Page 27 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 27
จริยธรรมข องอ งค์กรธ ุรกิจ 8-25
เรื่องท ่ี 8.2.1
แนวคดิ ท่ัวไปของค วามรบั ผ ดิ ช อบของอ งคก์ รธุรกิจต ่อส ังคม
1. แนวคดิ เกย่ี วกบั ค วามร บั ผ ดิ ช อบขององค์กรธุรกิจตอ่ สังคม
การประกอบการขององค์กรธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายและมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
หลายปัจจัย เช่น ผู้ถือหุ้น ในฐานะผู้เป็นเจ้าของเงินทุนและเป็นเจ้าของก ิจการ ผู้บริหาร ในฐานะต ัวแทนข องเจ้าของ
กิจการในการดำเนินกิจการทั้งปวง เจ้าหนี้ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่กิจการ รัฐบาล ในฐานะผู้ได้
รับมอบอำนาจจากประชาชนให้เป็นผู้อนุญาตให้มีการเปิดกิจการและผู้ควบคุมการดำเนินกิจการให้อยู่ในขอบเขต
ของก ฎหมาย คู่ค้า ในฐานะเป็นผู้ข ายวัตถุดิบแ ละจัดหาอ ุปกรณ์ท ี่จำเป็นในการผลิตให้แ ก่กิจการ พนักงาน ในฐ านะ
ผู้ผลิตสินค้าและบริการ ลูกค้า ในฐานะผู้ซื้อหรือผู้บริโภคสินค้าและบริการ ชุมชน ในฐานะผู้อยู่ร่วมท้องถิ่นที่เป็น
ที่ตั้งของกิจการ และประชาชนทั่วไป ในฐานะผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรของประเทศและผู้เสียภาษีให้แก่รัฐบาลเพื่อ
รัฐบาลนำไปก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการประกอบ
ธุรกิจและมีลักษณะความสัมพันธ์ในลักษณะการพึ่งพาซึ่งกันและกัน ดังนั้นธุรกิจจะอยู่ได้ก็ต้องคำนึงถึงสังคม
ร อบข ้างด ้วย เนื่องจากธ ุรกิจถ ือเป็นส ่วนห นึ่งข องส ังคม ถ้าส ังคมอ ยู่ได้ธ ุรกิจก ็จ ะอ ยู่ได้ องค์กรธ ุรกิจจ ึงต ้องม ีส ่วนร ่วม
ในก ารรับผิดชอบต่อส ังคมด้วย
แนวคิดในเรื่องค วามร ับผ ิดช อบของอ งค์ธุรกิจต ่อส ังคมแ ม้จ ะเกิดขึ้นม าน านนับต ั้งแต่ช่วงการปฏิวัติอุตสาห-
กรรมในศตวรรษที่ 18 ที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงต่อพฤติกรรมของบริษัทที่จะมีผลต่อเงื่อนไขความเป็นอยู่ของ
คนงานและผลักดันให้บริษัทต้องมีส่วนเข้ามารับผิดชอบต่อคนงานและสังคมของคนงาน และในท้องถิ่นบางท้องถิ่น
ก็ม ีแ นวคิดของความรับผิดช อบข ององค์กรธ ุรกิจต ่อส ังคมแฝงตัวอยู่ม าช้านาน เช่น ผู้ประกอบการโรงงานในท้องถิ่น
จะมีส่วนรับผิดชอบต่อท้องถิ่นที่ตนเองเข้าไปตั้งโรงงานโดยการให้ความช่วยเหลือท้องถิ่นในรูปแบบต่างๆ เช่น การ
เข้าไปมีส่วนร ่วมในโครงการพ ัฒนาของท้องถ ิ่น การบริจาคเงินหรือส ิ่งของเมื่อท ้องถิ่นป ระสบป ัญหาภัยพิบัติ เป็นต้น
แต่การให้ความสนใจต่อความรับผิดชอบขององค์ธุรกิจที่มีต่อสังคมได้มีมากขึ้นหรือมีผู้กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง
มากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ สืบเนื่องจากเริ่มมีการตระหนักถึงปัญหาภยันตรายที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน เช่น ปัญหาด้าน
สิ่งแวดล้อม ปัญหาการก่อการร้าย ปัญหาสงครามนิวเคลียร์ ประกอบกับสภาวะของการดำเนินธุรกิจที่มีความสลับ
ซับซ ้อนม ากข ึ้น ไมว่ า่ จ ะเป็นข นาดข องธ ุรกิจท มี่ คี วามห ลากห ลายม ขี นาดเลก็ ต ัง้ แตร่ ะดับช ุมชน จนถึงร ะดับป ระเทศแ ละ
ระดบั บ รษิ ทั ข า้ มช าติ จงึ ม ปี ระเดน็ ท เี่ ขา้ ม าเปน็ ต วั แปรในก ารด ำเนนิ ธ รุ กจิ ม ากข ึน้ เชน่ เรือ่ งข องส ิง่ แ วดลอ้ ม สทิ ธมิ นษุ ยช น
ศีลธรรมและจริยธรรม
ในป ี พ.ศ. 2530 คณะกรร มาธิการ บรันท์แลนด์ (Brundtland Commission) ของสหประชาชาติ ได้กล่าวถึง
ความย ั่งยืนไว้ว ่า หมายถ ึง การที่ม นุษยชาติส ามารถสนองค วามต้องการข องต นท ั้งในปัจจุบันแ ละอนาคตท ี่ย าวไกลไป
ถึงล ูกหลานหลายช ั่วคน ทั้งนี้ความต ้องการข องมนุษย์มักเกี่ยวข้องก ับการบ ริโภค จึงมีธุรกิจทำหน้าที่ผลิตส ิ่งที่มนุษย์
ต้องการ ในก ารผลิตนั้นจ ำเป็นต้องใช้ทรัพยากรท ั้งท ี่มีอ ยู่เดิมตามธ รรมชาติแ ละท ี่ผลิตขึ้นใหม่ และเมื่อประชากรเพิ่ม
ความต้องการบริโภคเพิ่ม การผลิตก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และในหลายๆ กรณี การผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าความ
ต้องการบริโภค สืบเนื่องจากก ารแข่งขัน การเก็งก ำไร การช ่วงชิงลูกค้า ทำให้ม ีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าการ
ผลิตท รัพยากรธรรมชาตินั้นเข้ามาแ ทนที่ ขณะเดียวกันเกิดการแ ก่งแย่งการใช้ทรัพยากรอ ย่างไม่เป็นธรรมโดยอ าศัย
ความไดเ้ปรยี บด ้านท นุ หรอื ม ขี ้อก ฎหมายต า่ งๆ ทสี่ ร้างข ึน้ ม าเพือ่ ป กปอ้ งผ ลป ระโยชนท์ างธ รุ กจิ โดยล มื น ึกถึงธ รรมชาติ
ลขิ สทิ ธขิ์ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช