Page 237 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 237
เศรษฐศาสตร์แนวพ ุทธก ับจริยธรรมในทางเศรษฐกิจแ ละธุรกิจ 15-7
แก้ป ัญหาวิกฤตการณ์ข องค วามสัมพันธ์ท ั้ง 3 ระดับที่ม นุษย์เผชิญอยู่ คือ วิกฤตการณ์ค วามขัดแย้งร ะหว่างก ายแ ละ
จิตในตัวมนุษย์ที่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบของความคับข้องใจ และความทุกข์ต่างๆ วิกฤตการณ์ของความสัมพันธ์
ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่สะท้อนให้เห็นในรูปแบบของการเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนกันของมนุษย์ในสังคมใน
รูปแ บบต ่างๆ และว ิกฤตการณค์ วามส ัมพันธร์ ะหว่างม นุษยก์ ับธ รรมชาตทิ ีส่ ะท้อนใหเ้ห็นจ ากว ิกฤตการณท์ างธ รรมชาติ
รูปแบบต ่างๆ ที่ม นุษย์เผชิญอ ยู่
ในแง่ของพุทธศาสนา เรายอมรับกันว่า พระพุทธองค์มิได้ทรงแสดงออกโดยตรงว่าคำสอนส่วนใดเป็น
เศรษฐศาสตร์ เพราะค ำส อนของพ ระพุทธองค์มีความส มบูรณ์อ ยู่ในตัว คือ มีความหลากห ลายในความเป็นห นึ่งเดียว
ดังนั้น การจะพูดถึงเศรษฐศาสตร์แนวพุทธจึงเป็นเรื่องของการนำเอาคำสอนทางพุทธศาสนาที่เห็นว่าเป็นประโยชน์
เกื้อกูลมาใช้เป็นแ ม่บท ซึ่งเมื่อพิจารณาปรัชญาพื้นฐ านแ ล้วจ ะเห็นว ่าม ีค ำส อนห ลายๆ ส่วนข องพ ระพุทธองค์ท ี่ส ามารถ
นำม าตีค วามต ามท ัศนะท างเศรษฐศาสตร์ ในข ณะท ี่เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องข องก ารจ ัดสรรว ัตถุธ รรมให้ก ับช ีวิตเพื่อก ่อ
ให้เกิดค วามพ อใจส ูงสุด โดยร ู้ก ันในล ักษณะท ี่เรียกว ่า การก ินด ี อยู่ดี เศรษฐศาสตร์แ นวพ ุทธเป็นเรื่องข องก ารจ ัดสรร
วัตถุธรรมเพื่อการดำรงอยู่แห่งชีวิต โดยรู้กันในลักษณะที่ว่ากินแต่พอดี อยู่แต่พอดี และเพื่อเป็นเครื่องมือในการที่
จะสั่งสมคุณความดีและเพื่อดับทุกข์ในที่สุด (คณะกรรมการเฉพาะกิจของโครงการศึกษาเพื่อกำหนดหลักวิชาการ
พุทธเศรษฐศาสตร์ 2526)
อี เอฟ ชมู ากเกอร์ (E.F. Schumacher) ไดช้ ใี้หเ้หน็ ค วามม อี ยู่ ความส ำคัญ และค วามจ ำเป็นข องเศรษฐศาสตร์
แนวพ ุทธ (Buddhist Economics) ในหนังสือ จิ๋วแต่แจ๋ว (Small is Beautiful) โดยจ ับเอาห ลักธ รรมที่เรียกว่า มรรค
ซึ่งก็คือข ้อปฏิบัติที่ถ ูกต้องข องชาวพุทธที่ม ีอ งค์ป ระกอบอ ยู่ 8 ข้อ และองค์ป ระกอบข ้อหนึ่งค ือ สัมมาอ าชีวะ ซึ่งก็คือ
การเลี้ยงชีพชอบ และในเมื่อสัมมาอาชีวะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในมรรคหรือวิถีชีวิตของชาวพุทธ ก็แสดงว่าต้องมี
สิ่งที่เรียกว่า เศรษฐศาสตร์ช าวพุทธ แสดงว ่า สัมมาอ าชีวะ4 นั้นมีความส ำคัญม าก หรือว ่าเศรษฐกิจหรือกิจกรรมทาง
เศรษฐกิจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในทางพุทธศาสนาจึงได้จัดเป็นองค์มรรคขึ้นมาข้อหนึ่ง แสดงว่าพุทธศาสนายอมรับ
ความส ำคัญท างเศรษฐกิจ
พระธ รรมป ฎิ ก (ป.อ. ปย ตุ โต) พจิ ารณาว า่ จรยิ ธรรมแ ละค า่ น ยิ มห รอื ค ณุ คา่ ท างจ ติ ใจซ ึง่ เปน็ อ งคป์ ระกอบอ ยา่ ง
หนึ่งข องก ารด ำเนินช ีวิตข องม นุษยน์ ั้นม คี วามส ัมพันธแ์ ละม คี วามส ำคัญก ับเศรษฐกิจแ ละเศรษฐศาสตรเ์ป็นอ ย่างม าก5
และโดยที่ก ิจกรรมท างเศรษฐกิจเป็นกิจกรรมท ี่ครองเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตม นุษย์ หากเราส ามารถท ำให้กิจกรรมทาง
เศรษฐกิจท ุกอย่างไม่ว ่าจ ะเป็น การผ ลิต การท ำงาน การบ ริโภค และก ารแจกจ่ายท รัพย์ เป็นต้น เป็นก ิจกรรมในการ
สร้างคุณภาพชีวิต หรือเอื้อให้เกิดการสร้างคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ก็จะทำให้วิชาเศรษฐศาสตร์
มีคุณค่าอ ย่างแ ท้จริงในก ารแ ก้ป ัญหาข องมนุษย์ ดังนั้น เศรษฐศาสตร์แ นวพ ุทธจ ึงเป็นเศรษฐศาสตร์ม ัชฌิมาป ฏิปทา
เน้นที่ความถูกต้องพอดีของการผสมผสานการพัฒนาทางวัตถุพร้อมๆ ไปกับการพัฒนาทางด้านจิตใจ โดยไม่ก่อให้
เกิดก ารเบียดเบียนต นเอง ผูอ้ ื่น ตลอดจ นน ำไปส ูก่ ารส ร้างค วามเกื้อกูลซ ึ่งก ันแ ละก ันข องส รรพช ีวิตแ ละส ภาพแ วดล้อม
(พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต) 2531)
4 มองในทางตรงกันข้ามก็มีความหมายว่า สัมมาอาชีวะหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นเป็นเพียงองค์ประกอบอย่างหนึ่งในนานาองค์
ประกอบข องว ิถีช ีวิตท ี่ถูกต้องที่จะแก้ปัญหาข องมนุษย์ได้ นั่นคือว ิถีช ีวิตในท างเศรษฐกิจจ ะต้องดำเนินค วบคู่ไปกับว ิถีช ีวิตในม ิติอ ื่นๆ จึงจ ะทำให้
เกิดว ิถีช ีวิตท ี่ถูกต ้อง
5 ตัวอย่างเช่น ถ้าพลเมืองในประเทศเป็นคนมีระเบียบวินัย ช่วยกันรักษาความสะอาด ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง รัฐก็ไม่ต้องเสียเงิน
มากเพื่อจ้างค นเก็บก วาดขยะจ ำนวนม ากมาย และใช้อ ุปกรณ์ที่สิ้นเปลืองน ้อย ทำให้ป ระหยัดเงินที่จะใช้จ่าย หรือในทางต รงกันข้าม ถ้าพ ่อค้าหรือ
ผู้ประกอบการเห็นแก่ได้ ต้องการลงทุนน้อย แต่ให้ขายของได้ดี กำไรมาก ก็อาจเลือกใช้ส่วนประกอบที่ไม่ได้มาตรฐานปรุงเข้าไปในผลิตภัณฑ์
ทำให้เกิดอ ันตราย มผี ลเสียต ่อส ุขภาพข องผ ู้บ ริโภค เมื่อผ ู้บ ริโภคเสียส ุขภาพแ ล้ว กต็ ้องเสียค ่าใชจ้ ่ายส ิ้นเปลืองในก ารร ักษาพ ยาบาล แล้วก ็ต ้องเสีย
ค่าใช้จ ่ายในการต รวจจ ับดำเนินค ดีอ ีก
ลขิ สิทธิ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช