Page 164 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 164
12-34 พฤติกรรมม นุษย์แ ละจริยธรรมท างเศรษฐกิจและธ ุรกิจ
อุตสาหกรรมหรือไม่ มิลต ัน ฟรีดแมน (Milton Friedman)6 นักเศรษฐศาสตร์จ ากค ณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ชิคาโก มีค วามเห็นว่า บรรษัทเป็นส ิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม และผ ู้บริหารร ะดับส ูงมีหน้าที่เดียว คือ การท ำก ำไรให้
สูงท ี่สุดแ ก่บริษัท ธุรกิจไม่ส ามารถม ีความร ับผิดชอบท างส ังคมได้ (Friedman, 1984) เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ ดรักเคอ ร์
(Peter Drucker) ที่ให้ข ้อคิดเห็นเช่นเดียวกันว ่า “ไม่มีจริยธรรมส ำหรับธ ุรกิจและไม่จำเป็นต ้องมี” และ “ความร ับผ ิด
ชอบส ูงสุดของผ ู้บริหารบริษัท คือ การไม่ท ำให้เกิดผลร้าย” (Drucker, 1981: 18-36)
2. ความร บั ผ ดิ ชอบข องอ งค์กรธ รุ กิจตอ่ สงั คม (Corporate Social Responsibility: CSR)
ประเด็นทางจริยธรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความยั่งยืนในการประกอบกิจกรรมของภาคธุรกิจ
อุตสาหกรรม คือ ความรับผิดชอบขององค์กรธุรกิจต่อสังคม (CSR) ซึ่งเป็นจริยธรรมทางธุรกิจที่แสดงถึงความรับ
ผิดชอบข องภ าคธุรกิจอุตสาหกรรมต่อสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภค พนักงาน และชุมชน หรือในอ ีกน ัยห นึ่งเป็นค วามร ับผิด
ชอบต่อประโยชน์สาธารณะหรือต่อสังคมที่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมจะต้องพิจารณารวมเข้าไปในการตัดสินใจดำเนิน
กิจกรรมข องบ ริษัทแ ละต ้องให้ค วามเคารพแ ก่ส ิ่งท ี่เป็นร ากฐานข องบ ริษัท 3 อย่าง คือ คน โลก กำไร (A triple bottom
line - TBL: people, planet, profit)
ความร บั ผ ดิ ช อบข องอ งคก์ รธ รุ กจิ ต อ่ ส งั คม (CSR) เปน็ ค ำท เี่ กดิ ข ึน้ แ ละใชก้ นั แ พรห่ ลายในช ว่ งต น้ ข องท ศวรรษ
ที่ 1970 หลังจากก ารก่อต ั้งแ ละขยายตัวข องบ รรษัทข ้ามช าติม ากมายท ี่ไปลงทุนในประเทศต ่างๆ ภายใต้แ นวคิดความ
รับผ ิดช อบข องอ งค์กรธ ุรกิจต ่อส ังคมน ี้ ขอบเขตค วามร ับผ ิดช อบห รือผ ู้ท ี่จ ะได้ร ับผ ลกร ะท บจ ากก ารป ระกอบก ิจกรรม
ของบ ริษัทไดเ้ปลี่ยนจ ากก ารค รอบคลุมเพยี งผ ถู้ ือห ุ้น (shareholders) ไปเป็นผ ูม้ สี ว่ นเกี่ยวข้อง (stakeholders) (Free-
man, 1984) ในปัจจุบัน แนวคิดค วามรับผิดช อบต่อส ังคมข องภาคธุรกิจอ ุตสาหกรรม ยังได้ขยายไปครอบคลุมถึงสิ่ง
แวดล้อมด ้วย โดยย ึดห ลักก าร Triple Bottom Line (TBL) ดังก ล่าวข ้างต ้น และได้ส ะท้อนอ อกม าเป็นม าตรการท ี่เป็น
รูปธรรม คือ มาตรฐานไอเอสโอ 26000 (ISO 26000) ซึ่งเป็นม าตรฐานสากล
อย่างไรก ็ตาม ในก ารด ำเนินก ารต ามแ นวคิดค วามร ับผ ิดช อบข องอ งค์กรธ ุรกิจต ่อส ังคม (CSR) ของภ าคธ ุรกิจ
อุตสาหกรรมนั้น เป็นสิ่งที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ฝ่ายที่เห็นด้วยกับแนวคิด CSR ก็จะกล่าวถึงประโยชน์
มากมายในการดำเนินการของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ขยายขอบเขตและคำนึงถึงระยะยาวมากกว่าการหาประโยชน์
เฉพาะหน้าจ ากก ารท ำก ำไรระยะส ั้น ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ก็โต้แย้งว ่า แนวคิด CSR เป็นการเบี่ยงเบนจ ากบทบาทพ ื้นฐาน
ทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นเพียงหน้าฉากบังหน้า หรือเป็นการป้องกันการเข้ามาแทรกแซงกิจการ
ของบรรษัทข้ามชาติจากร ัฐบาลของประเทศที่เข้าไปลงทุน
2.1 ประโยชน์ของ CSR เป็นการพิจารณาในมุมมองที่สนับสนุน CSR ว่าเป็นการเสริมภารกิจขององค์กร
และเป็นแ นวทางที่แสดงถ ึงจุดยืนของบ ริษัทท ี่มีต่อผ ู้บริโภคข องตนเอง ได้แสดงถ ึงป ระโยชน์ของการม ีโครงการเกี่ยว
กับ CSR ดังนี้
1) เป็นการดึงดูดใจต่อผู้ที่ต้องการเข้ามาทำงานกับบริษัท จึงเป็นประโยชน์ต่อการรับพนักงานใหม่
และการทำให้พนักงานอยู่ทำงานกับบริษัทได้นานขึ้น ทำให้บริษัทได้ทรัพยากรมนุษย์ที่ดีจากตลาดแรงงานในระดับ
มหาวทิ ยาลยั ซึง่ เปน็ ต ลาดแ รงงานท มี่ กี ารแ ขง่ ขนั ส งู และพ นกั งานข องบ รษิ ทั ม คี วามเขา้ ใจถ งึ ค ณุ คา่ ในก ารด ำเนนิ ก จิ การ
ของบริษัท
6 มิลตัน ฟรีดแมน กล่าวว่า “สิ่งเดียวที่สามารถมีความรับผิดชอบได้ คือ ปัจเจกบุคคล ... ธุรกิจไม่สามารถมีความรับผิดชอบได้
ดังน ั้น คำถาม คือ ผูบ้ ริหารบ ริษัท ภายใต้ก ารป ฏิบัติต ามก ฎหมาย มีค วามร ับผ ิดช อบในก ิจกรรมท างธ ุรกิจน อกเหนือไปจ ากก ารท ำให้เกิดเงินได้แก่
ผู้ถ ือหุ้นให้ม ากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หรือไม่ และค ำต อบของข้าพเจ้า คือ ไม่ เขาไม่มีความร ับผิดชอบดังกล่าว”
ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช