Page 249 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 249
เศรษฐศาสตร์แ นวพ ุทธกับจ ริยธรรมในทางเศรษฐกิจและธ ุรกิจ 15-19
ดังนั้น ในการตอบสนองความต ้องการทางว ัตถุหรือก ารพ ัฒนาท างเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์แนวพุทธม ิได้ให้
ความส ำคัญก ับก ารส ร้างค วามเจริญห รือค วามม ั่งคั่งท างว ัตถุแ ต่เพียงด ้านเดียวเท่านั้น เนื่องจากต ระหนักด ีว ่าค วามส ุข
ที่ม นุษย์ต ้องการม ิได้เกิดจ ากว ิถีช ีวิตท ี่อ ิงอ าศัยก ับก ารค รอบค รองบ ริโภคห รือส ะสมแ ต่ว ัตถุป ัจจัยต ่างๆ ในเชิงป ริมาณ
เป็นห ลัก หากแต่ย ังได้เสนอรูปแบบแห่งก ารด ำรงช ีวิตท ี่มีค ุณภาพที่แตกต ่างอ อกไปในระดับท ี่สูงข ึ้น โดยรูปแบบก าร
ดำรงชีวิตในร ะดับท ี่ส ูงข ึ้นค ือ การค รอบครองบริโภคหรือส ะสมวัตถุป ัจจัยในปริมาณท ี่น้อยล ง
ในเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ประโยชน์หรืออัตถะนั้นมี 3 ระดับ เรียกว่าประโยชน์เบื้องต้น ประโยชน์
ท่ามกลาง และประโยชน์ส ูงสุด หรือจุดหมายเบื้องต ้น จุดห มายท ่ามกลาง และจุดหมายส ูงสุด จุดห มายเบื้องต้นก ็คือ
ทิฎฐธัมมิก ัตถะ แปลว่า ประโยชน์ทันตาเห็น เป็นป ระโยชน์ที่มีค วามม ั่งคงเพียงพ อทางเศรษฐกิจร วมอ ยู่เป็นข ้อสำคัญ
เนื่องจากเป็นป ระโยชน์ในป ัจจุบันเพื่อแ สวงหาค วามส ุขท ี่ได้จ ากก ารม ีก ารค รอบค รอง รวมถ ึงบ ริโภคส ินค้าแ ละบ ริการ
ต่างๆ แต่ประโยชน์ในท างเศรษฐกิจหรือจุดมุ่งห มายในท างเศรษฐกิจน ี้ จะต้องเป็นไปเพื่อป ระสานเกื้อกูลต่อจ ุดหมาย
อีกส องอย่างท ี่สูงขึ้นไป คือ สัมปรายิกัตถะ หรือประโยชน์ท ่ามกลาง อันเป็นประโยชน์ในทางจิตใจ ในทางคุณธรรม ใน
ทางคุณภาพช ีวิต เป็นค วามสุขท ี่ไปพ้นจากก ารม ีการค รอบค รอง และป รมัต ถะ หรือประโยชน์สูงสุด อันเป็นจุดหมาย
สูงสุด ได้แก่ การพ ัฒนาจ ิตไปสู่ค วามเป็นอ ิสระ เป็นจิตท ี่พ ้นไปจ ากค วามสุข ความท ุกข์ พ้นจ ากค วามดีความช ั่ว
ด้วยเหตุน ี้ ในท ัศนะข องเศรษฐศาสตร์แ นวพ ุทธ แม้ว่าก ารพ ัฒนาเศรษฐกิจจ ะเป็นเงื่อนไขท ี่ส ำคัญห รือจ ำเป็น
แต่เป็นเงื่อนไขท ี่ย ังไม่เพียงพอที่จ ะก ่อให้เกิดประโยชน์หรือบ รรลุถึงจุดม ุ่งห มายท ั้งส ามระดับ คือ ประโยชน์เบื้องต้น
ประโยชน์ท่ามกลาง และประโยชน์ส ูงสุด ดังน ั้นในทัศนะข องเศรษฐศาสตร์แ นวพ ุทธ การพัฒนาท ี่เน้นการพ ัฒนาทาง
เศรษฐกิจเป็นการพ ัฒนาที่เน้นประโยชน์ห รือจ ุดมุ่งหมายเบื้องต้นเท่านั้น การพ ัฒนาที่แท้จ ริงต้องครอบคลุมม ิติอื่นๆ
อย่างเช่น การพ ัฒนาค ุณภาพช ีวิตข องม นุษย์แ ละส ิ่งแ วดล้อม รวมถ ึงก ารพ ัฒนาค ุณธรรมแ ละป ัญญา อันเป็นป ระโยชน์
ท่ามกลาง ซึ่งจ ะเป็นฐ านไปส ู่ก ารพ ัฒนาเพื่อค วามห ลุดพ ้นท ี่เรียกว ่า “นิพพาน” อันเป็นป ระโยชน์ห รือจ ุดม ุ่งห มายส ูงสุด
นั่นเอง
ดังนั้น การวัดระดับการพ ัฒนาป ระเทศด้วยม ูลค่าของส ินค้าแ ละบริการอ ย่าง ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ
หรือรายได้ประชาชาติ ที่แสดงถ ึงอ ัตราก ารเติบโตท างเศรษฐกิจข องประเทศจึงไม่สามารถค รอบคลุมถึงการพัฒนาใน
ระดับที่สูงกว่าอย่างประโยชน์ท่ามกลางและสูงสุดได้ สำหรับเศรษฐศาสตร์แนวพุทธการวัดระดับการพัฒนาประเทศ
จะต้องขยายจากการวัดในเชิงปริมาณไปสู่มิติเชิงคุณภาพ จากประโยชน์เบื้องต้นไปสู่ประโยชน์ท่ามกลางและสูงสุด
ตัวอย่างเช่น การเข้าถ ึงค วามสามารถของมนุษย์ข อง อมาตยา เซน ซึ่งน ักศึกษาได้ศึกษาไปแล้วในหน่วยที่ 13 และการ
เข้าถึงค วามส ุขมวลรวมป ระชาชาติ ซึ่งนักศึกษาได้ศึกษาไปแ ล้วในหน่วยที่ 11
กล่าวโดยสรุป การพัฒนาเศรษฐกิจในทัศนะของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธเป็นเพียงหนทางหรือเครื่องมือเข้า
ถึงคุณภาพชีวิตที่ได้ดุลยภาพข องมนุษย์ สังคม และธรรมชาติ เศรษฐศาสตร์แ นวพุทธจึงมิได้ให้ความสำคัญกับเป้า
หมายข องการส ร้างความเจริญห รือค วามมั่งคั่งท างว ัตถุแต่เพียงอ ย่างเดียวเท่านั้น หากแ ต่ยังได้เสนอรูปแบบแ ห่งก าร
ดำรงช ีวิตท ี่ม ีค ุณภาพที่แ ตกต ่างอ อกไปโดยเน้นให้เกิดป ระโยชน์ในท างจ ิตใจ คุณภาพชีวิต และค ุณธรรม โดยอ ิงอ าศัย
หรือข ึ้นต ่อวัตถุน้อยล ง
ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช