Page 22 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 22

8-20 พฤติกรรมม​ นุษย์​และ​จริยธรรมท​ าง​เศรษฐกิจและธุรกิจ

       การ​จัด​ทำ​รา​ยงานฯ จะ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​บริษัท​ใน​การ​ที่​จะ​ทำให้​ทราบ​จุด​อ่อน​และ​จุด​แข็ง​ของ​บริษัท เพื่อ​นำ​
ไป​ใช้​เป็น​แนวทาง​ใน​การ​ปรับปรุง​และ​พัฒนาการ​กำกับ​ดูแล​กิจ​กา​รของ​บริษัท รวม​ทั้ง​นำ​ไป​ใช้​ใน​กิจกรรม​การ​ส่ง​เสริม​
การ​กำกับด​ ูแล​กิจการท​ ี่ด​ ีอ​ ื่นๆ เช่น โครงการ SET Award ของต​ ลาดหลักทรัพย์​แห่งป​ ระเทศไทย และ Board of the
Year ของส​ มาคมส​ ง่ เ​สรมิ ส​ ถาบันก​ รรมการบ​ ริษทั ไ​ทย เป็นตน้ นอกจากน​ ัน้ โ​ครงการน​ ยี​้ งั ไ​ดร้​ ับก​ ารย​ อมรบั แ​ ละไ​ดร​้ บั ก​ าร​
บรรจุใ​ห้เ​ป็นส​ ่วนห​ นึ่งข​ องแ​ ผนง​ านใ​นก​ ารพ​ ัฒนาการก​ ำกับด​ ูแลก​ ิจการข​ องค​ ณะก​ รรมก​ าร​ บรรษัทภิบ​ าลแ​ ห่งช​ าติ ตั้งแต​่ 
พ.ศ. 2546 เป็นต้น​มา และ​ได้​รับ​การ​ยอมรับ​จาก​เครือ​ข่าย​สถาบัน​กรรมการ​ใน​ภูมิภาค​เอเชีย​ตะวัน​ออก (Institute
of Directors in East Asia Network) ให้​เป็นต้น​แบบ และจ​ นถึง​ พ.ศ. 2552 ได้​มี​ประเ​ทศ​ อื่นๆ อีก 4 ประเทศใ​น​
เครือ​ข่ายฯ ได้​นำไ​ป​ใช้เ​ป็นต้นแ​ บบใ​น​การ​สำรวจ​การก​ ำกับด​ ูแล​กิจการข​ องบ​ ริษัท​จด​ทะเบียนใ​นต​ ลาดท​ ุน​ของต​ น ได้แก่
ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ และอ​ ินโดนีเซีย

4. การเ​ข้า​รับ​การจ​ ดั ​อนั ดับข​ อง​ไทยใ​น​การจ​ ัดอ​ นั ดับ​ของ​ธนาคารโลก

       เมื่อ​ปลาย​  พ.ศ. 2546 คณะ​กรรม​กา​รบรรษัทภิ​บาล​แห่ง​ชาติ​ของ​ไทย​ได้​มี​มติ​ให้​ประเทศไทย​โดย ก.ล.ต
จดท​ ะเบียนเ​พื่อเ​ข้าร​ ับก​ ารป​ ระเมินจ​ ัดอ​ ันดับข​ องโ​ครงการป​ ระเมินผ​ ลก​ ารป​ ฏิบัติต​ ามม​ าตรฐานส​ ากลด​ ้านบ​ รรษัทภ​ ิบ​ าล
(Corporate Governance Report on the Observance of Standards and Codes: CG-ROSC) ซึ่งเ​ป็นการด​ ำเนิน​
การร​ ่วมก​ ันร​ ะหว่างธ​ นาคารโลกแ​ ละก​ องทุนก​ ารเ​งินร​ ะหว่างป​ ระเทศเ​พื่อว​ ัตถุประสงค์ 2 ประการ​ คือ เพื่อป​ รับปรุงค​ วาม​
สามารถใ​นก​ ารป​ ระเมินค​ วามเ​สี่ยงข​ องป​ ระเทศข​ องกองท​ ุนก​ ารเ​งินร​ ะหว่างป​ ระเทศแ​ ละข​ องธ​ นาคารโลก และเ​สริมส​ ร้าง​
สถาบันเ​ศรษฐกิจ​ของ​ประเทศใ​ห้ม​ ีค​ วามเ​ข้ม​แข็งโ​ดยป​ ฏิบัติต​ าม​มาตรฐานข​ ั้นต​ ่ำ​ของร​ ัฐบาล

       ลักษณะก​ ารป​ ระเมินเ​ป็นการป​ ระเมินต​ าม​หลักม​ าตรฐานส​ ากลข​ อง OECD ตามค​ ำร้องข​ อ​ของ​ประเทศต​ ่างๆ
โดยความ​สมัคร​ใจ และ​เมื่อ​ประเทศ​ต่างๆ ที่​เข้า​รับ​การ​ประเมิน​และ​ได้​รับ​ผล​การ​ประเมิน​แล้ว​จะ​ยินยอม​ให้​มี​การ​
เผย​แพร่​ผล​การ​ประเมิน​หรือ​ไม่​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​สมัคร​ใจ​ของ​ประเทศ​ที่​เข้า​ร่วม​ประเมิน การ​เผย​แพร่​ผล​การ​ประเมิน​
จะอ​ ำนวย​ประโยชน์แ​ ก่​ประเทศ​ที่เ​ข้า​ร่วม​ประเมิน 2 ด้าน คือ

            1) 	สามารถ​นำ​ผลก​ าร​ประเมิน​มาใ​ช้​เป็นเ​ครื่อง​มือ​ประชาสัมพันธ์เ​พื่อ​สร้าง​ภาพพจน์​ที่​ดี และส​ ร้าง​ความ​
เชื่อม​ ั่น​แก่น​ ักล​ งทุน และ​นำข​ ้อเ​สนอแ​ นะ​ไปป​ รับปรุง​การด​ ำเนินง​ าน​ให้ด​ ี​ยิ่งข​ ึ้น

            2) 	ประเทศผ​ ู้ล​ งทุนส​ ามารถน​ ำผ​ ลก​ ารป​ ระเมิน เป็นข​ ้อมูลป​ ระกอบใ​นก​ ารพ​ ิจารณาต​ ัดสินใ​จเ​ลือกล​ งทุน​
ในป​ ระเทศท​ ี่​มี​ระดับ​การ​ประเมิน​ที่ด​ ี

       ผล​การ​ประเมิน​ตาม​หลักก​ าร​ของ OECD ที่​แตก​ออกม​ า​เป็น 32 ข้อ เมื่อ​เดือนก​ ันยายน​ พ.ศ. 2548 ปรากฏว​ ่า​
ประเทศไทยผ​ ่าน​การ​ประเมิน 22 ข้อ หรือร​ ้อย​ละ 69 และ​อีก 10 อยู่​ใน​เกณฑ์​ที่ค​ วร​ปรับปรุง​แก้ไข​เพิ่มเ​ติม และ​ไม่มี​ข้อ​
ใด​ที่อ​ ยู่​ในเ​กณฑ์ท​ ี่ต​ ่ำก​ ว่าม​ าตรฐาน และ​มี​ผลก​ าร​ประเมินท​ ี่อ​ ยู่​ในร​ ะดับด​ ี​กว่าบ​ างป​ ระเทศใ​น​เอเชีย ตามต​ ารางท​ ี่ 8.2

                             ลิขสิทธ์ขิ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27