งกนั ก ารเขา้ ม าย งุ่ เกย่ี วห รอื แ ทรกแซงโดยร ฐั สำหรบั ข อ้ เสยี จะเกย่ี วขอ้ งก บั ข อ้ ว จิ ารณถ์ งึ ว ตั ถปุ ระสงคพ์ นื้ ฐ าน
และธ รรมชาตขิ องธุรกจิ และแ รงจงู ใจในก ารก ำหนดแ นวคิดความร บั ผ ดิ ช อบต อ่ ส ังคม รวมไปถึงค วามไมจ่ ริงใจ
และก ารห นา้ ไหว้หลงั ห ลอกของบรรษัท
เรอ่ื งท ี่ 12.3.2
กรณตี วั อยา่ งข องอ งค์กรต วั แทนข องผ ูผ้ ลิตระดับโลก:
สภาธ รุ กิจโลกเพอื่ การพ ัฒนาอย่างย่งั ยนื
การประกอบกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมิได้ดำเนินการอย่างโดดเดี่ยว แต่มีการ
ดำเนินก ารเป็นเครือข ่ายท ั่วโลกภ ายใต้ก รอบก ารป ฏิบัตติ ามข ้อต กลงด ้านส ิ่งแ วดล้อมร ะหว่างป ระเทศท ี่น ำโดยอ งค์การ
สหประชาชาติ (United Nations: UN) ความส นใจข องภ าคธ ุรกิจอ ุตสาหกรรมในก ารเข้าร ่วมก ิจกรรมด ้านส ิ่งแ วดล้อม
ของ UN ได้เริ่มต ้นจากก ารประชุมว่าด ้วยสิ่งแ วดล้อมและการพัฒนาข อง UN (The UN Conference on Environ-
ment and Development–UNCED) ณ เมืองริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) ประเทศบ ราซิลใน ค.ศ. 1992
เมื่อเลขาธิการของการประชุม ได้เรียกร้องให้กลุ่มอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาแบบยั่งยืน (Willetts
(ed.) , 1996: 56) อย่างไรก ็ตาม ในอ ดีต บริษัทท ั้งท ี่เป็นเอกชนและร ัฐวิสาหกิจต่างก็เคยมีส่วนร ่วมในองค์กรร ะหว่าง
ประเทศและในประเด็นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในลักษณะขององค์กรพัฒนาเอกชน
(Non-governmental Organization: NGO) ตัวอย่างเช่น การร วมก ลุ่มข องเกษตรกรแ ละผ ู้ท ำส วนป ่าช าวเยอรมันใน
ค.ศ. 1868 ที่ได้เขียนค ำป ระกาศเสนอต ่อส ำนักงานก ารต ่างป ระเทศข องอ อสเตรีย-ฮังการี เรียกร ้องให้ม ีก ารป ้องกันน ก
และส ัตว์ท ี่เป็นป ระโยชน์ต ่อก ารเกษตรแ ละป ่าไม้ (Caldwell, 1984: 28) องค์กรพ ัฒนาเอกชนท ี่ม ีค วามเก่าแ ก่ม ากท ี่สุด
องค์กรห นึ่งได้แก่ หอการค้าร ะหว่างป ระเทศ (The International Chamber of Commerce: ICC) ซึ่งได้จ ัดต ั้งข ึ้นใน
ค.ศ. 1919 และม ตี ำแหน่งก รรมการในค ณะก รรมการท ีป่ รึกษาเศรษฐกิจแ ห่งส ันนิบาตช าติ (The League of Nations’
Economic Consultative Committee) 3 ตำแหน่งโดยม สี ิทธใินก ารอ อกเสียงแ ละม สี ่วนร ่วมโดยตรงในก ารเจรจาต ่อ
รองข องสันนิบาตชาติ ในเวลาต ่อมา ICC ได้รับสถานภาพเป็นที่ปรึกษาในฐ านะอ งค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ในส ภา
เศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ (The UN Economic and Social Council: UN-ECOSOC) ใน ค.ศ. 1946
ปัจจุบัน ICC มีส มาชิก 7,000 บริษัทและธ ุรกิจใน 130 ประเทศ และยังคงด ำเนินง านอ ย่างใกล้ชิดกับ UN-ECOSOC
ในก ารส นองต ่อข ้อเรียกร ้องข อง UNECD ในก ารป ระชุมท ี่เมืองร ิโอ เด จาเนโร ค.ศ. 1992 ICC ได้ส นับสนุนก ารป ระชุม
อตุ สาหกรรมโลกว า่ ด ว้ ยก ารจ ดั การส ิง่ แ วดลอ้ ม (A World Industry Conference on Environmental Management)
ลขิ สิทธิ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช