Page 169 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 169

การ​พัฒนาแ​ บบย​ ั่งยืนก​ ับ​จริยธรรมต​ ่อส​ ิ่งแ​ วดล้อม 12-39

จาก​การ​จัดการ​ของ​เสีย​หรือ​ซาก​ผลิตภัณฑ์​ที่​ปลาย​ท่อ​แบบ​ดั้งเดิม (traditional end-of-pipe waste programs)9
ซึ่ง​เป็นการส​ นับสนุน​ทางการ​เงิน​ใน​การ​จัดการโ​ดย​รัฐบาล​ท้องถ​ ิ่น สังคม และผ​ ู้​ผลิตไ​ม่​ต้อง​มี​ความ​รับ​ผิดช​ อบ มาเ​ป็น​
ระบบร​ ไี ซเคิล “จากเ​ปลส​ ูห​่ ลุมฝ​ ัง” (“cradle-to-grave” recycling systems)10 ทีผ​่ ูผ้​ ลิตส​ ินคา้ จ​ ะเ​ปน็ ผ​ ูด้​ ำเนินก​ ารเ​อง
​ใน​เรื่อง​ของ​การ​ออกแบบ การ​จัดการ​ทางการ​เงิน และ​การ​บริหาร​จัดการ​ระบบ ดัง​นั้น EPR จึง​เป็นการ​ส่ง​เสริม​ให้​
ผู้​ผลิต โดย​ทั่วไป​มัก​จะ​เป็น​ผู้​ผลิต​ที่​มี​ตราสิน​ค้า​ของ​ตนเอง มี​อำนาจ​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​การ​ควบคุม​การ​ออกแบบ​สินค้า​
และก​ ารต​ ลาด รวม​ถึงค​ วามส​ ามารถ​และ​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​อย่างเ​ต็ม​ที่ใ​น​การ​ลดค​ วามเ​ป็นพ​ ิษ​และ​ของเ​สียจ​ ากก​ าร​ผลิต
(Sierra Club, 2009)

       รูป​แบบ EPR อาจ​จะ​เป็น​โปรแกรมใ​นก​ ารนำ​กลับม​ า​ใช้​ใหม่ (reuse) หรือ การ​รับซ​ ื้อค​ ืน (buy-back) หรือ​ใน​
การผ​ ลิตพ​ ลังงาน เช่น การนำข​ องเ​สียม​ าเ​ผาเ​พื่อเ​ป็นพ​ ลังงาน ในข​ ณะเ​ดียวกัน ผู้ผ​ ลิตอ​ าจจ​ ะเ​ลือกท​ ี่จ​ ะม​ อบห​ มายความ​
รับ​ผิด​ชอบน​ ี้​แก่ฝ​ ่าย​ที่ส​ าม (a third party) ที่เ​รียกว​ ่า องค์กร​ความร​ ับผ​ ิด​ชอบ​ของ​ผู้ผ​ ลิต (Producer Responsibility
Organization–PRO) ซึ่ง​ผู้ผ​ ลิตจ​ ะ​เป็น​ผู้​จ่าย​ค่า​บริหารจ​ ัดการ​ให้​แก่อ​ งค์กร​นี้ ในล​ ักษณะน​ ี้ EPR จึง​เป็นการ​โยกย​ ้าย​
ความร​ ับผ​ ิดช​ อบด​ ้านก​ ารจ​ ัดการข​ องเ​สียจ​ ากร​ ัฐบาลไ​ปย​ ังภ​ าคธ​ ุรกิจอ​ ุตสาหกรรม ทำให้ผ​ ู้ผ​ ลิต ผู้นำเ​ข้า และ/หรือผ​ ู้ข​ าย​
สินค้า ต้อง​นำ​ต้นทุนก​ าร​จัดการข​ อง​เสีย​เข้าไป​ใน​ราคาส​ ินค้า (to internalize waste management costs in their
product prices) และ​เป็นการ​ประกัน​ว่า​ภาค​ธุรกิจ​อุตสาหกรรม​จะ​จัดการ​การ​ผลิต​สินค้า​ต่อ​ไป​ได้​อย่าง​ยั่งยืน​และ​
ปลอดภัย (Hanisch, 2000) และ​สามารถ​ลด​ผลก​ระท​ บต​ ่อ​สิ่งแ​ วดล้อม

  กจิ กรรม 12.3.1
         1. 	 จริยธรรม​ทางธ​ ุรกิจ คือ อะไร
         2. 	 กิจกรรม​ของ​ภาค​ธุรกจิ อ​ ุตสาหกรรมท​ ​เ่ี ก่ียวขอ้ ง​ความ​รับผ​ ิดช​ อบ​ตอ่ ส​ ังคม​ของ​บรรษทั ​มีข​ ้อดี​ขอ้ ​เสีย​

  อยา่ งไร

	 9 เป็นการ​จัดการ​ของ​เสีย​ที่​ปลาย​ทาง คือ ของ​เสีย​จาก​การ​ผลิต​เมื่อ​สินค้า​ไม่​ได้​คุณภาพ​หรือ​มาตรฐาน และ​ของ​เสีย​จาก​การ​บริโภค​เมื่อ​
สินค้า​หมด​สภาพห​ รือ​อายุ​การใ​ช้​งาน​แล้ว ของ​เสีย​ใน​ส่วน​นี้​มักจ​ ะ​ถูก​ทิ้ง​ออก​ไป​สู่ส​ ิ่งแ​ วดล้อมจ​ ากโ​รงงานผ​ ลิตห​ รือ​จาก​ครัวเ​รือนผ​ ู้​บริโภค ทำให้เ​กิด​
ความเ​สียห​ ายห​ รือค​ วามเ​สื่อมโทรมต​ ่อ​สิ่ง​แวดล้อม การ​จัดการ​ในข​ ั้นต​ อนน​ ี้​โดยท​ ั่วไป จะเ​ป็น​ภาระข​ อง​รัฐบาลท​ ้อง​ถิ่น เช่น กทม. เทศบาล ใน​การ​
เก็บร​ วบรวม​และ​ฝัง​กลบ โดยน​ ำภ​ าษี​ท้อง​ถิ่นแ​ ละ/หรือเ​งินส​ นับสนุน​จากร​ ัฐบาลก​ ลาง​มา​ใช้ใ​น​การจ​ ัดการ	
	 10 เป็นการ​จัดการ​ของ​เสีย​ที่​ต้นทาง (ใน​กระบวนการ​ผลิต​หรือ​บริโภค คือ ​เปลสำหรับ​ทารก) จนถึง​จุด​ปลาย​ทาง​หรือ​ปลาย​ท่อ (เตา​
เผา​ของ​เสีย​หรือ​ที่​ฝัง​กลบ​ของ​เสีย คือ หลุม​ฝัง) โดย​ใน​การ​จัดการ​ของ​เสีย​ที่​ต้นทาง​นั้น ผู้​ผลิต/ผู้​บริโภค​สามารถ​ลด (reduce) ปริมาณ​วัตถุดิบ
(ทรัพยากรธรรมชาติ​ที่​นำ​มา​ใช้) /สินค้า​บริโภค หรือ​นำ​กลับ​มา​ใช้​ใหม่ (reuse) หรือ นำ​ไป​แปร​สภาพ​เพื่อ​นำ​กลับ​มา​ใช้​ใหม่/รีไซเคิล (recycle)
หลักก​ ารส​ ำคัญใ​นก​ ารจ​ ัดการข​ องเ​สียท​ ี่ต​ ้นทาง​นี้ คือ การ​ลดข​ องเ​สียใ​ห้น​ ้อยท​ ี่สุด (waste minimization) ซึ่ง​จะส​ ่งผ​ ลต​ ่อก​ ารจ​ ัดการ​ที่ป​ ลายท​ ่อ คือ
ปริมาณ​ของ​เสีย​ที่​ต้อง​ถูก​รวบ​รวม​และ​นำ​มา​ฝัง​กลบ ก็​จะ​ลด​ตาม​ลง​ไป ทำให้​ประหยัด​ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​รวบรวม​และ​การ​เผา ตลอด​จน​พื้นที่​ใน​การ​
ฝัง​กลบ เนื่องจาก​ที่ดิน​เป็น​ทรัพยากร​ที่​มี​อยู่​อย่าง​จำกัด และ​ลด​ความ​เสี่ยง​ของ​การ​เกิด​มลพิษ​ที่​ซึม​ลง​ไป​ปน​เปื้อน​ใน​ดิน​และ​น้ำ​ใต้ดิน เป็นการ​ลด​
ผลก​ระท​ บต​ ่อส​ ิ่งแ​ วดล้อมจ​ าก​การ​ประกอบ​การ​ของผ​ ู้​ผลิต	

                              ลิขสทิ ธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช
   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173   174