Page 242 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 242

15-12 พ​ ฤติกรรมม​ นุษย์แ​ ละจ​ ริยธรรมท​ างเ​ศรษฐกิจ​และธ​ ุรกิจ

            3) 	สัมมา​วาจา หรือ วาจา​ชอบ (right speech) คือ การ​เว้น​จาก​การ​พูด​เท็จ หลอก​ลวง ชวน​เชื่อ
ส่อ​เสียด และพ​ ูด​เพ้อ​เจ้อ แต่ต​ ้องพ​ ูดค​ วาม​จริงท​ ี่​สุภาพ และ​ก่อ​ให้​เกิดป​ ระโยชน์

            4) 	สมั มาก​ มั ม​ นั ต​ ะ หรอื การกร​ ะท​ ำช​ อบ (right action) คกื การเ​วน้ จ​ ากก​ ารกร​ ะท​ ำท​ ที​่ ำลายช​ วี ติ (ปาณา​
ติปา​ตา) การ​ยึดถือเ​อา​ของท​ ี่เ​ขา​มิได้​ให้ (อทินนาทานา) และก​ าร​ละเมิด​ใน​สิ่งท​ ี่​ผู้​อื่น​รักใ​คร่​หวงแหน (กาเ​ม​สุม​ ิฉา​จาร​ า)

            5) 	สัมมาอ​ าชีวะ หรือ การเ​ลีย้ งช​ พี ช​ อบ (right livelihood) คอื การเ​ลีย้ งช​ ีพด​ ว้ ยอ​ าชพี ท​ ีส่​ ุจริต แสวงหา​
ผลต​ อบแทน (ทรัพย์) โดยช​ อบ ไมก่​ ่อใ​หเ้​กิดก​ ารข​ ่มเหงเ​บียดเบียนต​ ่อผ​ ูอ้​ ื่นใ​นส​ ังคม เช่น การค​ ้าอ​ าวุธ การค​ ้าย​ าเ​สพต​ ิด
หรือข​ อง​มึนเมา เป็นต้น

            6) 	สัมมา​วายามะ หรือ ความ​เพียร​ชอบ (right effort) คือ การ​สร้าง​ฉันทะ​ใน​การ​ระดม​ความ​เพียร​
ความ​พยายาม​โดย​ใช้​สติสัมปชัญญะ​และ​ปัญญา​กำกับ เพื่อ​ให้​สามารถ​ทำงาน​ได้​อย่าง​ประสาน​สอดคล้อง​กับ​มรรค​ข้อ​
อื่นๆ ในก​ าร​ผลัก​ดันใ​ห้ม​ ุ่ง​ไปส​ ู่​เป้าห​ มายข​ องช​ ีวิต​ที่ด​ ี​งาม

            7) 	สัมมา​สติ หรือ ความร​ ะลึก​ชอบ (right mindfulness) คือ ความร​ ะลึก​ตัว​ทั่วพ​ ร้อม​ทั้ง​กาย วาจา
และ​ใจ ให้การ​ดำเนินช​ ีวิตเ​ป็นการ​ประพฤติ​ปฏิบัติท​ ี่ม​ ี​สติ​กำกับอ​ ยู่​เสมอ เพื่อ​ตั้ง​อยู่​ใน​ความไ​ม่ป​ ระมาท

            8) 	สัมมาส​ มาธิ หรือ ความต​ ั้งใจช​ อบ (right concentration) คือ ความต​ ั้งม​ ั่นข​ องจ​ ิตจ​ ากอ​ กุศลธ​ รรม​
ทั้งห​ ลายโ​ดยป​ ราศจาก​ความฟ​ ุ้งซ่านก​ ระวนกระวาย และก​ ำหนด​จิตแ​ น่ว​แน่​ต่อค​ วามส​ งบเ​พื่อ​เข้าส​ ู่ส​ ภาว​จิตท​ ี่​เหมาะ​สม​
แก่ก​ ารใ​ช้ง​ าน​ของป​ ัญญาใ​นก​ าร​เรียนร​ ู้​และ​เข้าใจส​ ิ่งต​ ่างๆ

       มรรคม​ ี​องค์ 8 นี้ใ​น​อีก​นัยห​ นึ่งก​ ็ค​ ือ กระบวนการฝ​ ึกฝน​และ​พัฒนาม​ นุษย์​ใน​รูป​ของ​สิกขา 3 หรือ​ข้อป​ ฏิบัติ​ที่​
ต้องศ​ ึกษา 3 อย่างท​ ีเ่​รียกว​ ่าไ​ตรสิกขา (three fold training) อันป​ ระกอบไ​ปด​ ้วย สว่ นแ​ รก เ​ป็นส​ ่วนข​ อง​ “ปัญญาส​ ิกขา”
ที่​เป็นการ​สร้าง​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​ที่​ถูก​ต้อง​ต่อ​เป้า​หมาย​และ​วิธี​การ​ที่​มนุษย์​ควร​แสวงหา​และ​มุ่ง​ไป​สู่ เป็นการ​พัฒนา​
ส่วนข​ อง​ปัญญาใ​ห้​พ้น​จากโ​ลก​ทัศน์ ชีว​ทัศน์​ที่บ​ ิดเบือน (อวิชชา) ให้​เข้าถ​ ึง​ความร​ ู้​แจ้งห​ รือ​โลก​ทัศน์ ชีว​ทัศน์​ที่​ถูก​ต้อง
ปัญญาส​ ิกขาป​ ระกอบไ​ปด​ ้วยค​ วามเ​ห็นช​ อบแ​ ละค​ วามด​ ำริช​ อบ ส่วน​ที​ส่ อง ​เป็นส​ ่วนข​ อง​ “ศีลส​ ิกขา” ที่​เป็นการ​ควบคุม​
พฤติกรรมภ​ ายนอกข​ องม​ นุษย์ท​ ี่ร​ วม​เอาการป​ ระพฤติท​ างก​ าย วาจา และ​การ​เลี้ยง​ชีพ​ชอบ​เข้าเ​ป็นก​ระบ​ วน​การ​ดำเนิน​
ชีวิตท​ ี่ด​ ี​งามเ​หมาะ​สม ศีล​สิกขา​ประกอบด​ ้วย สัมมา​กัม​มัน​ตะ สัมมาว​ าจา และส​ ัมมาอ​ าชีวะ สว่ นท​ ี่​สาม เ​ป็น​ส่วน​ของ​
“สมาธิส​ ิกขา” เป็น​ส่วน​ของก​ าร​สร้างพ​ ลังท​ างจ​ ิตใจ​ให้​ตั้งม​ ั่น​ใน​กุศล​ธรรม ปรับปรุงจ​ ิตใ​ห้​มีค​ ุณภาพ​และ​สมรรถภาพ​สูง
เพื่อก​ ่อใ​ห้​เกิดค​ วาม​เพียรพ​ ยายาม​ที่เ​หมาะ​แก่​การใ​ช้ง​ าน เพื่อใ​ห้​บรรลุ​ตาม​เป้าห​ มายท​ ี่ต​ ั้งไ​ว้ ซึ่งก​ ็​คือ​การด​ ับ​ทุกข์ สมาธิ​
สิกขา​ประกอบไ​ปด​ ้วย สัมมา​วายามะ สัมมาส​ ติ สัมมาส​ มาธิ

       สิกขาท​ ั้ง 3 ส่วนน​ ี้เ​ป็นอ​ งค์ป​ ระกอบท​ ี่ต​ ้องเ​อื้ออ​ าศัย​และส​ ่งเ​สริมซ​ ึ่งก​ ันแ​ ละก​ ันท​ ั้งพ​ ฤติกรรม จิตใจ และป​ ัญญา​
โดย​ไม่​สามารถ​ละทิ้ง​ส่วน​ใด​ส่วน​หนึ่ง​ให้​พร่อง​ไป​ได้ เนื่องจากพฤติกรรม​ที่​เหมาะ​สม​ของ​มนุษย์​ที่​สอดคล้อง​ไป​กับ​ศีล​
สิกขา​จะ​ทำได้​อย่าง​มั่นคง​ต้อง​เป็น​ไป​ภาย​ใต้​การ​ใช้​ปัญญา​ไตร่ตรอง​แสวงหา​เหตุผล​มาส​นับ​สนุน​ตาม​ความ​เป็น​จริง​
ภาย​ใต้​สมาธิ​จิต​ที่​มุ่ง​มั่น​เท่านั้น ส่วน​การ​ใช้​ปัญญา​จะ​ไม่​เกิด​ผล​ถ้า​ขาด​ความ​เพียร​พยายาม​และ​สมาธิ​ที่​แน่ว​แน่​มั่นคง
ตลอด​จน​ไม่​ก่อ​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แป​ลง​ใดๆ ที่​ลึก​ซึ้ง​หาก​ขาด​การนำ​มา​ประยุกต์​ใช้​ฝึกฝน​ให้​เห็น​จริง​ใน​การ​ดำรง​ชีวิต
ส่วน​สมาธิ​สิกขา​ที่​เกิดข​ ึ้นจ​ ะไ​ม่​สร้างค​ ุณ​ค่าใ​ดๆ ถ้า​ไม่มี​ปัญญา​คอยช​ ี้นำ​ไปส​ ู่​เป้าห​ มายท​ ี่แท้​จริงท​ ี่​สะท้อนอ​ อก​มาใ​ห้​เห็น​
ในก​ ารป​ ระพฤติป​ ฏิบัติจ​ ริงเ​ท่านั้น ดังน​ ั้น​ การฝ​ ึกฝนท​ ั้ง 3 ส่วนน​ ี้จ​ ะต​ ้องด​ ำเนินค​ วบคู่ก​ ันไ​ปอ​ ย่างป​ ระสานส​ อดคล้องก​ ัน​
เพื่อ​ขจัดร​ ากฐานข​ องค​ วามร​ ุนแรงข​ อง​มนุษย์​และ​สังคม​อันเ​กิด​จากค​ วาม​ไม่รู้ (อวิชชา) ลงเนื่องจากเ​มื่อม​ นุษย์ส​ ามารถ​
สร้าง​ความเ​ข้าใจแ​ ละ​กระทำ​หน้าที่ข​ องต​ น​อย่างเ​หมาะส​ มแล้ว มนุษย์​ก็​สามารถท​ ี่จ​ ะ​เข้าไปส​ ัมพันธ์​กับ​ชีวิต สังคม และ​
ธรรมชาติ​ได้โ​ดยไ​ม่ก​ ่อใ​ห้เ​กิด​ปัญหา​หรือ​ทุกข์​ในท​ ุก​ระดับข​ อง​ความส​ ัมพันธ์ (กุล​ลิ​นี มุทธา​กลิน 2540)

                             ลิขสิทธิข์ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช
   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246   247