Page 245 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 245
เศรษฐศาสตร์แ นวพุทธก ับจริยธรรมในท างเศรษฐกิจและธุรกิจ 15-15
มนุษย์ในทัศนะของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธจึงเป็นมนุษย์ที่มีศักยภาพในทางบวก10 ที่สามารถที่จะทำการ
พัฒนาฝึกฝนตนเองเพื่อข จัดโลกทัศน์ช ีวทัศน์ที่ผ ิดพลาดบ ิดเบือน ขจัดอวิชชาหรือค วามไม่รู้ออกไป และส ร้างป ัญญา
หรือวิชชาอันเป็นความรู้ให้เกิดขึ้น ซึ่งศักยภาพในทางบวกที่มนุษย์มีนี้จะส่งผลกระทบก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมของมนุษย์ในด้านต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจให้เปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบของ
พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาหรือทุกข์ไปเป็นรูปแบบของพฤติกรรมที่ขจัดปัญหาหรือความทุกข์ในทุกๆ ระดับของ
ความส ัมพันธ์ของม นุษย์
การพิจารณาพฤติกรรมของมนุษย์ในทางเศรษฐกิจของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ มีความแตกต่างจากการ
พิจารณาพ ฤติกรรมข องม นุษย์ในท างเศรษฐกิจข องเศรษฐศาสตร์ มนุษย์ในท ัศนะข องเศรษฐศาสตร์ เป็นป ัจเจกบุคคล
ทีม่ คี วามต ้องการอ ันไมจ่ ำกัด และเป็นผ ูม้ เีสรีภาพท ีด่ ำเนินก ารต ัดสินใจอ ย่างม เีหตมุ ผี ล โดยม เีป้าห มายเพื่อต อบส นอง
ตอ่ ผ ลป ระโยชนส์ ว่ นต น มนษุ ยจ์ งึ ม พี ฤตกิ รรมแ ละป ฏสิ มั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ ในร ปู แ บบท สี่ ามารถค าดค ะเนแ ละท ำความ
เข้าใจได้ ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้บริโภค การตัดสินใจที่จะบริโภคสินค้าหรือบริการอ ะไรย่อมดำเนินไปอย่างมีเหตุม ีผล
และแสดงออกถึงความต้องการอันเอื้อต่อความพึงพอใจของตนเองมากที่สุดภายใต้งบประมาณอันจำกัดที่ตนมีอยู่
หรือส ำหรับผ ูผ้ ลิตแ ล้ว การท ีเ่ขาจ ะต ัดสินใจท ำการผ ลิตส ินค้าห รือบ ริการอ อกม าข ายแ ละจ ะผ ลิตอ อกม าข ายในป ริมาณ
เท่าใด กย็ ่อมต ้องข ึ้นอ ยูก่ ับว ่าผ ูผ้ ลิตน ั้นส ามารถจ ัดสรรก ารใชป้ ัจจัยก ารผ ลิตท ีม่ อี ยูใ่ หเ้กิดป ระสิทธิภาพห รือใหม้ ตี ้นทุน
ต่ำท ี่สุดภายใต้ง บประมาณที่ม ีอ ยู่ได้อ ย่างไร
อย่างไรก ็ตาม สำหรับเศรษฐศาสตรแ์ นวพ ุทธแ ล้วธ รรมชาตขิ องค วามต ้องการข องม นุษยท์ ีม่ ีอ ยูอ่ ย่างไม่จ ำกัด
(unlimited want) เป็นการพ ิจารณาเพียงด ้านเดียวข องค วามต ้องการเท่านั้น ในเรื่องค วามต ้องการข องม นุษย์น ี้ แม้ว่า
เศรษฐศาสตร์แนวพุทธจ ะเห็นต รงก ับเศรษฐศาสตร์อย่างห นึ่งว ่า มนุษย์ม ีค วามต ้องการไม่จำกัดห รือไม่สิ้นสุด แต่ข้อ
แตกต่างคือ พุทธศ าสนาเน้นย้ำว ่าความต้องการข องมนุษย์นั้นมีความแ ตกต ่างกันในเชิงค ุณภาพอยู่ 2 ระดับ
ความต้องการป ระเภทแรก เรียกว่า ความต้องการเสพสิ่งปรนเปรอ เป็นความต้องการที่ไม่จำกัด ที่เรียกว่า
“ตัณหา” ซึ่งนำไปสู่คุณค่าเทียม คือคุณค่าเพื่อสนองความอยากเสพสิ่งปรนเปรอตน ความต้องการเรียกว่า ความ
ต้องการคุณภาพชีวิต ที่เป็นค วามต้องการที่ม ีข อบเขตจำกัด ที่เรียกว่า “ฉันทะ” ซึ่งนำไปส ู่คุณค่าแท้ คือ คุณค่าที่ส นอง
ความต ้องการคุณภาพชีวิต
ความต ้องการท ั้ง 2 ประเภทข องม นุษย์น ี้ม ักจ ะม ีป ัญหาข ัดแ ย้งก ันเอง เช่น ในก ารบ ริโภคอ าหาร ผู้บ ริโภคย ่อม
มคี วามต ้องการท ั้ง 2 ประเภทซ ้อนก ันอ ยู่ ในก ารบ ริโภค มนุษยโ์ดยท ั่วไปอ าจไมค่ ่อยไดต้ ระหนักถ ึงเป้าห มายท ี่แทจ้ ริงท ี่
เป็นสาระจ ากก ารบ ริโภคอาหารคือ ความต้องการคุณภาพชีวิต โดยนำเอาอ าหารที่บริโภคมาห ล่อเลี้ยงชีวิตให้ม ีสุขภาพ
กายท สี่ มบรู ณแ์ ขง็ แ รง เนือ่ งจากม นษุ ยม์ กั ต ระหนกั ร แู้ ตค่ วามต อ้ งการเสพส ิง่ ป รนเปรอ เปา้ ห มายด า้ นท ปี่ รากฏ แ กม่ นษุ ย์
คือ ต้องการบ ริโภคอ าหารเพื่อร สชาติ เพื่อค วามอ ร่อย จ นในบ างค รั้งค วามต ้องการบ ริโภคเพื่อค วามเอร็ดอร่อยน ีอ้ าจจ ะ
ขัดแ ย้งก ับค วามต ้องการค ุณภาพช ีวิต หรืออ าจจ ะก ลับม าท ำลายค ุณภาพช ีวิต เช่น ความต ้องการเสพร สท ำให้ผ ู้บ ริโภค
แสวงหาอ าหารท ีร่ สชาตดิ ที ี่สดุ ถกู ปากท ี่สดุ แตอ่ าจจ ะม กี ารป รงุ แ ตง่ ร สอ าหาร กลิน่ สี จนอ าจจ ะเปน็ โทษต ่อร า่ งกาย หรอื
เป็นอันตรายต่อส ุขภาพ หรือผู้บริโภคที่บ ริโภคโดยมีเป้าหมายเพื่อเสพความอร่อย ก็อ าจจะบ ริโภคโดยไม่มีประมาณ
บริโภคมากเกินไป จนกระทั่งท ำให้เกิดโรคต ่างๆ ที่เป็นอ ันตรายต ่อสุขภาพ และทำให้เสียคุณภาพชีวิต
10 ในทัศนะข องพุทธศาสนา การที่มนุษย์เป็นส ัตว์ที่ฝึกได้และต้องฝึกนั้น เป็นแกนสำคัญข องจริยธรรมในพุทธศาสนา หลักก ารน ี้ถือว่า
ความป ระเสริฐข องม นุษยอ์ ยู่ท ี่ก ารฝ ึกฝนพ ัฒนา ถ้าไม่พ ัฒนาแ ล้วม นุษยไ์มป่ ระเสริฐ และม นุษยเ์มื่อพ ัฒนาแ ล้วส ามารถเข้าถ ึงอ ิสรภาพแ ละค วามส ุข
ได้จ ริง (พระธ รรมป ิฎก 2539)
ลขิ สทิ ธข์ิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช