Page 240 - พฤติกรรมมนุษย์และจริยธรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ
P. 240

15-10 พ​ ฤติกรรม​มนุษย์แ​ ละจ​ ริยธรรมท​ าง​เศรษฐกิจแ​ ละ​ธุรกิจ

มาก​ที่สุด เพราะ​มนุษย์​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ธรรมชาติ ดัง​นั้น​  ชีวิต​และ​การก​ระ​ทำ​ของ​มนุษย์​ย่อม​เป็น​ไป​ตาม​และ​มี​
ส่งผ​ ลต​ ่อร​ ะบบค​ วามสัมพันธ์แ​ ห่งเ​หตปุ​ ัจจัยด​ ้วยพฤติกรรมห​ รือก​ ิจกรรมต​ ่างๆ ทางเ​ศรษฐกิจไ​มว่​ ่าจ​ ะเ​ป็นการผ​ ลิต การ​
บริโภค รวม​ถึง​การ​ดำเนินธ​ ุรกิจจ​ ะต​ ้อง​พิจารณาอ​ ยู่​ภายใต้​ความ​สัมพันธ์ท​ ี่อ​ ิงอ​ าศัยก​ ัน​และก​ ันน​ ี้ กล่าว​คือ พฤติกรรม​
ต่างๆ ของ​มนุษย์​นั้น ส่ง​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​ภายนอก กระทบ​ต่อ​ตัว​เอง และ​ใน​ขณะ​เดียวกัน สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ภายนอก ก็​มี​
ผลกร​ ะท​ บ​ต่อต​ ัวม​ นุษย์​ด้วย

       นอกจากพ​ ุทธธ​ รรมจ​ ะพ​ ิจารณาถ​ ึงห​ ลักแ​ ห่งก​ ารอ​ ิงอ​ าศัยซ​ ึ่งก​ ันแ​ ละก​ ันข​ องส​ รรพส​ ิ่งแ​ ล้ว ยังไ​ด้ก​ ล่าวถ​ ึง กฎข​ อง​
ไตรลักษณ์ (The three characteristic of existence) ใน​ฐานะ​ที่​แสดง​ให้​เห็นถ​ ึง​การ​เปลี่ยนแปลงท​ ี่เ​ป็น​สากล​ของ​
สรรพ​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​ภาย​ใต้ค​ วาม​เป็น​ไป 3 ประการ ดังนี้​คือ

            1) 	อนิจ​จ​ตา (impermanence) คือ ความ​ไม่​เที่ยง ความ​ไม่​คงที่ ความ​ไม่​ยั่งยืน และ​ภาวะ​ที่​เกิด​ขึ้น​
แล้ว​เสื่อมส​ ลาย​ไป

            2) 	ทุกขต​ า (stress and conflict) คือ ความเ​ป็น​ทุกข์ ภาวะ​ที่ถ​ ูกบ​ ีบ​คั้นด​ ้วยก​ าร​เกิด​ขึ้น และส​ ลาย​ตัว
ภาวะท​ ีก่​ ดดัน ฝืนแ​ ละข​ ัดแ​ ย้งอ​ ยูใ่​นต​ ัว เพราะป​ ัจจัยท​ ีป่​ รุงแ​ ต่งใ​หม้​ สี​ ภาพเ​ป็นอ​ ย่างน​ ั้นเ​ปลี่ยนแปลงไ​ปจ​ นท​ ำใหค้​ งอ​ ยูใ่​น​
สภาพน​ ั้นไ​ม่ไ​ด้

            3) 	อนัตตา (non-self) คือ ความเ​ป็นอ​ นัตตา ความ​ไม่ใช่​ตัวต​ น ความไ​ม่มีต​ ัวต​ น​ที่แท้​จริง (พระธ​ รรม-​
ปิฎก 2538)

       สภาพ​ความ​ไม่​แน่นอน​ของ​สรรพ​สิ่ง​ตาม​หลัก​ของ​อนิจจัง ทุก​ขัง และ​อนัตตา​นั้น​เป็น​ความ​จริง​หรือ​สัจธรรม​
ที่​แสดง​ตัว​ของ​มัน​เอง​ตาม​ธรรมชาติ​อยู่​ตลอด​เวลา แต่​มนุษย์​มัก​จะ​มอง​ไม่​เห็น​ถ้า​ไม่​ได้​มี​ความ​ใส่ใจ​ใน​การ​พิจารณา
เนื่องจาก​มนุษย์​มัก​ยึด​เกาะ​กับ​โลก​ทัศน์​และ​ชีว​ทัศน์​ที่​ตั้ง​อยู่​บน​สมมติฐาน​ของ​การ​ดำรง​อยู่​ที่​เที่ยง​แท้​และ​ถาวร โลก​
ของค​ วามม​ ั่งนคงแ​ น่นอนท​ ี่ม​ นุษย์ส​ ร้างข​ ึ้นจ​ ึงไ​ม่มี เนื่องจากม​ นุษย์ไ​ม่ส​ ามารถท​ ี่จ​ ะแ​ ยกต​ ัวเ​องอ​ อกม​ าจ​ ากธ​ รรมชาติแ​ ละ​
กฎข​ องธ​ รรมชาติท​ ี่ค​ วบคุมอ​ ยู่ ดังน​ ั้นค​ วามท​ ุกข์จ​ ึงเ​กิดข​ ึ้น เนื่องจากม​ นุษย์ไ​ด้ส​ ร้างโ​ลกอ​ ันเ​อื้อใ​ห้เ​กิดค​ วามท​ ุกข์ คือโ​ลก​
แห่งค​ วามม​ ั่นคงเ​ที่ยงแ​ ท้ท​ ี่ข​ ัดแ​ ย้งก​ ับก​ ฎข​ อง​ อนิจจัง ทุกข​ ัง และอ​ นัตตา​ อันเ​ป็นก​ ฎข​ องธ​ รรมชาติ​ขึ้นม​ า9 ดังน​ ั้น สำหรับ
พุทธ​ธรรม​แล้ว​มนุษย์​จะ​สามารถ​หลุด​พ้น​ไป​จาก​ความ​ทุกข์​หรือ​ความ​กดดัน​บีบ​คั้น​นี้​ได้ หาก​มนุษย์​สามารถ​ตระหนัก​
และเ​ข้าใจถ​ ึงธ​ รรม ซึ่งก​ ็ค​ ือธ​ รรมชาติแ​ ละก​ ฎข​ องธ​ รรมชาติ ตลอดจ​ นเ​ลือกท​ ี่​จะป​ ฏิบัติต​ นห​ รือด​ ำเนินช​ ีวิตใ​ห้ส​ อดคล้อง​
ไปก​ ับ​กฎข​ อง​ธรรมชาติ​นั่นเอง

       เมื่อ​พิจารณา​จาก​หลัก​ธรรม​สำคัญ​ที่​เป็น​รากฐาน​ที่​มี​ความ​สำคัญ​ต่อ​เศรษฐศาสตร์​แนว​พุทธ​จะ​พบ​ว่า​ใน​การ​
พิจารณาเ​ศรษฐศาสตร์แ​ นวพ​ ุทธน​ ั้นจ​ ะต​ ้องพ​ ิจารณาค​ รอบคลุมถ​ ึงห​ ลักแ​ ห่งก​ ารอ​ ิงอ​ าศัยซ​ ึ่งก​ ันแ​ ละก​ ันห​ รืออ​ ิท​ ัปป​ ัจยต​ า
และ​หลัก​ของ​ความไ​ม่เ​ที่ยง​แท้ข​ อง​ไตรลักษณ์ นั่นค​ ือ การพ​ ิจารณา​เศรษฐศาสตร์แ​ นว​พุทธผ​ ่าน​กิจกรรม​ทางเ​ศรษฐกิจ​
ใน​รูป​แบบ​ต่างๆ ที่​อิง​อาศัยแ​ ละ​จะ​ต้องค​ รอบคลุมม​ ิติค​ วามส​ ัมพันธ์ใ​นท​ ุกๆ ระดับข​ อง​ความส​ ัมพันธ์ คือ ความส​ ัมพันธ​์
ระหว่าง​กาย​และ​จิต​ใน​ตัว​มนุษย์​ซึ่ง​จะ​ได้​พูด​โดย​ละเอียด​ใน​เรื่อง​ที่ 15.1.3 ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​มนุษย์​กับ​มนุษย์​ใน​
สังคม และค​ วาม​สัมพันธ์ร​ ะหว่าง​มนุษย์ก​ ับ​ธรรมชาติ ดัง​ภาพท​ ี่ 15.1

         9 กฎ​ธรรมชาติ​ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​สัมพันธ์​และ​อาการ​ที่​เป็น​เหตุ​เป็น​ผล​แก่​กัน​และ​กัน​ของ​สิ่ง​ทั้ง​หลาย โดย​เฉพาะ​อย่าง​ที่​เรียกกัน​ว่า​เป็น​ไป​
ตามธ​ รรมดา เช่น สิ่ง​ทั้งห​ ลาย​มีค​ วามเ​กิด​ขึ้น ตั้ง​อยู่ และด​ ับ​ไปเ​ป็น​ธรรมดา เช่น คน​ย่อม​มี​ความ​เกิด ​แก่​ เจ็บ ​ตาย ​เป็น​ธรรมดาย​ ิ่ง บางค​ รั้ง​เรียกว​ ่า
ธรรมน​ ิยาม (The General Law of Cause and Effect) ธรรมน​ ิยามน​ ี้ม​ ีค​ วามห​ มายค​ รอบคลุมค​ วามเ​ป็นไ​ปท​ ั้งหมดใ​นธ​ รรมชาติต​ ามก​ ฎธ​ รรมชาติ
(พระธ​ รรม​ปิฎก 2538)	

                             ลขิ สิทธข์ิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
   235   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245